Skip to main content
sharethis
ทหารนำตัวกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายโกตี๋ 9 คน มาส่งมอบให้ตำรวจที่กองปราบปราม ก่อนที่ DSI จะรับตัวไปสอบต่อ โดยมีผู้ถูกหมายจับในข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ด้วย ด้านผู้ต้องหาปฏิเสธเตรียมลอบสังหารนายก ขี้โกตี๋ไม่มีศักยภาพพอ บางคนยัน จนท.ยึดเป็นแค่บีบีกัน 

ที่มาภาพ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Banrasdr Photo 

24 มี.ค. 2560 รายงานข่าวระบุว่า ที่กองปราบ เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัว 9 ผู้ต้องหาเป็นชาย 5 คน หญิง 4 คนคดีครอบครองอาวุธสงคราม ซึ่งมีความเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายของ วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อคนแดงปทุมธานี ส่งให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ มาร่วมสอบปากคำ คาดจะมีการส่งมอบสำนวนให้ดีเอสไอ หลังโอนคดีไปให้ดีเอสไอดำเนินการ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคดีชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทหารยังนำของกลางบางส่วนที่ยึดได้มาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เช่น อาวุธปืนสงคราม คอมพิวเตอร์ ลำโพงขยายเสียง

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังการสอบปากคำและสัมภาษณ์ 9 ผู้ต้องหา คดีครอบครองอาวุธสงคราม ซึ่งเป็นเครือข่าย วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี หลังเจ้าหน้าที่ทหารส่งตัวให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ปฏิเสธเตรียมลอบสังหารนายก - ขี้โกตี๋ไม่มีศักยภาพพอ

ธีรชัย อุตรวิเชียร หนึ่งในผู้ต้องหาระบุว่า รู้จักโกตี๋ ตั้งแต่ปี 2556 โดยเข้าไปช่วยงานเกี่ยวกับสถานีวิทยุเรดเรดิโอโกตี๋ที่จังหวัดปทุมธานี ส่วนอาวุธปืนที่ยึดได้ โกตี๋ให้นำมาเก็บรักษาไว้บ้านตน ยืนยันว่าไม่เคยนำไปใช้ก่อเหตุความรุนแรง แค่มีไว้ป้องกันเวทีชุมนุมบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ พร้อมยอมรับว่าเคยนำอาวุธออกไปพร้อมกลุ่มการ์ดเพื่อไปยึดเขตเลือกตั้งจากกลุ่ม กปปส.ที่แยกหลักสี่เมื่อปี 2557 แต่ถอนกำลังออกไปก่อนเกิดเหตุยิงปะทะ ตนไปพบกับโกตี๋ที่ประเทศลาว 3 ครั้ง ไม่มีการประชุมวางแผนก่อเหตุรุนแรงเพื่อขัดขวางเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นวัดพระธรรมกายตามที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่าโกตี๋เคยบอกกับตนว่ามีอาวุธในตู้คอนเทนเนอร์ อ้างผู้ใหญ่ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองเกี่ยวข้องด้วย พร้อมปฏิเสธประเด็นสะสมอาวุธสงครามไว้เตรียมลอบสังหารนายกรัฐมนตรี เพราะมองว่าโกตี๋ไม่มีศักยภาพเพียงพอ

ผู้ต้องหาระบุ จนท.ยึดเป็นแค่บีบีกัน 

วันไชยชนะ ครุฑไชยันต์ ผู้ต้องหาอีกคน ปฏิเสธว่าอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ยึดมาเป็นบีบีกัน ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ส่วนปืนพกอีก 2 กระบอกไม่ใช่ของตน เป็นปืนถูกกฎหมายที่เจ้าหน้าที่ไปยึดมาจากบ้านของภรรยา พร้อมยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องวัดพระธรรมกาย กรณีไปพบ ธีรชัย เพื่อดื่มกาแฟกันเท่านั้น และไม่รู้จักโกตี๋เป็นการส่วนตัว 

พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ถูกออกหมายจับ ข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีเครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองไม่ได้รับอนุญาต , มีวิทยุคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติด (ยาบ้า) ในครอบครอง รวมทั้งข้อหาซ่องโจร จะถูกส่งให้ ดีเอสไอ สอบสวนต่อ เนื่องจากเป็นคดีที่มีความเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ยกเว้นผู้ต้องหา 1 คน คือ ว่าที่ร้อยตรีสุริยศักดิ์ ฉัตรพิทักษ์กุล ถูกศาลทหารออกหมายจับในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงด้วย ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบจะดำเนินคดีในส่วนนี้ก่อน  อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การยอมรับเป็นบุคคลตามหมายจับเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 4 คนถูกออกหมายจับในคดีเดียวกัน ซึ่งยังอยู่ระหว่างหลบหนี ในจำนวนนี้คือ วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 

สำหรับผู้ต้องหาที่ศาลออกหมายจับให้ทั้ง 9 คนประกอบด้วย ธีรชัย อุตรวิเชียร, ประเทือง อ่อนละมูล, ปาลิดา เรืองสุวรรณ, วันไชยชนะ ครุฑไชยันต์, เอมอร วัดแก้ว, อุดมชัย นพสวัสดิ์, จ่าสิบเอกธนโชติ วงศ์จันทร์ชมพู, ว่าที่ร้อยตรีสุริยศักดิ์ ฉัตรพิทักษ์กุล และ บุญส่ง คชประดิษฐ์

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจสนธิกำลังตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายซึ่งต้องสงสัยเป็นแหล่งสะสมอาวุธ 9 จุด ใน 7 จังหวัด สามารถตรวจยึดอาวุธสงครามและเครื่องยุทธภัณฑ์ได้จำนวนมาก พร้อมควบคุมผู้ต้องหาได้ 9 คน 

ขณะที่ โกตี๋ หรือ  วุฒิพงศ์ นั้นเป็นนักจัดรายการวิทยุและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งได้ลี้ภัยทางการเมืองออกนอกประเทศไทย ในช่วงรัฐประหารปี 57 และได้ออกมาปฏิเสธผ่านทางยูทูบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมกับระบุว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการจัดฉากจากรัฐบาล 

ในส่วนของวัดพระธรรมกายก็ได้ออกแถลงการณ์เช่นกันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโกตี๋ และอาวุธที่ถูกยึด เนื่องจากทางวัดถูกตรวจค้นแล้วทุกจุดและถูกปิดล้อมอย่างต่อเนือง จึงเป็นไปไม่ได้ที่อาวุธจะถูกนำออกจากวัด

เรียบเรียงจาก สำนักข่าวไทย เฟซบุ๊กแพจ Banrasdr Photo และสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย  

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net