Whistleblower จากทหารอาชีพชื่อ โจ ดาร์บี้ ถึง เชลซี แมนนิ่ง

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน (Edward Snowden) ทวีตเรียกร้องขอความปรานีจากบารัค โอบามาว่า สิ่งหนึ่งที่เขาจะกระทำเพื่อเป็นการแสดงความเมตตาปรานีเป็นหนสุดท้ายก่อนอำลาตำแหน่งประธานาธิบดีได้ก็คือ การปลดปล่อยเชลซี แมนนิ่ง Chelsea Manning

แมนนิ่งถูกศาลตัดสินจำคุก 35 ปี ด้วยข้อหาอุกฉกรรจ์หลายข้อ เนื่องมาจากการเปิดเผยความลับทางทหารและทางราชการของสหรัฐฯ สมัยที่ยังรับราชการและยังไม่เปลี่ยนเพศในชื่อเก่าว่า Bradley Manning แบรดลีย์ แมนนิ่ง

สิ่งที่เขาเปิดเผยหลายเรื่องเป็นการเปิดโปงสหรัฐฯ ชนิดที่ถือว่าเป็นขบถทีเดียว เรื่องใหญ่ๆ ที่วิกิลีคส์นำไปเผยแพร่เช่นเบื้องหลังการโจมตีทางอากาศกรุงแบกแดดเมื่อเดือน กรกฎาคม 2007 dkiเปิดเผยข้อความจากการสื่อสารภายในและกับประเทศต่างๆ ที่ฮือฮาหลายเรื่อง วิกิลีคส์อ้างว่า การกระทำของแมนนิ่งนั้นมีคนเชื่อว่ามีส่วนส่งผลให้เกิดอาหรับสปริง แต่ตัวคนเปิดเผยความลับคือแมนนิ่งกลับถูกจับ ถูกดำเนินคดีและตัดสินโทษต้องถูกจองจำในเรือนจำ maximum security

ทวีตของสโนวเดนได้เรียกทั้งเสียงเชียร์และด่าเช่นเดียวกันกับการเปิดเผยข้อมูลทางทหารของแมนนิ่ง บางคนว่าเขาเป็นฮีโร่ แต่บางคนก็ก่นด่าว่าเขาเป็นกบฎ แต่ก็มีหลายคนบอกว่า ไม่ใช่เฉพาะแมนนิ่ง แต่ตัวสโนวเดนเอง รวมทั้งจูเลียน อัสสานจ์ Julian Assange สามคนนี้ที่เอาความลับราชการมาเปิดเผย แม้จะผิดกฎหมายแต่ช่วยทำให้สังคมตาสว่างขณะที่ตัวเองเผชิญชะตากรรมอันโหดร้าย  พวกเขาต่างล้วนแล้วควรได้รับความช่วยเหลือทั้งสิ้น

อันที่จริงแล้ว ถ้าจะพูดถึงชะตากรรมของพวกเปิดโปงความลับทางการ whistleblower เราควรรำลึกถึง  โจ ดาร์บี้ Joe Darby อดีตทหารอเมริกันที่ทำให้โลกได้รับรู้เรื่องการทรมานนักโทษของทหารอเมริกันในค่ายอาบูกราอิบ  คนที่เปิดโปงไปแล้วรักษาหน้าตากองทัพอเมริกันไว้ได้แต่ตัวเองเอาตัวแทบไม่รอด

เรื่องนี้ควรค่าแก่การใส่ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบรรยากาศ impunity ที่เมืองไทยมีอย่างเปี่ยมล้น และภายใต้วิธีคิดไม่ฟ้องนายไม่ขายเพื่อน

โจ ดาร์บี้ เคยเป็นสารวัตรทหาร (military police MP) ของกองทัพสหรัฐฯ ทำงานในอิรัก เรื่องเกิดเมื่อปี 2004 เขาไปทำงานที่นั่นได้เจ็ดเดือน วันหนึ่งมีคนส่งซีดีรูปเพื่อนๆ มาให้เขาดู ดาร์บี้เปิดดูตอนแรกเจอรูปคนเปลือยกองสุมกัน เขายังนั่งขำ เพราะคิดว่าเป็นเพื่อนๆ ทำอะไรบ้าๆ บอๆ ตามปกติทหารที่นั่น แต่พอดูไปเรื่อยๆ เขาเริ่มตระหนักว่า รูปที่เห็นคือนักโทษชาวอิรักในเรือนจำอาบูกราอิบ ภาพต่อๆ มาเป็นภาพการทรมานนักโทษ เพื่อนเขาทุบตีนักโทษ ทหารหญิงเอาเชือกล่ามนักโทษราวกับสุนัข หลายภาพเป็นการกระทำที่แสดงควาดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องขังโดยทหาร

