Skip to main content
sharethis

หน.การตลาดกูเกิลไทย คาดเส้นแบ่งระหว่างยูทูบกับทีวีค่อยๆ หายไป นักวิชาการชี้การรับชมผ่านโมบายมากขึ้นยิ่งทำให้ google ยิ่งครองทุกอย่างมากขึ้น โดยมีอาวุธหลักคือยูทูบ ต้า เฟ็ดเฟ่ ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ชี้ยูทูบกลายเป็นสื่อหลักแทนทีวี ขณะนี้ถือว่าเชยแล้ว มอง LineTV เตรียมเข้ามาเบียด

การรับชมวิดีโอคลิปต่างๆ ผ่าน ยูทูบทั้งของโลกและของไทยเติบโตอย่างมหาศาล PPTV รายงานการประชุม YouTube Summit 2017 ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีครั้งแรกของยูทูบ ประเทศไทย ที่ตอกย้ำการเติบโตของยูทูบในเมืองไทยสอดคล้องกับความสำเร็จของยูทูบทั่วโลก โดบขณะนี้เป็นช่องทางที่ผู้คนใช้เวลารับชมไล่เลี่ยกับโทรทัศน์ รวมไปถึงมีแนวโน้มแซงช่องดังกล่าวภายในอนาคตอันใกล้ 

สำหรับประเทศไทย ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่าร้อยละ 62 ใช้เวลากับการดูยูทูบมากกว่าทีวีแล้ว ในจำนวนนี้ดูผ่านสมาร์ทโฟนถึงร้อยละ 90 นอกจากผู้ชมที่เพิ่มขึ้น ผู้ผลิตคอนเทนต์หรือยูทูบเบอร์ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด โดยมีผู้ผลิตคอนเทนต์ที่เป็น Gold Channel หรือยอด Subscribe มากกว่า 1 ล้านคนถึง 50 ช่อง เพิ่มขึ้น 2 เท่าภายในระยะเพียง 1 ปีเท่านั้น

จากการเติบโตของผู้ผลิตคอนเทนต์หรือยูทูบเบอร์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงได้สัมภาษณ์ ทั้งยูทูบเบอร์ ลิขิต สิทธิพันธุ์ (หรือต้า เฟ็ดเฟ่) ยูทูบเบอร์ชื่อดังจาก ช่อง FADFE โดย ต้า เล่าถึงช่องพวกเขาว่า รายการของเฟดเฟ่ก่อตั้งมาได้ 4-5 ปีซึ่งรายการเนื้อหาเป็นแนววัยรุ่น  เกรียน มันๆ ที่ทำพบว่ายังขาดตลาดอยู่ ยังไม่มีใครกล้าทำ เชื่อว่ามีคนอยากดูอะไรแบบนี้อยู่เยอะแต่หาดูไม่ได้เลยทำให้เขาดู

ลิขิต สิทธิพันธุ์ หรือ ต้า เฟ็ดเฟ่ ยูทูบเบอร์ชื่อดังจาก ช่อง FADFE 

“อันดับแรก คือ ความขยัน ทำแบบไม่หยุดคิดไปด้วยทำไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารักจึงทำให้ทำแล้วไม่รู้สึกเหนื่อย และอยากจะทำต่อไปเรื่อยๆ ส่วนที่สอง เป็นเรื่องคอนเทนต์ไม่ใช่ว่าทำทุกวันแล้วไม่คิด ต้องผ่านการคิดสร้างสรรค์  อ่านหนังสือเยอะๆ ดูตัวอย่างยูทูบเบอร์ท่านอื่นทั้งในไทยและต่างประเทศ ยกตัวอย่าง ไม่ใช่แค่ขยันถ่ายตัวเองกินข้าวทุกวัน โดยไม่มีคอนเทนต์ หรือความคิดสร้างสรรค์คลิปที่ออกมาก็จะไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ต้องทำควบคู่กันไปจึงจะประสบความสำเร็จได้แน่นอน” ต้า กล่าว ถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จ

สำหรับโอกาสและอุปสรรค์ในการผลิตเนื้อหาทางยูทูบของไทยในอนาคต  ต้า กล่าวว่า ในชาติพันธุ์ของคนไทยไม่ค่อยให้ค่ากับความคิดสร้างสรรค์ ไม่สนับสนุนของแท้ และไม่จ่ายเงินให้กับผลงานที่เป็นสื่อบันเทิง เช่น เพลง หนัง สื่อในยูทูบก็เช่นกัน สุดท้ายแล้วคนที่เป็นยูทูบเบอร์ก็จะอยู่ไม่ได้เหมือนกัน บางคนก็ต้องเลิกทำไปประกอบอาชีพอื่นแทน ซึ่งจะเป็นผลเสียด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย คนดูก็จะไม่มีอะไรดู เหมือนกับศิลปินในต้องนี้ที่แทบไม่ได้เงินแล้ว ถึงได้ก็ได้น้อยมากๆ คนไม่ซื้อซีดีฟัง ยอดวิวเฉลี่ยหนึ่งล้านวิวได้แค่หมื่นกว่าบาท ถ้าจะมีรายได้ก็ขึ้นอยู่กับสปอนต์เซอร์ที่จ้างโปรโมทสินค้า บางท้ายคลิปเราโปรโมทสินค้า ผู้ชมก็ว่าเราอีกขายของบางอะไรบ้าง ซึ่งตรงนี้เป็นอะไรที่ยาก สุดท้ายแล้วประเทศเราจะตกเป็นทาสของเมืองนอก เราจะไม่มีศิลปินและยูทูบเบอร์เป็นของเราเอง เพราะคนดูไม่ค่อยเงินสนับสนุนสักเท่าไหร่

“ตอนนี้กลายเป็นสื่อหลักไปแล้วครับสำหรับยูทูบซึ่งขณะนี้เหมือนมาแทนทีวี ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ที่ว่าใครดูทีวีอยู่นี้คือเชยและใครดูยูทูบนี้ทันสมัย แต่ตอนนี้กลับเป็นว่าใครที่ดูยูทูบกลับเชยเขาไปดูสื่ออื่นกันหมดแล้ว อย่างเช่น LineTV ปัจจุบันกำลังทยอยเปลี่ยนแพลตฟอร์ม เหมือนกับคนที่ดูยูทูบเริ่มย้ายไปดูอย่างอื่น สมัยก่อนยูทูบมีคลิปคุณภาพเยอะเพราะช่วงนั้นคนเขาหนีจากทีวีที่มี ข่าวดาราตบกัน เหตุรถชน ซึ่งตอนนี้ยูทูบก็เริ่มจะเป็นเหมือนกับทีวีเข้าไปอีก จึงทำให้คนหันไปดู LineTV ที่เขามีการคัดสรร ควบคุมคลิป แยกเป็นหมวดหมู่ที่ดี และต้องเป็นคลิปที่ดีมีคุณภาพถึงอยู่ในช่องได้ ตอนนี้ยูทูบค่อนข้างมั่ว ปัจจุบันผมมองว่าเป็นการย้ายกลุ่มคนจากยูทูบออกไปเรื่อยๆ แต่คงไม่ได้ออกไปไวค่อยๆเริ่มลดลง ตอนนี้เหมือนเริ่มสลับอุปกรณ์จาก ทีวีกลายเป็นสื่อสร้างสรรค์อย่างยูทูบและยูทูบไปเป็น LineTV และสื่อที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตแทน พูดได้ว่ายูทูบในขณะนี้ถือว่าเชยแล้วครับ” ต้า วิเคราะห์ยูทูบในปัจจุบัน

จักรษุ  ตะกรุดแก้ว อดีตอาจารย์สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม กล่าวว่า เพราะ กูเกิล  คือโลกที่ซ้อนอยู่ในโลกปัจจุบัน ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในกูเกิล ทุกธุรกิจทำทุกวิถีทางเพื่อให้อยู่หน้าหนึ่ง จากวันที่คนใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ มาถึงวันที่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่บนโมบายทำให้กูเกิล ยิ่งครองทุกอย่างมากขึ้นไปอีก

“อาวุธหลักตัวหนึ่งของ google คือ ยูทูบ มันเป็นลมใต้ปีกที่ทำให้ google ทะยานสูงขึ้นไปอย่างไม่หยุดยั้งโดยตัวสื่อแล้ว ยูทูบ ก็เป็นสื่อที่มีพลังที่สุด ทั้งลักษณะของตัวสื่อ และการเสพสาร จะชมสดก็ได้ ย้อนกลับมาดูกี่ครั้งก็ได้ สร้างสถานีเองก็ได้ จึงไม่แปลก ที่ทั้งโลก ดู ยูทูบ มากกว่าทีวี ไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศไทย” จักรษุ กล่าว

ขณะที่ ไมเคิล จิตติวาณิชย์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด กูเกิล ประเทศไทย เผยว่า สิ่งหนึ่งที่เห็นคือคนก็ดูคอนเทนต์ของทีวีบนยูทูบและคนก็เอาคอนเมนต์ของยูทูบดูกลับทีวี คิดว่าเส้นแบ่งระหว่างยูทูบกับทีวีค่อยๆ จะหายไป และคิดต่อว่าทั้ง 2 น่าทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อยๆ      

         

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net