Skip to main content
sharethis

ผู้ว่า กทม. แจงรื้อเพิ่มอีก 4 หลัง ได้รับความร่วมมือจากประชาชน ชาวป้อมมหากาฬ ย้ำรื้อเฉพาะบ้านที่ยินยอมเท่านั้น ขอมีส่วนร่วมทุกกระบวนการ ทหารเข้ามาเป็นคนกลาง 

ภาพจากเพจ ชุมชนป้อมมหากาฬ 

6 มี.ค. 2560 กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานว่า วันนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) จักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการรื้อย้ายชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา สำนักงานเขตพระนคร เจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง ร่วมปฏิบัติการตามแผนการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างบริเวณป้อมมหากาฬ จำนวน 4 หลัง โดยมีคณะผู้บริหารสำนักการโยธา สำนักเทศกิจ สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการแพทย์ สำนักงานเขตพระนคร สำนักงานกฎหมายและคดี สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฏร์ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ร่วมดำเนินการ 

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ว่า กทม.ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติการรื้อย้ายชุมชนบริเวณป้อมมหากาฬ ประกอบด้วย สำนักการโยธาจัดคนงานจำนวน 90 คน เพื่อจัดทำบัญชีทรัพย์สินที่จะขนย้ายออกจากโรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง รวบรวมควบคุมทรัพย์สิน และจัดหาเครื่องมือ อาทิ ค้อน เลื่อย ลัง เชือก ในการดำเนินการ ขณะที่สำนักงานก่อสร้างและบูรณะ สำนักการโยธาจัดคนงาน 48 คน สำหรับการรื้อย้ายโรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง จัดรถบรรทุก 6-10 ล้อ จำนวน 10 คัน เพื่อใช้ในการขนย้ายไปยังสถานที่เจ้าของต้องการ และสนับสนุนอุปกรณ์ในการรื้อถอน ส่วนสำนักงานเขตพระนคร สำนักเทศกิจ ได้ร่วมจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ นอกจากนี้กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1รักษาพระองค์ ยังได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารร่วมรักษาความสงบและเจรจากับแกนนำ จำนวน 20 นาย 

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า การรื้อย้ายบ้านเรือนในชุมชนป้อมมหากาฬในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชน โดยเมื่อวัน 4 มี.ค.ที่ผ่านมา กทม.ได้เข้าไปดำเนินการขนย้ายขยะและเก็บซากวัสดุภายในป้อมมหากาฬ ซึ่งได้ดำเนินการรื้อถอนไว้เมื่อปลายปีที่แล้วแต่ยังขนย้ายไม่หมด โดยจากการลงพื้นที่พูดคุยกับแกนนำได้ข้อตกลงกันว่า ในวันนี้จะรื้อย้ายอีก 4 หลังพร้อมทั้งขนย้าย ซึ่งกทม.ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่จาก 12 สำนักงานเขต ช่วยในการขนย้ายตามข้อตกลงที่พูดคุยกันไว้ โดยจะดำเนินรื้อย้ายทั้ง 4 หลังให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ ประกอบด้วย บ้านเลขที่ 61 บ้านเลขที่ 95 บ้านเลขที่ 107/1-3 และบ้านขายดอกไม้ไฟ ส่วนบ้านเลขที่ 203 ได้ดำเนินการรื้อย้ายไปเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกทม.ได้พยายามเจรจาพูดคุยกันมาตลอด รวมทั้งมีความเข้าใจประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในบริเวณป้อมมหากาฬ ในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน จึงไม่ดำเนินการที่ต้องใช้ความรุนแรง ยกเว้นแต่จะมีการกระทำผิดกฎหมาย สำหรับในวันนี้กำหนดรื้อถอน จำนวน 4 หลัง โดยจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการรื้อย้ายหลังละ 25 คน หลังจากนั้นจะนัดเจรจาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อดำเนินการรื้อย้ายหลังที่เหลือต่อไป

ชาวป้อมฯย้ำรื้อได้เฉพาะที่ยินยอมเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชุมชนป้อมมหากาฬ ได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ ออกจากปัญหาด้วยการเจรจาอย่างมีส่วนร่วม เนื่องมาจากประกาศกรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 2 มี.ค. 2560 ระบุว่า กรุงเทพมหานครจะเข้าทำการรื้อถอนโรงเรือนสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายทรัพย์สินสัมภาระจำนวน 10 หลัง ซึ่งประกาศฉบับดังกล่าวเกิดจากการประชุมเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2560 ซึ่งมีผู้แทนในการร่วมประชุม คือ หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ผู้แทน สน.สำราญราษฎร์ สำนักงานเขตพระนคร สำนักการโยธา ซึ่งขาดหน่วยงานทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ (ป.พัน 1 รอ.) เข้าร่วม ดังที่เคยตกลงกันไว้ ทางชุมชนป้อมมหากาฬจึงมีความกังวลต่อแนวทางการปฏิบัติจึงออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ 1 การดำเนินการทุกกรณีระหว่างกรุงเทพมหานครกับชุมชนป้อมมหากาฬ ขอให้ ป.พัน 1 รอ. เข้ามาทำหน้าที่เป็นคนกลาง 2 ขอให้กรุงเทพมหานครเข้ามาจัดเก็บขยะเนิ่องมาจากการรื้อถอนเมื่อ ก.ย.2559 ให้เรียบร้อย เนื่องจากทับถมจนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ที่มีอันตราย

3 ขอให้กรุงเทพมหานครแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยใช้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และจัดตั้งคณะกรรมการพหุภาคีทันที และ4 ดำเนินการรื้อย้ายในกรณีบ้านที่ยินยอมให้รื้อเท่านั้นและทางชุมชนขอมีส่วนร่วมในการรื้อถอนตลอดกระบวนการ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net