ดาร์บี้เห็นภาพเหล่านั้นแล้วจึงรู้สึกอึดอัดอย่างหนัก จนต้องลุกออกไปอัดบุหรี่มวนแล้วมวนเล่าท่ามกลางอากาศร้อนฉ่าของอิรัก เขาถกเถียงกับตัวเองอย่างหนัก เป็นเวลากว่าสามสัปดาห์ ก่อนที่จะตัดสินใจได้ว่า เขาจะไม่เพิกเฉยและตัดสินใจรายงานเรื่องดังกล่าวไปตามลำดับชั้น จนทำให้เกิดการสอบสวน เพื่อนๆ ของเขาถูกทำโทษ เพราะนี่หมายถึงการกระทำที่ผิดอนุสัญญาเจนีวา และความไม่เป็นมืออาชีพของทหารอเมริกัน

ดาร์บี้คิดว่าเขาทำตามหน้าที่ของเขา และตามระเบียบการกระทำเช่นนี้ เขาสามารถขอให้กองทัพปกปิดชื่อของเขาได้ ซึ่งตอนแรกก็เป็นเช่นนั้น แต่ปรากฏว่าโดนัลด์ รัมสเฟลด์ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ในตอนนั้นได้เปิดเผยชื่อของดาร์บี้ว่าเขาเป็นคนเปิดโปงเรื่องนี้ต่อที่ประชุมวุฒิสภา ในวันนั้นเขากำลังกินข้าวอยู่ในโรงอาหารพร้อมทหารอีกจำนวนนับไม่ถ้วน

คิดดูก็แล้วกันว่ามันน่าสยองขนาดไหน

ดาร์บี้เล่าว่า ในช่วงที่อยู่ที่นั่นเขาหวาดกลัวมาก กลัวว่าในระหว่างนั้นอาจตายด้วยน้ำมือของเพื่อนทหารด้วยกันที่เกลียดชังเขา เพราะเขาทำให้ทหารอเมริกันต้องติดคุก

ผลของการเปิดโปงการกระทำของเพื่อนทหารด้วยกัน และผลของการที่รัมสเฟลด์เปิดเผยชื่อดาร์บี้ให้สาธารณะได้รับรู้ ทำให้ชีวิตของเขาและครอบครัวเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้า พวกเขาต้องย้ายที่อยู่เพราะสังคมรอบด้านไม่ยอมรับ บ้านโดนงัดแงะ ถูกข่มขู่ เขาและภรรยาต้องเปลี่ยนงาน

ดาร์บี้ได้รับการยกย่องจากสื่อมวลชน สื่อหลายแห่งได้สัมภาษณ์เขา แต่ในเพจวิกีลีคมีข้อมูลว่า เขาได้รับจดหมายจากรัมสเฟลด์ที่ขอร้องให้เขาหยุดพูดเรื่องที่อดีต รมว.กลาโหมคนนี้เปิดโปงชื่อของเขาเสียที โดยบอกว่าไม่ได้ตั้งใจเพราะไม่รู้ว่าต้องเก็บชื่อของดาร์บี้ไว้เป็นความลับ จากที่ดาร์บี้ให้สัมภาษณ์บีบีซีเรดิโอ 4 เอาไว้ เขาบอกว่า เขาไม่เชื่อว่าคนเป็นถึง รมว.กลาโหมจะไม่รู้เรื่องเช่นนี้ ...ก็แน่นอนว่าไม่ใช่ดาร์บี้คนเดียวที่คิดแบบนี้

เพราะการกระทำของดาร์บี้ทำให้ทหารอเมริกันที่เกี่ยวข้องถูกลงโทษ ดาร์บี้เสียเพื่อน เขาบอกว่าสิ่งที่ติดตาเขาอย่างมากก็คือสายตาของ ชารลส์ กราเนอร์เพื่อร่วมงานที่จ้องมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อข้ามห้องพิจารณาคดี

แต่ดาร์บี้ยืนหยัดในสิ่งที่เขาทำว่าเป็นสิ่งที่ถูก เขาไม่มองตัวเองเป็นฮีโร่ หรือว่าเป็นคนเลวที่กระทำการขายเพื่อน เขาบอกว่า เขาก็แค่ทำหน้าที่ของทหารเท่านั้น ไม่มากหรือน้อยไปกว่านั้น และแม้ชีวิตจะยากลำบากอย่างยิ่ง แต่เขาบอกว่าไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป

ทหารที่มืออาชีพยังมีอยู่อย่างน้อยก็เขาคนนี้นี่เอง

 

 

หมายเหตุ: เรียบเรียงจาก http://news.bbc.co.uk/2/hi/middle_east/6930197.stm และ https://en.wikipedia.org/wiki/Chelsea_Manning
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท