Skip to main content
sharethis

ปิยะสกล รมว.สธ. ในฐานะ ปธ.บอร์ดสปสช. โต้ แก้ร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไม่ได้ลิดรอนสิทธิ์เดิมใดๆ ของประชาชน แต่เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ ได้สิทธิ์เท่ากับเดิมหรือดีกว่าเดิม     

แฟ้มภาพ

7 มิ.ย. 2560 จากกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.....(ฉบับที่...) ที่มี รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ เป็นประธาน ได้ยกร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.....(ฉบับที่....) ซึ่งเป็นการแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 แล้วเสร็จและเข้าสู่ขั้นตอนของการประชาพิจารณ์ ส่งผลให้มีภาคประชาชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์รวมทั้ง คัดค้านทั้งกระบวนการประชาพิจารณ์ที่ขาดการมีส่วนร่วม รวมทั้งตัวเนื้อหาในการยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว

ล่าสุดวันนี้ (7 มิ.ย. 60) สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ดสปสช.) กล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทำตามขั้นตอน กระบวนการที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น และอยู่ระหว่างการรับฟังและการทำประชาพิจารณ์  หากมีความคิดเห็นอย่างไรก็ให้ไปเสนอในเวทีดังกล่าว ซึ่งจะดำเนินการโดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) หากเห็นว่าส่วนใดในการบยกร่าง พ.ร.บ.แล้วไม่ดี ไม่เกิดประโยชน์ก็แสดงความคิดเห็นออกมาในเวทีนี้ แต่ขอย้ำว่าในร่างพ.ร.บ.ไม่ได้ลิดรอนสิทธิ์เดิมใดๆ ของประชาชน แต่เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ ได้สิทธิ์เท่ากับเดิมหรือดีกว่าเดิม     

"การแก้กฎหมายนั้น เรื่องไหนที่คิดว่าไม่สมดุล ก็ไปเสนอแนะได้ ไม่ว่าจะเรื่ององค์ประกอบของบอร์ด เรื่องการจัดซื้อยา  เป็นต้น ขอย้ำว่าการดำเนินการปรับปรุงกฎหมาย ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตามรัฐธรรมนูญในมาตรา 77 ที่ระบุว่าการพิจารณากฎหมายต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทุกอย่างทำตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีอคติใดๆ แต่ต้องการให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง ผู้ที่ต้องการแสดงความคิดเห็นในการปรับกฎหมายก็ให้ไปแสดงในเวทีประชาพิจารณ์ ไม่เห็นความสำคัญของการแสดงความคิดเห็นนอกรอบและปลุกปั่นให้เกิดความระส่ำระสาย ซึ่งก็จะมีการรวบรวมความคิดเห็นจากการประชาพิจารณ์ มาประกอบการยกร่างกฎหมาย ก่อนเสนอคณะกรรมการกฤษฎีกาและเข้าสู่กระบวนการขั้นตอนออกกฎหมาย” ปิยะสกล กล่าว     

ต่อข้อถาม ประชาชามองว่าบัตรทองดีอยู่แล้วทำไมต้องมีการปรับแก้กฎหมาย ปิยะสกล กล่าวว่า บัตรทองดีอยู่แล้ว และการปรับแก้กฎหมายก็ไม่ได้ลดสิทธิ์ของประชาชน แต่ที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้กระบวนการดูแลประชาชนได้ดีขึ้น ถ้าหากไม่มีการปรับแก้กฎหมาย ปัญหาเดิมที่ต้องอาศัยม.44 ในการแก้ปัญหาแบบที่ผ่านมา ก็จะกลับมาอีก เมื่ออำนาจตามม.44 หมดลง อย่างเช่น กรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)และคณะกรรมการตรวจสอบและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ  (คตร.) ทักท้วงว่า เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไม่สามารถนำมาใช้เป็นการจ่ายชดเชยเบื้องต้นให้กับผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข เพราะเป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ ก็ได้มีการออกม.44  ให้สามารถใช้เงินส่วนนนี้ในการช่วยเหลือเยียวผู้ให้บริการได้ และข้อหนึ่งของการแก้ พ.ร.บ.ก็มีการเพิ่มเติมให้สามารถนำเงินมาใช้ในการเยียวยาผู้ให้บริการได้ จากเดิมที่กฎหมายระบุว่าให้จ่ายชดเชยเฉพาะผู้รับบริการที่ได้รับควมเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข เป็นต้น

 

ที่มา : คมชัดลึกออนไลน์ และกรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net