Skip to main content
sharethis

อภิสิทธิ์ ย้ำจุดยืนตนเองและพรรคเคารพเสียงข้างมากของประชาชน ใครรวมเสียงเกินครึ่งจัดตั้งรัฐบาลได้ วุฒิสภาไม่ควรที่จะไปขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาล ชี้เป็นการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้นใหม่ในสังคม  

แฟ้มภาพ

9 มิ.ย. 2560 ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม “นิวส์วัน” ภายใต้หัวข้อ “อนาคตการเมืองไทย อนาคตประชาธิปัตย์ ในมุมมองอภิสิทธิ์” ดำเนินรายการโดย เติมศักดิ์ จารุปราณ

อภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีมีสองขั้วความคิด สองแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง แนวแรกคือพรรคการเมืองจับมือกันไม่เอานายกฯ คนนอก อีกแนวหนึ่งคือบางพรรคไปจับมือกับ 252 ส.ว.ชูมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าค่อนข้างเร็วเกินไปที่จะไปพูดสูตรสำเร็จแบบนี้เพราะยังไม่ได้เลือกตั้ง เท่ากับว่าเราไม่เคารพเจ้าของประเทศที่จะใช้สิทธิเลือกตั้ง จุดยืนของตนและของพรรคก็คือเคารพเสียงข้างมากของประชาชน เพราะฉะนั้นถ้าพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรรวบรวมเสียงได้ 250 เขาอาจจะเลือกตั้งก็ได้ เขาอาจจะได้จากการที่เขาเจรจา พูดคุยกับพรรคการเมืองก็ได้ แล้วเกิน 250 ตนเห็นว่าสมาชิกวุฒิสภาไม่ควรที่จะไปขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเท่ากับเป็นการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้นใหม่ในสังคม พูดง่ายๆ ก็คือว่า คนเกินครึ่งเขาให้คะแนนเสียง คนกลุ่มนี้มาจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ไปฝืนความต้องการของประชาชนมีแต่จะสร้างปัญหามากขึ้นในอนาคต ส่วนพรรคการเมืองจะจับได้ถึง 250 เสียงหรือไม่ 1. ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนผลของการเลือกตั้ง 2. พรรคการเมืองที่จะจับมือกันเป็นรัฐบาล ก็ควรที่จะต้องมีอุดมการณ์ ความคิดที่นโยบายที่ไปด้วยกันได้ ไม่ใช่อยากจะเป็นรัฐบาลก็ไปรวมกันเพื่อจะเป็นโดยที่ไม่คำนึงถึงความแตกต่างในเชิงอุดมการณ์ เพราะฉะนั้นสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ข้อที่ 1 ภารกิจเรา เราต้องพัฒนาตัวเอง เสนอตัวให้เป็นทางเลือก ให้เป็นที่พึ่งที่หวังของคน มุ่งหวังที่จะให้คะแนนเสียงให้ได้มากที่สุดเกิน 250 ยิ่งดี ถ้าได้ไม่ถึงก็จะไปดูมีพรรคการเมืองไหนที่คิดว่ามีแนวคิดนโยบาย อุดมการณ์ที่จะไปด้วยกันได้ ถ้าเราสามารถรวบรวมเสียงได้ เราคิดว่าเราควรที่จะตั้งรัฐบาล ถ้าคนอื่นเขาทำได้เขาควรได้จัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยนี่ตัดออกไปเลยไหมสำหรับการร่วมรัฐบาลกับประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ตอบว่า ตราบเท่าที่พรรคเพื่อไทยยังเป็นเครื่องมือของครอบครัวชินวัตร แล้วก็มีวาระในการที่จะปกป้องประโยชน์ของครอบครัวชินวัตรคงจะร่วมงานไม่ได้ อันนั้นเป็นเงื่อนไขแบบชนิดที่เรียกว่าไม่ต้องพูดอย่างอื่นเลย แต่สมมติว่าเกิดหลุดจากตรงนั้นมาได้ก็ต้องมาดูต่อว่านโยบายไปด้วยกันได้ไหม เพราะว่าถ้านโยบายไปด้วยกันไม่ได้ ไปเป็นรัฐบาลก็เป็นปัญหาอีก เท่ากับว่าทรยศประชาชน สมมติเรานโยบายไปทางซ้าย เขาบอกนโยบายไปทางขวา ถึงเวลามาเป็นรัฐบาลด้วยกัน แล้วประชาชนที่เขาจะเลือกมาเพราะพรรคหนึ่งบอกว่าไปทางซ้าย ประชาชนที่เขาเลือกบอกไปทางขวา เขาจะคิดอย่างไร

อภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า 250 เสียงของวุฒิสภาควรที่จะมีบทบาทในเชิงของการไปเลือกก็ต่อเมื่อ 250 เสียงในสภาล่างมันไม่มี คือมันจับกันไม่ได้ ก็แปลว่าเหมือนกับปล่อยสภาผู้แทนราษฎรไป มันค้นหาไม่ได้ว่าใครควรที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ใครควรที่จะเป็นรัฐบาล อย่างนั้นคุณก็มาช่วยในฐานะสภาสูง แต่ถ้าพอ 250 แล้ว ส.ว.ไปตัดสินใจที่มันฝืนกับเสียงข้างมากของสังคม จะรับผิดชอบไหม ถ้ามีความขัดแย้งตามมา
       
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวด้วยว่า ตอนนี้ต้องยืนยันว่าไม่มี 2 ขั้วความคิดในพรรค ไม่มีขัดแย้งกับคนที่เคยไปทำงานกับ กปปส. วันนั้นทั้ง 8 ท่านมาที่พรรคเเล้วคุยกันอย่างนี้ แล้วไม่ใช่ตนพูดก่อน 1 ใน 8 พูดเองว่าวันนี้เมื่อเขามาทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ในพรรคประชาธิปัตย์ในระบบพรรคการเมือง เขาต้องสนับสนุนแนวทาง เพราะนั่นคือแนวทางของพรรคการเมืองและแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ คนที่พูดคือคุณถาวร เสนเนียม แล้วตนก็บอกคุณถาวรเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนตน 20 กว่าปี เพราะฉะนั้นทราบดีว่าพรรคประชาธิปัตย์คืออะไร
       

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net