Skip to main content
sharethis

ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นฯ ร้องประยุทธ์ หนุนซื้อเรือดำน้ำ ดันกองทัพไทยติด 1 ใน 10 ของโลก ย้ำจำเป็นปกป้องอธิปไตย หวั่นอนาคตมีสงครามโลกครั้งที่ 3 ระบุไม่พบทุจริต ชี้ความมั่นคงบางอย่างต้องเป็นความลับ

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา สื่อหลายสำนักรายงานว่า ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวแทนภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ(ภตช.) นำโดย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการฯภตช.เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่ชาติ (คสช.) เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ 

มงคงกิตติ์ กล่าวว่า ภตช. ขอสนับสนุนการจัดซื้อเรือดำน้ำของรัฐบาลครั้งนี้ เพราะมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ เนื่องจากอนาคตอาจมีสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ ทั้งนี้ตนจึงมองว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้ช้าไป เพราะการต่อเรือดำน้ำต้องใช้ระยะเวลาถึง 6 ปี ระหว่างนี้ขอเสนอให้รัฐบาลประสานงานกับประเทศมหาอำนาจ ขอเช่าเรือดำน้ำมาประจำการก่อนอย่างน้อย 3 ลำ  เพราะความมั่นคงคือสิ่งที่สำคัญ นอกจากนี้การที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาปากท้องก่อนนั้น ตนมองว่ารัฐบาลดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว และมากกว่ารัฐบาลชุดก่อนด้วย ขณะเดียวกันก็อยากให้รัฐบาลเร่งรัดปราบปรามคดีทุจริต เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์และนำเงินเหล่านั้นมาจัดสรรในการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ เพื่อผลักดันให้กองทัพติด 1 ใน 10 กองทัพโลก เพราะ 10 ปีที่ผ่านมางบประมาณในการจัดซื้ออาวุธของกองทัพมีเพียง 38,000 ล้านบาทซึ่งไม่เพียงพอ
 
ต่อกรณีคำถามว่า ภตช.มีคำแนะนำในการตรวจสอบงบประมาณซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้หรือไม่ มงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการทุจริต คำชี้แจงของกองทัพเรือ ชี้แจงว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง ซึ่งเข้าใจว่าบางอย่างต้องเป็นความลับ และผู้ที่ออกมาตั้งข้อสังเกตในเรื่องดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นพรรคเพื่อไทย ตนจึงอยากแนะนำให้รวบรวมเงินไว้เตรียมจ่ายในคดีทุจริตก่อนหน้านี้จะดีกว่า
 
สำหรับข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ของ ภตช. เผยแพร่ในเพจ มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ระบุว่า
 
1. ขอให้รัฐบาลเร่งกำหนดแผนเพิ่มเติมซื้อเรือดำน้ำที่มีประสิทธิภาพในการสู้รบและสอดแนมข้าศึกมีประสิทธิภาพสูงขึ้นไม่ให้แพ้ประเทศใดในทวีปเอเซีย อีก 3 ลำ และ ขอสนับสนุนการตัดสินใจในการอนุมัติซื้อเรือดำน้ำของรัฐบาลไทยลำแรก ตามแผน 3 ลำ เพื่อครอบคลุมปกป้องพื้นที่ ฝั่งอันดามัน-ฝั่งอ่าวไทย-จนถึงน่านน้ำสากล กินระยะทางกว่า 4,800 – 7,500 กิโลเมตร
 
2.ขอให้รัฐบาลนำเงินงบประมาณที่เข้มงวดกวดขันลดปัญหาการทุจริตในงบประมาณของรัฐ 20% ทุกโครงการ อีกทั้งเร่งลัดการจัดเก็บภาษีกับบริษัทที่นำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ยักใหญ่ที่สำแดงภาษีเท็จ รวมค่าปรับ 3 เท่า รายการเดียวกว่า 1 แสนล้านบาท อีกทั้ง แก้ไข พรบ.รัษฏากร พ.ศ.2481 มาตรา 42(7) ให้จัดเก็บภาษีการศึกษา รวมทั้งหมดจะได้เงินคืนมากว่าปีละ 2 แสนล้านบาท ตามแผน 6 ปี จะได้เงินมาสนับสนุนกว่า 1.2 ล้านล้านบาท เพื่อมาเป็น 1.เงินเพิ่มในหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 2.เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 3.เงินเพิ่มอุดหนุนรายหัวนักเรียน 15 ล้านคน ให้เรียนฟรีจริงโดยไม่เก็บค่าบำรุงการศึกษา 4.เพิ่มเงินจัดซื้ออาวุธเพิ่มศักยภาพกองทัพไทยให้เข้มแข็ง 5.เพื่อเป็นเงินหมุนเวียนในระบบสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาด เล็ก-กลาง
 
3.ขอเสนอให้รัฐบาลเร่งกำหนดแผนการจัดซื้อ เรือบรรทุกเครื่องบินรบ และ เครื่องบินรบเพิ่มเติม จากประเทศ สหรัฐอเมริกา หรือ รัฐเซีย หรือ จีน จะเป็นมือ 1 หรือ มือ 2 ก็ได้ เพื่อทำให้กองทัพไทยเข้มแข็งติด 1-10 ของกองทัพโลกได้
 
4.ขอเสนอให้รัฐบาลเสนอบรรจุงบประมาณปี 2561 จัดซื้ออาวุธ อาทิ โทมาฮอว์ก (ขีปนาวุธ) รุ่น บีจีเอ็ม – 109 เอ (TLAM-N) - รุ่นโจมตีภาคพื้นดิน ติดหัวรบนิวเคลียร์ ดับบลิว 80 , อาร์จีเอ็ม/ยูจีเอ็ม - 109บี (TASM) - รุ่นต่อต้านเรือรบผิวน้ำ นำวิถีด้วยเรดาร์,บีจีเอ็ม - 109ซี (TLAM-C) – รุ่นโจมตีภาคพื้นดินหัวรบธรรมดา และ ขีปนาวุธ ระดับพิสัยไกล ข้ามทวีป 5,500 กิโลเมตร
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net