พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
15 มี.ค. 2560 จากเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา รักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาหนังสือชี้แจงของพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีถูกกล่าวหาว่ารับเงินเดือนที่ปรึกษาจากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เดือนละ 50,000 บาท ว่าเข้าข่ายความผิดต่อจริยธรรม และกฎหมายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ พร้อมกับพิจารณาหนังสือชี้แจงของบริษัทไทยเบฟฯ ซึ่งเบื้องต้นนั้น “บอกไม่ได้ว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ผิดหรือถูก” โดยพล.ต.ท.ศานิตย์ ชี้แจงว่าไม่ได้เป็นที่ปรึกษา จึงไม่มีการรับเงินในตำแหน่งดังกล่าว ส่วนที่ถูกระบุว่ามีการแจ้งว่าได้รับเงินดังกล่าวไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. อาจจะมีความผิดพลาด เพราะได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเตรียมเอกสารและยื่นให้ โดยไม่ได้ทำด้วยตัวเอง จึงอาจมีความเข้าใจผิด ต้องตรวจสอบเอกสารของ ป.ป.ช.อีกครั้ง (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
ล่าสุดวานนี้ (14 มี.ค.60) เนชั่น รายงานว่า เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้ยุติเรื่องกรณีที่สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยขอให้ตรวจสอบ พล.ต.ท.ศานิตย์ ดังกล่าว โดยระบุว่า เนื่องจากเห็นว่ายังไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ รับเงินดังกล่าวจริง เพราะแม้พล.ต.ท.ศานิตย์ จะแจ้งต่อป.ป.ช. ก็เป็นเพียงแค่เอกสารประกอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ก็ให้ข้อมูลต่อผู้ตรวจฯว่า ป.ป.ช.จะตรวจสอบก็ต่อเมื่อพ้นจากตำแหน่ง จึงจะนำทรัพย์สินมาเปรียบเทียบว่ามีหนี้สินและทรัพย์สินเพิ่มขึ้นหรือลดลงจริงตามที่ได้มีการแจ้งหรือไม่ ประกอบกับทั้งพล.ต.ท.ศานิตย์ และบริษัท ไทยเบฟฯ ก็มีหนังสือแจ้งผู้ตรวจฯว่า ไม่ได้จ้างพล.ต.ท.ศานิตย์ และพล.ต.ท.ศานิตย์ ก็ได้แจ้งว่าที่มีหนังสือแจ้งต่อ ป.ป.ช.นั้นเป็นการผิดหลงในข้อมูล เพราะให้คนอื่นเป็นผู้ทำเอกสาร
"ผู้ตรวจฯ เห็นว่าแม้จะไม่ปรากฏหลักฐานดังกล่าว แต่ก็มีข้อสังเกต เพื่อตักเตือนไปยังพล.ต.ท.ศานิตย์ ว่า การเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ต้องมีความรอบคอบแม้ให้เจ้าหน้าที่ทำเอกสารให้ แต่ตัวเองต้องเป็นผู้เซ็นต์รับรอง เพื่อยื่นเอกสารนั้นให้กับหน่วยงานสำคัญ การจะมาอ้างเรื่องผิดหลงจึงไม่สมควร เพราะการเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี อีกทั้งโดยตำแหน่งมีหน้าที่เรื่องกำกับดูแลเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การแจ้งข้อมูลที่ผิดหลงดังกล่าวจึงเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี หมิ่นเหม่ ล่อแหลม อาจทำให้ถูกกล่าวหาได้ว่ามีผลประโยชน์กับบริษัทเครื่องดื่ม ซึ่งจะกระทบต่อภาพลักษณ์ จึงขอให้การดำเนินการในอนาคตต้องระมัดระวังมากกว่านี้ ซึ่งทั้งนี้ ผู้ตรวจฯจะเขียนคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการแจ้งไปยังผู้ร้อง รวมทั้งผู้บังคับบัญชาของ พล.ต.ท.ศานิตย์ ในฐานะ ผบช.น. และ สนช. ด้วย" รักษเกชา กล่าว