Skip to main content
sharethis

นักวิชาการฝ่ายซ้ายของฟิลิปปินส์มองกรณีสั่งห้ามคน 7 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐฯ ระบุมีหัวอกเดียวกันเพราะเขาก็รู้สึกถูกปิดกั้นและถูกตรวจเข้มงวด เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ตัวบุคคลอย่างทรัมป์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องระบบราชการตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ เองด้วยที่มีอคติต่อชาวมุสลิมหรือคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่คนขาวอยู่แล้ว

4 ก.พ. 2560 วอลเดน เบลโล ประธานคณะกรรมการกิจการแรงงานข้ามชาติในสภาผู้แทนฯ ฟิลิปปินส์และคอลัมนิสต์ของเว็บไซต์วิเคราะห์นโยบายต่างประเทศ (Foreign Policy In Focus หรือ FPIF) เขียนบทความแสดงมุมมองต่อนโยบายการปิดกั้นคนเดินทางเข้าสหรัฐฯ จาก 7 ประเทศที่ริเริ่มโดยรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะที่เขาเป็นชาวฟิลิปปินส์ผู้เคยถูกคุมขังเพื่อไต่สวนและถูก "กักตัวไว้ตรวจขั้นที่สอง" แทบทุกครั้งที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ ทำให้เขารู้สึกมีหัวอกเดียวกับคนที่ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพในการเดินทาง

เบลโลระบุว่าการที่เขาถูกกักตัวไว้ก่อนเข้าสหรัฐฯ เป็นประจำนั้นเป็นเพราะเขาเคยมีประวัติเป็นผู้นำการประท้วงในสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านเผด็จการ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ในช่วงราว 40 ปีที่แล้ว และถูกจับหลายครั้ง แต่ในมุมมองของเขาแล้วการคำสั่งพิเศษของรัฐบาลทรัมป์ที่ปิดกั้นการเดินทางจากประเทศต่างๆ ไม่ใช่เรื่องแบบเดียวกับการปิดกั้นตัวเขา มันไม่เกี่ยวกับการตรวจตราตัวบุคคลหรือไม่ใช่แม้แต่จะเป็นเรื่องความมั่นคง เนื่องจากรัฐบาลทรัมป์สั่งห้ามแบบเหมารวมทั้งหมดจากคนที่มาจากประเทศที่ชาวมุสลิมมีอิทธิพล ไม่ว่าบุคคลเหล่านั้นจะมีวีซ่า เป็นผู้ลีภัย หรือเป็นพลเมืองถาวรในสหรัฐฯ แล้วก็ตาม

เบลโลมองว่าคำสั่งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ แต่เป็นเพียงแค่การพยายามรักษาภาพอเมริกันแบบเทพนิยายที่มีคนขาวกับชาวคริสต์ไว้ มันเป็นประเด็นเรื่องการอพยพย้ายถิ่นฐาน เขาตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อใดก็ตามที่ทรัมป์ใช้คำว่า "ผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงอิสลาม" ทรัมป์จะเน้นคำว่า "อิสลาม" รวมถึงนำเรื่องนี้มาโจมตีบารัก โอบามา ว่าโอบามาปฏิเสธว่าศาสนาอิสลามมีส่วนส่งเสริมการก่อการร้าย การเมืองของทรัมป์จึงเป็นการเมืองของการแบ่งแยกกีดกันออกไป และนำเสนอมันออกมาอย่างตรงไปตรงมาด้วยคำสั่งห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ

นอกจากนี้ทรัมป์ยังพยายามสร้างกำแพงเพื่อกีดกันชาวเม็กซิกันออกไป เบลโลมองว่า "ชาวเม็กซิกัน" ในความหมายของทรัมป์และคนที่สนับสนุนเขาไม่ใช่แค่ชาวเม็กซิกันที่เป็นสัญชาติอย่างเดียว แต่เป็นคนเชื้อสายลาตินอเมริกาทั้งหมด เวลาที่ทรัมป์โจมตีว่าจีนทำการค้าอย่างไม่เป็นธรรมเขาไม่ได้พูดถึงแต่เรื่องการค้า แต่ "จีน" ในความหมายของทรัมป์คือภาพเหมารวมชาวเอเชียที่ถูกตีขลุมว่าเป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยมและจะมาเอาเปรียบคนอเมริกัน เรื่องนี้แม้แต่เด็กก็เข้าใจได้ ถ้าหากลองถามเด็กชาวเอเชีย-อเมริกัน ที่ถูกเพื่อนที่โรงเรียนเยาะเย้ยถากถางดู

เบลโลระบุว่านโยบายของทรัมป์เป็นการรวบเอาเศรษฐกิจ ความมั่นคง เรื่องผู้อพยพ และความหวาดกลัวคนนอกเอาไว้ด้วยกัน ความกลัวที่ว่าคือการกลัวสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ใช่คนขาว ไม่ใช่ชาวคริสต์ ทรัมป์สร้างอะไรแบบนี้ขึ้นมาได้โดยขุดเอาจากอคติที่แฝงฝังอยู่ลึกๆ ในตัวชาวอเมริกัน

มีการประเมินสถานการณ์จากเบลโลว่าเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะออกคำสั่งพิเศษเกี่ยวกับเรื่องผู้อพยพในแบบที่เป็นแนวทางขอฝ่ายขวาอีก แต่ระเบียบและกฎหมายเกี่ยวกับคนเข้าเมืองในสหรัฐฯ ก็ให้อำนาจปฏิบัติการต่างๆ แก่ประธานาธิบดีมากพออยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีระบบที่ไม่เป็นไปตามหลักการกฎหมาย แต่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกและอคติของคนที่ไต่สวนคุณ ใครที่ผ่านกระบวนการนี้มาได้ก็จะเจอแบ่งคนตามโควต้าเป็นประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ หรือสถานะ ชนชั้น ซึ่งไม่ควรจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของคนที่ต้องการเข้าสู่สหรัฐฯ เลย เบลโลประเมินว่าการใช้ดุลยพินิจอย่างบีบคั้นเช่นนี้อาจจะเพิ่มมากขึ้นอีกในสมัยของทรัมป์

ถึงแม้ว่าประเทศฟิลิปปินส์จะยังไม่เป็นหนึ่งใน 7 ประเทศที่ถูกห้าม แต่ทรัมป์ก็เคยบอกว่าฟิลิปปินส์เป็นแหล่งผู้ก่อการร้ายและเป็นหนึ่งในประเทศต้นๆ ที่เขาน่าจะขึ้นบัญชีดำ ทรัมป์เป็นคนที่ทำตามใจตัวเองและมีความลื่นไหลไปตามอารมณ์ การต่อต้านมุสลิมอย่างออกนอกหน้าของเขาก็เป็นจุดยืนที่ทำให้อคติต่อชาวมุสลิมในระบบราชการฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ แข็งกร้าวขึ้นเท่านั้น 

เบลโลจึงเสนอแนะให้แทนที่จะยอมรับคำสั่งพิเศษของทรัมป์ รัฐบาลฟิลิปปินส์ควรออกมาประณามผ่านหน้าสื่อเพื่อเป็นการสร้างแรงสะท้อนแบบหยาบๆ กลับไป เพราะมีชาวฟิลิปปินส์ที่เป็นมุสลิมอยู่ในสหรัฐฯ หลายพันคน หรือแม้กระทั่งรัฐบาลอื่นๆ ก็ควรส่งเสียงประณามในเรื่องนี้ไม่ว่าจะมาจากการคำนึงถึงความเหมาะสม การต้องการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว หรือแม้แต่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ตัวเองก็ได้

 

เรียบเรียงจาก

Trump’s Travel Ban: The View from One Permanently on U.S. Immigration’s Watch List, Walden Bello, FPIF, 02-02-2017
http://fpif.org/trumps-travel-ban-view-one-permanently-u-s-immigrations-watch-list

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net