ประวิตร ชี้ 'P-Move' เป็น NGO ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง จึงไม่อนุญาตจัดกิจกรรมเกิน 5 คน

พล.อ.ประวิตร ชี้ขบวนการประชาชน เพื่อสังคมที่เป็นธรรม เป็น NGO ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง จึงไม่อนุญาตจัดกิจกรรมเกิน 5 คน ระดมความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.อุทยานฯ และร่าง พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า - ปัดสุรเชษฐ์เอี่ยวทำโผตร.ชงตั้งคกก.สอบซื้อเก้าอี้บชน. 

แฟ้มภาพ

15 มิ.ย. 2560 สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นและ Voice TV รายงานตรงกันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีเครือข่ายขบวนการประชาชน เพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) ถูกเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เข้าปิดกั้นเวทีสัมมนาที่ภาคประชาชนร่วมระดมความคิดเห็นเพื่อป้องกันผลกระทบต่อร่าง พ.ร.บ.อุทยานฯ และร่าง พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ที่จัดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่า แม้กิจกรรมดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่หากมีผู้ร่วมงานเกิน 5 คน ก็ไม่อนุญาตให้จัดได้ เนื่องจากผิดคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ อีกทั้งกลุ่มดังกล่าวยังถือเป็นกลุ่ม NGO ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองด้วย

ปัดสุรเชษฐ์เอี่ยวทำโผตร.ชงตั้ง กก.สอบซื้อเก้าอี้บชน.

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวถึง กรณีที่มีคำกล่าวอ้างว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 เป็นคนกลางในการวิ่งเต้นในการซื้อขายตำแหน่งตำรวจนครบาล ว่า หากต้องการให้เกิดความโปร่งใสก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และให้ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน จึงไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องนี้ 

ส่วนกรณีมีการพาดพิงว่า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ มีความใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร และมีอำนาจเหนือกว่ายศพลตำรวจเอก รวมไปถึงอยู่เบื้องหลังการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจนครบาลนั้น ระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกันเพียงแค่เรื่องงาน แต่ไม่เกี่ยวกับการโยกย้ายตำรวจ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนที่บอกว่าเป็น ผบ.ตร.น้อย นั้น ระบุว่าเป็นการคิดกันไปเอง และส่วนตัวไม่ทราบ ว่า ในองค์กรตำรวจมีความขัดแย้งภายในหรือไม่ โดยต้องดูกันเอง

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีการเยียวยาผู้เสียหายจากเหตุไฟไหม้ ขณะมีการชุมนุมในปี 2553 บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถูกหลังบริษัทประกันภัยอ้างเหตุก่อการร้าย และจลาจล ไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทน ว่า ให้ดูตามระเบียบ หากสามารถดำเนินการได้ก็จะดำเนินการช่วยเหลือ

สำหรับกลุ่มผู้เสียหายประกอบไปด้วย ร้านหนังสือดอกหญ้า ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และก่อนหน้านี้ ร้านหนังสือดอกหญ้าได้แพ้คดีไปในชั้นศาลฎีกา หลังบริษัทประกันภัย อ้างว่าเป็นเหตุจลาจล หรือ ก่อการร้าย ซึ่งไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะให้จ่ายค่าสินไหมทดแทน ทำให้ไม่สามารถเรียกร้องค่าชดเชยเยียวยาได้อีกแล้ว ส่วนศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันและมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แม้จะชนะคดีในศาลชั้นต้น แต่ก็มาแพ้คดีในชั้นอุทธรณ์ และกำลังรอผลการชี้ขาดจากศาลฎีกาอยู่ สำหรับศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ส่วนมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเอง กำลังอยู่ระหว่างรอนัดวันฟังคำสั่งจากศาลฎีกา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท