อ้าวเฮ้ย! พบ กอ.รมน.ยังไม่ถอนแจ้งความ 3 นักสิทธิฯ ปมแฉซ้อมทรมานชายแดนใต้

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเผย กอ.รมน.ยังไม่ถอนแจ้งความ 3 นักสิทธิฯ ปมแฉซ้อมทรมานชายแดนใต้ ตามที่ตกลงกันเมื่อ 7 มี.ค.60 ล่าสุดอัยการจังหวัดปัตตานีต้องนัดพบสามผู้ต้องหาอีกครั้ง 27 ก.ค.นี้

แฟ้มภาพ

21 มิ.ย. 2560 รายงานข่าวจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรมแจ้งว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา สมชาย หอมลออ พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ  และอัญชนา หีมมิหน๊ะ ได้มอบหมายให้ทนายความของมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมไปพบพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีตามที่ได้นัดหมายไว้  พบว่าคดีสามนักสิทธิฯ กอ.รมน.ภาค 4 ยังไม่ได้ถอนแจ้งความหรือคำร้องทุกข์ตามที่ได้เคยประกาศไว้ต่อสาธารณะชน ทำให้พนักงานอัยการต้องกำหนดวันนัดให้ไปรายงานตัวอีกในวันที่ 27 ก.ค. 2560  

สืบเนื่องมาจากกรณีที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดย พ.ท.เศรษฐสิทธิ์ แก้วคูณเมือง ร้องทุกข์ ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปัตตานีเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2559 ให้ดำเนินคดีกับสามนักสิทธิมนุษยชน คือ สมชาย หอมลออ ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม (ในขณะนั้น) พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และอัญชนา หีมินะ หัวหน้าของกลุ่มด้วยใจ ในข้อหาความผิดร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เนื่องจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้จัดพิมพ์และเผยแพร่รายงานสถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรี ในจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2557 – 2558 โดย ต่อมา กอ.รมน. ภาค 4  ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2560 ที่โรงแรมสุโกศล กรุงเทพ ว่าไม่ติดใจดำเนินคดีกับสามนักสิทธิฯไปในทุกข้อหา และจะดำเนินการถอนคำแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าวต่อไป แต่เมื่อทนายความได้พบกับพนักงานอัยการ กลับพบว่า ขณะนี้ กอ.รมน. ยังไม่ได้ถอนคำแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด ซึ่งการถอนคำแจ้งความร้องทุกข์ในคดีนี้ จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.)  หรือผู้บัญชาการทหารบกในฐานะ รอง ผอ.รมน. เป็นผู้ลงนาม และ กอ.รมน.ภาค 4 จะต้องส่งหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวแก่พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการประกอบการถอนแจ้งความร้องทุกข์คดีดังกล่าว

“คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างที่สำคัญที่แสดงถึงบทบาททางวิชาการและการใช้สิทธิในการมีส่วนร่วมตามรัฐธรรมนูญของประชาชนในการให้ข้อมูลและตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐให้ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมายและต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ที่มีความอ่อนไหว  การดำเนินการถอนแจ้งความนักสิทธิมนุษยชนทั้งสามเป็นแนวทางที่เชื่อว่าจะช่วยเปิดพื้นที่ให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้กว้างขึ้น เจ้าหน้าที่จะได้นำข้อมูลและข้อเสนอแนะด้านสิทธิมนุษยนชนต่างๆ ไปปฎิบัติได้จริงอย่างทันท่วงทีต่อสถานการณ์ความรุนแรง” สุรพงษ์ กองจันทึก  ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรมกล่าว

รายงานสถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรี ในจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2557 – 2558 ได้จัดทำขึ้นตามโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของสหประชาชาติ โดยวัตถุประสงค์เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลและให้ความช่วยเหลือเหยื่อจากการทรมาน หรือการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดเสียหายทั้งทางกายและจิตใจ  ฟื้นฟูและสนับสนุนให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำดังกล่าวสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายเพื่อให้บุคคลเหล่านั้นสามารถเข้าถึงความยุติธรรมและการเยียวยาจากรัฐ และเพื่อเสนอแนะต่อเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐให้ดำเนินการทั้งทางนโยบาย กฎหมาย และการปฏิบัติเพื่อป้องกันและขจัดการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการใช้บังคับกฎหมายพิเศษ ได้แก่ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 

“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บางรายกล้าที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมและดำเนินคดีเพื่อให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐรับผิดชอบ แต่ยังมีประชาชนอีกจำนวนไม่น้อยที่ถูกทรมานฯแต่ไม่กล้าร้องเรียนหรือดำเนินคดี  ปัญหาการทรมานฯเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ต้องหาทั้งสามซึ่งเป็นนักสิทธิมนุษยชนทำงานขับเคลื่อนให้เกิดการตรวจสอบ เพื่อให้หน่วยงานรัฐปกป้อง คุ้มครองประชาชน รวมทั้งผลักดันเชิงนโยบายต่อภาครัฐ ในการแก้ไขปัญหาเพราะหากไม่แก้ไขเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและยุติการทรมานฯ แล้ว จะส่งผลให้ประชาชนจำนวนหนึ่งหันหลังให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ยากที่จะสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ได้” สุรพงษ์ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท