1 ก.พ. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายติดตามการปฏิรูปตำรวจ (Police Watch) ได้เผยแพร่แถลงการณ์ ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีกระจายอำนาจตำรวจออกจากส่วนกลาง ประกอบด้วย กระจายอำนาจตำรวจออกจากการรวบอำนาจไว้ที่หน่วยกลาง โดยเร่งดำเนินการตาม มติ สปช. และมติครม. 30 ก.ย. 2558 ในการโอนหน่วยตำรวจที่มีส่วนราชการอื่นรับผิดชอบตามกฎหมายไปอยู่ในสังกัด จำนวน 9 หน่วย ได้แก่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจคุ้มครองผู้บริโภค ตำรวจทางหลวง ตำรวจจราจร ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ ตำรวจป้องกันการกระทำผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี ตำรวจน้ำ ตำรวจรถไฟ และอื่นๆ
แถลงการณ์เรียกร้องด้วยว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาให้พนักงานอัยการมีอำนาจตรวจสอบควบคุมการสอบสวนในคดีสำคัญหรือเมื่อได้รับการร้องเรียนตั้งแต่เกิดเหตุ แยกงานสอบสวนออกจากตำรวจ โดยจัดตั้งสำนักงานสอบสวนคดีอาญา สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้รับผิดชอบงานสอบสวน หรือแยกเป็นอิสระ และให้มีการกระจายอำนาจออกจากส่วนกลางสู่จังหวัด เพิ่มการมีส่วนร่วมของภาคสังคม ให้มีการติดตามตรวจสอบ มีกลไกที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตต่อไป เพื่อรับใช้สังคม รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
แถลงการณ์ เครือข่ายติดตามการปฏิรูปตำรวจ (Police Watch) ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีกระจายอำนาจตำรวจ
ตามที่ภาคประชาชนได้ก่อตั้งเครือข่ายติดตามการปฏิรูปตำรวจ (Police Watch) ขึ้น เพื่อทำงานติดตามการปฏิรูปตำรวจ และผลักดันการปฏิรูปตำรวจจากภาคประชาชนคู่ขนานไปกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีการเขียนไว้ให้มีคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ตลอดจนตรวจสอบการบริหารระบบงานตำรวจ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาระบบตำรวจทั้งระบบซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศไทย หากแก้ไขได้ ถึงจะเท่ากับการปฏิรูปประเทศไทยอย่างแท้จริง
ปัจจุบันปัญหาระบบตำรวจกลายเป็นโครงสร้างอำนาจและผลประโยชน์จำนวนมหาศาล ที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่น่าจะได้ประโยชน์มากกว่าตำรวจชั้นผู้น้อย เนื่องจากระบบงานตำรวจไม่มีความเป็นธรรม ช่องว่างในการบังคับใช้กฎหมายในความรับผิดชอบอาจทำให้เกิดอาชญากรรมในระบบราชการ และระบบส่วยมากมายถูกครหาว่าเป็นสาเหตุทำให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่ำรวยทรัพย์สินมากมายโดยที่ไม่มีการตรวจสอบที่มาอย่างละเอียด การบังคับใช้กฎหมายกับประชาชนที่ผ่านมาจึงเกิดความลักลั่น ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจำนวนมากจนเกิดกระแสสังคมเรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้างตำรวจโดยเร่งด่วน
เครือข่ายติดตามการปฏิรูปตำรวจ (Police Watch) จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและผู้รับผิดชอบทุกฝ่ายยอมรับความจริงว่า การจัดโครงสร้างองค์กรและระบบการบริหารงานตำรวจแบบกองทัพที่รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง แม้กระทั่งกองบัญชาการตำรวจต่างๆ ปัจจุบันนั้น มีปัญหาในระดับปฏิบัติ และส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของตำรวจส่วนใหญ่ ที่ต้องทำงานสัมผัสกับประชาชนในพื้นที่ มีความคุ้นเคยต่อภูมิประเทศและผู้คน แต่ไม่มีความเจริญก้าวหน้าในพื้นที่ของตน เนื่องจากโครงสร้างอำนาจตำรวจไม่เอื้ออำนวย
การบริหารแบบรวมศูนย์อำนาจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผูกขาดงานสอบสวนไว้ที่ตำรวจเพียงหน่วยเดียว โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของรัฐทางปกครองในจังหวัดยังมีอำนาจสอบสวนอยู่ แต่ต่อมามีการรวบอำนาจไว้ที่ตำรวจหน่วยงานเดียว ก่อให้เกิดปัญหาตำรวจผู้ใหญ่ทุจริตรับส่วยสินบนจากผู้กระทำผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆ ซึ่งยากแก่การตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นเจ้ามือหวยใต้ดิน บ่อนการพนัน สถานบันเทิง รถบรรทุกผิดกฎหมาย รถตู้โดยสาร นายทุนเงินกู้ผิดกฎหมายและการซื้อขายตำแหน่งตำรวจระดับต่างๆ ที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดเองว่าจำเป็นต้องกำหนดมาตรการป้องกันแก้ปัญหา และปัญหาอื่นๆ อีกมากซึ่งเป็นเรื่องที่ตำรวจผู้น้อยและประชาชนรู้กันทั่วไป รวมถึงปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ตามมา คือ การที่ตำรวจไม่ยอมรับแจ้งความรับคำร้องทุกข์จากประชาชนเพื่อดำเนินการสอบสวนตามกฎหมาย หรือการไม่พยายามสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ ซึ่งเกิดปัญหาเหล่านี้มากขึ้น
เครือข่ายประชาชนติดตามการปฏิรูปตำรวจ (Police Watch) จึงขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินการปฏิรูประบบตำรวจโดยเร็วทั้งในระยะสั้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจในระยะยาวโดยการกระจายอำนาจออกจากส่วนกลาง ดังนี้
1. กระจายอำนาจตำรวจออกจากการรวบอำนาจไว้ที่หน่วยกลาง โดยเร่งดำเนินการตาม มติ สปช. และมติครม. 30 ก.ย. 2558 ในการโอนหน่วยตำรวจที่มีส่วนราชการอื่นรับผิดชอบตามกฎหมายไปอยู่ในสังกัด จำนวน 9 หน่วย ได้แก่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจคุ้มครองผู้บริโภค ตำรวจทางหลวง ตำรวจจราจร ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ ตำรวจป้องกันการกระทำผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี ตำรวจน้ำ ตำรวจรถไฟ และอื่นๆ
2. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาให้พนักงานอัยการมีอำนาจตรวจสอบควบคุมการสอบสวนในคดีสำคัญหรือเมื่อได้รับการร้องเรียนตั้งแต่เกิดเหตุ
3. แยกงานสอบสวนออกจากตำรวจ โดยจัดตั้งสำนักงานสอบสวนคดีอาญา สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้รับผิดชอบงานสอบสวน หรือแยกเป็นอิสระ
4. ให้มีการกระจายอำนาจออกจากส่วนกลางสู่จังหวัด เพิ่มการมีส่วนร่วมของภาคสังคม ให้มีการติดตามตรวจสอบ มีกลไกที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตต่อไป เพื่อรับใช้สังคม รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
เครือข่ายติดตามการปฏิรูปตำรวจ (Police Watch)
1 กุมภาพันธ์ 2560