คสรท. เลือก 'สาวิทย์ แก้วหวาน' เป็นประธาน

คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) เลือกกรรมการชุดใหม่ หลังชุดเก่าหมดวาระ ได้สาวิทย์ แก้วหวาน นั่งประธาน พร้อมเดินหน้าประสานงาน บริหารแบบมีส่วนร่วม ผลักดันยุทธศาสตร์สร้างเอกภาพแรงงาน
 
 
ที่มาภาพ: voicelabour.org
 
15 ม.ค. 2560 เว็บไซต์ voicelabour.org รายงานว่าคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ได้จัดประชุมสามัญประจำปี 2559 ณ สโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร  นายชาลี ลอยสูง รักษาการประธาน คสรท. กล่าวว่า การทำงานร่วมกันของ คสรท.เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายร่วมกัน รวมถึงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ใช้แรงงานให้ได้รับความเป็นธรรม การทำงานเชิงข้อมูล ข่าวสาร ซึ่งสื่อมวลชนให้ความยอมรับ และร่วมนำเสนอข่าวทุกครั้ง
 
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวผลักดันทางนโยบาย เช่น การประกันสังคม การฟ้องร้องเรื่องการบริหารของสำนักงานประกันสังคม ค่าจ้างขั้นต่ำ อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) สิทธิในการรวมตัวเจรจาต่อรองร่วมเพื่อการคุ้มครอง กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายคุ้มครองแรงงาน เป็นต้น และล่าสุดปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ที่ส่งผลกระทบกับพ่อ แม่ ญาติ พี่น้องของผู้ใช้แรงงาน ทางคสรท.ได้ระดมข้าวของต่างๆ รวมถึงเงินลงไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบด้วย
 
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ที่ปรึกษา คสรท. กล่าวว่าขบวนการแรงงานควรมีแนวคิดมุมมองด้านสวัสดิการที่เต็มรูแแบบ การประกันสังคมคือสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ต้องสร้างให้เกิดสวัสดิการที่เท่าเทียมกัน ระบบประกันสังคมต้องมีความเหมาะสมตอบสนองความต้องการผู้ประกันตน เช่นการจัดบำนาญชราภาพต้องให้ทุกคนได้รับ และอยูได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดูจากการรับสิทธิ์ หรือการสมทบที่จำกัดเพดานสูงสุด 15,000 บาท แต่การจ่ายสิทธิประโยชน์คิดที่เงิน 60 เดือนสุดท้าย ต่างกับข้าราชการ หรือรัฐวิสาหกิจที่รับบำนาญจากเงินเดือนๆสุดท้าย ผู้ใช้แรงงานต้องมองด้วยว่าบำนาญนี้อยู่ได้อย่างสมศักดิ์ศรีความมนุษย์หรือไม่ เท่าเทียมหรือยัง ซึ่งการเมืองเกี่ยวข้องในการกำหนดนโยบาย แรงงานต้องเป็นมากกว่าการใช้สิทธิเลือกตั้งแรงงานต้องสามารถกำหนดนโยบาย เข้าไปมีส่วนร่วมจริงๆในการเปลี่ยนแปลง ต่อไปโลกเข้าสู่สังคมสูงอายุแล้วบำนาญชราภาพต้องอยู่ได้ 
 
จากการรายงานผลงานยุทธศาสตร์การดำเนินกิจกรรมประจำปี 2559 รวม 4 ยุทธศาสตร์ สรุปได้ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ขบวนการแรงงานไทยก้าวสู่การเป็นพลังนำในการสร้างความเสมอภาคและเป็นธรรม ยุทธศาสตร์ที่ 2 การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเพื่อเอื้อต่อการสร้างขบวนการแรงงานให้เข้มแข็ง ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเสริมสร้างความเข้มแข็งของขบวนการแรงงานในเชิงปริมาณ และยุทธศาสตร์ที่ 4 เสริมสร้างความเข้มแข็งขบวนการแรงงานในเชิงคุณภาพ
 
ซึ่ง คสรท.ได้มีการทำงานในการนำเสนอนโยบายด้านแรงงาน เพื่อบรรจุในรัฐธรรมนูญ  การเข้าไปมีส่วนราวมกับภาคประชาชนต่างๆ ให้เดินทางปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ในเวทีต่างๆ การเปลี่ยน หรือปรับกฎหมายต่างๆด้านแรงงาน เช่น ปฏิรูปประกันสังคม กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายคุ้มครองแรงงาน อนุสัญญาILO ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 การรวมตัวเจรจาต่อรองร่วม การละเมิดสิทธิแรงงาน การจ้างงานเหมาค่าแรงงาน ปัญหาแรงงานข้ามชาติ การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ การรณรงค์ในวันสำคัญต่างๆ เช่นวันกรรมกรสากล วันงานที่มีคุณค่า วันสตรีสากล วันแรงงานข้ามชาติสากล วันความปลอดภัยในการทำงาน และงานรำลึก 6 ตุลา 14 ตุลา พฤษภาทมิฬ  การทำงานด้านการสื่อสาร การควบรวมองค์กรสหภาพแรงงาน การจัดตั้งสหภาพแรงงาน การจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรม การจัดเก็บค่าบำรุงเป็นระบบเปอร์เซ็น เพื่อการสร้างความเข้มแข็งทั้งเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ ซึ่งมีการขับเคลื่อนผลักดันร่วมกันทำงานในปีที่ผ่านมา 
 
ต่อมาได้มีการแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นการขับเคลื่อนทั้ง 4 ยุทธศาสตร์ โดยที่ประชุมเห็นว่าการทำงานของคสรท.ถือว่ามีการทำงานครอบคลุมทุกประเด็น และมีความเข้มข้นในการเคลื่อนไหวผลักดันให้รัฐเกิดการแก้ไขปัญหาทั้งเชิงนโยบายด้านสิทธิและสวัสดิการ กฎหมายต่างๆ ทั้งแรงงานในระบบ แรงงานนอกระบบ แรงงานข้ามชาติ และแรงงานรัฐวิสาหกิจ จึงเสนอให้มีการเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านหลักต่อไป ซึ่งบางส่วนมองว่า การทำงานเชิงนโยบายหลายอย่างแม้ว่าจะยังไม่ได้หมดทุกประเด็นแต่ก็เกิดการเปลี่ยนด้านสิทธิ 
 
จากนั้นได้มีการจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งประธานได้แก่นายสาวิทย์ แก้วหวาน รองประธาน 3 คน ได้แก่ นายชาลี ลอยสูง นางสาวธนพร วิจันทร์ นายสมพร ขวัญเนตร เลขาธิการ คือ นายลาเร่ อยู่เป็นสุข รองเลขาธิการ นางอภันตรี เจริญศักดิ์ เหรัญญิกนางสาวดาวเรือง ชานก และกรรมการเป็นตัวแทนในพื้นที่ต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิก
 
นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธาน คสรท.คนใหม่กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เมื่อได้รับการเลือกตั้งเป็นประธาน ซึ่งเดิมก็ทำงานร่วมกันมาโดยตลอดในหลายตำแหน่ง ทั้งเลขาธิการ รองประธาน การทำงานของคสรท.นั้น ยังคงเน้นการทำงานแบบมีส่วนร่วมโดยการทำงานต้องเป็นแบบแนวราบ หรือแนวนอน จะไม่ทำงานแบบแนวตั้ง จากล่างสู่ หรือบนสู่ล่าง ประธานต้องอาศัยความร่วมมือจากสมาชิกในการทำงาน ซึ่งจะทำงานด้านการประสานงาน ให้ขบวนการแรงงานมีความเป็นเอกภาพมากขึ้น ซึ่งแผนงานยุทธศาสตร์ที่มีอยู่ถือเป็นนโยบายที่ร่วมกันขับเคลื่อนร่วมกันมานาน ซึ่งต้องนำมาจัดทำเป็นแผนงานประเด็นต่าง ๆ ที่ต้องกำหนด เพื่อขับเคลื่อนเร็ว การแก้ไขปัญหาในเรื่องต่าง ๆ ก็ต้องทำ ซึ่งจะมีการกำหนดแผนงานอีกครั้ง
 
ด้านนายชาลี กล่าวอีกว่า การทำงานของคสรท.นั้นเป็นการทำงานที่ต้องมองถึงสังตมด้วย ซึ่งขณะนี้การลงพื้นที่ในการให้ความช่วยพี่น้องทางภาคใต้ การระดมความช่วยเหลือต่างๆลงพื้นที่ ต้องขอให้ช่วยกันทำต่อ และคงละเลยเรื่องการแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องแรงงานก็ไม่ได้นอกจากการทำงานตามยุทธศาสตร์ที่มี วันนี้ คสรท.ได้ประธานคนใหม่ซึ่งถือว่าเป็นคนที่มีบทบาทการทำงานในขบวนการแรงงานมานาน คสรท.เป็นที่คาดหวังในการแก้ปัญหาต่างๆด้านแรงงานจึงเห็นควรด้วย 
 
ทั้งนี้วันนี้เมื่อรับตำแหน่งแล้วได้มีสมาชิกส่วมหนึ่งมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมที่ภาคใต้ด้วย
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท