บริการรับ-ส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชันต้องสะดุด ล่าสุด มีการเผยคลิปขนส่งเชียงใหม่ล่อจับรถยนต์รับส่งผู้โดยสารของแอปพลิเคชัน Uber โดยขนส่งเชียงใหม่ยังแถลงด้วยว่าทั้ง Uber และ Grab Car ผิดกฎหมาย ขอให้ประชาชนนั่งรถขนส่งที่จดทะเบียนตามกฎหมาย

คลิปของ Surapin Khomranats ที่โพสต์ลงในเพจ CM108 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ในขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ล่อให้รถบริการของแอปพลิเคชัน Uber มาที่สำนักงานขนส่ง จ.เชียงใหม่ ก่อนดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท

ภาพซ้ายจากคลิปในขณะที่เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ล่อจับรถ Uber ภาพขวารถสี่ล้อแดง ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทรถยนต์ที่จดทะเบียนเป็นรถขนส่งสาธารณะใน จ.เชียงใหม่

ขณะเดียวกัน สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ โดย ชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้แถลงด้วยว่า ตามที่ปรากฏตามสื่อโซเชียลมีเดียว่ามีผู้ให้บริการรถรับจ้างส่งผู้โดยสารในลักษณะแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน Uber Taxi และ Grab Car ด้วยรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ฐานใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียน มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท จึงขอแจ้งมายังเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทุกรายที่เข้าร่วมกับสมาชิกของแอปพลิเคชันดังกล่าว ให้หยุดกระทำการที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบ หรือมีผู้แจ้งเบาะแสจะดำเนินการตามกฎหมายเปรียบเทียบปรับสูงสุดทันที ทุกราย

สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ยังย้ำให้ประชาชนเลือกใช้แท็กซี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยในการให้บริการ และอย่าหลงเชื่อการสร้างแรงจูงใจด้วยเหตุผลต่างๆ ข้อสำคัญผู้โดยสารอาจไม่ได้รับความปลอดภัยเนื่องจากรถดังกล่าวไม่เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลในการตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก

ก่อนหน้านี้ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิได้จับรถ Uber ที่เข้ามารับผู้โดยสาร และเปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท โดยผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชี้แจงว่าไม่อนุญาตให้รถอูเบอร์เข้ามารับผู้โดยสาร เนื่องจากไม่จดทะเบียนเป็นรถขนส่งสาธารณะ ไม่เปิดมิเตอร์ เข้าข่ายมีความผิดตามข้อกำหนดของ ทอท. ว่าด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัย หากในอนาคต Uber ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ก็จะอนุญาตให้เข้ามารับผู้โดยสารได้ (อ่านข่าวก่อนหน้านี้)