สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์ 3 ปีบิลลี่ หายตัว จี้ DSI พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ ขอรัฐเร่งตรา ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย ทบทวนคำสั่งคุมตัวโดยไม่เปิดเผยสถานที่ เช่น คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 13/2559 แก้ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนอย่างจริงจัง อย่างมีส่วนร่วม
ภาพโดย kim chaisukprasert
17 เม.ย. 2560 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 3 ปีที่ พอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย และสมาชิก อบต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2557 ที่ด่านเขามะเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่าบิลลี่มีรังผึ้งและน้ำผึ้งป่าไว้ในครอบครอง หลังจากนั้นบิลลี่ก็หายตัวไปโดยไม่ทราบชะตากรรมจนกระทั่งขณะนี้
โดย พอละจี ถือเป็นบุคคลสำคัญในพยานคดีที่ชาวบ้านโป่งลึก-บางกลอย ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานซึ่งกำกับดูแลอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในข้อหาเข้ารื้อทำลาย เผาบ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวบ้านชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง บริเวณ ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กว่า 20 ครอบครัว จนได้รับความเสียหายแก่สิทธิเสรีภาพ ทรัพย์สิน
ล่าสุดวันนี้ สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้ออกแถลงการณ์ “3 ปีบิลลี่ เร่งคืนความจริงและความยุติธรรม” เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบังคับสูญหายและเร่งค้นหาความจริงต่อการสูญหายอย่างเร่งด่วน ให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาอย่างเร่งด่วนในการรับคดีบิลลี่และกรณีการบังคับสูญหายอื่นๆ อาทิ เด่น คำแหล้ เป็นคดีพิเศษ และต้องทำการสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจัง อิสระ และเป็นมืออาชีพ จนทราบชะตากรรมของผู้ถูกบังคับสูญหายและนำผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ยังเรียกร้องให้ รัฐเร่งดำเนินการตรา ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ........ อย่างเร่งด่วน และทำให้เนื้อหาของกฎหมายสอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลจากการหายสาบสูญ เพื่อสร้างมาตรฐานทางกฎหมายอาญาในประเทศ รวมถึงทบทวน ระเบียบ กฎ ที่เอื้อให้มีการบังคับบุคคลให้หายสาบสูญ โดยเฉพาะกฎหมายที่ให้อำนาจในการควบคุมตัวบุคคลไว้เป็นเวลานานและโดยไม่เปิดเผยสถานที่ควบคุมตัวหรือโดยไม่มีการนำตัวไปศาล เช่น คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 13/2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมทั้งการควบคุมตัวตามกฎหมายพิเศษอื่นๆ
แถลงการณ์ “3 ปีบิลลี่ เร่งคืนความจริงและความยุติธรรม”
3 ปีแล้วที่นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้
บิลลี่เป็นนักปกป้องสิทธิชาติพั
หลังจากที่บิลลี่หายตัวไป ครอบครัวได้พยายามเคลื่อนไหวอย่
อีกทั้งเหตุผลของการไม่รับกรณี
อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยต้
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมามีสิ่งน่ากั
เป็นที่น่าสังเกตว่า ร่างพระราชบัญญัติที่กระทบสิทธิ
เป็นข้อเท็จจริงที่ว่า ประเทศไทยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่
ดังนั้น เนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน จึงขอเรียกร้องให้รั
1. กรมสอบสวนคดีพิเศษ ต้องพิจารณาอย่างเร่งด่
2. รัฐต้องเร่งดำเนินการตราร่
3. รัฐต้องทบทวน ระเบียบ กฎ ที่เอื้อให้มีการบังคับบุคคลให้
4. รัฐต้องเร่งแก้ปัญหาที่ดินทำกิ
ด้วยความเคารพในสิทธิมนุ
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
- กะเหรี่ยง
- คดีพิเศษ
- คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 13/2559
- บิลลี่
- บ้านบางกลอย
- ปัญหาที่ดินทำกิน
- พอละจี รักจงเจริญ
- ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ. ....
- สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
- สิทธิชาติพันธุ์
- อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน
- อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลจากการหายสาบสูญ
- เด่น คำแหล้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)