แอมเนสตี้และพันธมิตร 13 องค์กรที่ทำงานด้านผู้ลี้ภัยทั่วโลกเรียกร้องไทยตั้งกระบวนการคัดกรองผู้ลี้ภัยตามที่ ประยุทธ์ เคยให้สัญญาไว้ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ผู้ลี้ภัยเข้าถึงความช่วยเหลือต่างๆ ได้ ในโอกาสที่ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยฯ เยือนไทยวันนี้
7 ก.ค. 2560 รายงานข่าวแจ้งว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับองค์กรพันธมิตร 13 องค์กรที่ทำงานด้านผู้ลี้ภัยทั่วโลกออกแลถงการณ์ร่วมเนื่องในโอกาสที่ ฟิลิปโป กรานดี ข้าหลวงใหญ่เพือผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เยือนไทยในวันนี้ (7 ก.ค. 60) โดยเรียกร้องให้ทางการไทยปกป้องคุ้มครองสิทธิของผู้ลี้ภัยตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะการจัดตั้งกระบวนการคัดกรองผู้ลี้ภัย
เมื่อเดือน ก.ย. 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้คำมั่นสัญญาในการประชุมผู้นำโลกที่นครนิวยอร์กว่าทางการไทยจะจัดตั้งกระบวนการคัดกรองผู้ลี้ภัยที่มีประสิทธิภาพ และจะส่งเสริมให้ผู้ลี้ภัยเข้าถึงการศึกษาและสุขภาพในไทยได้ แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา ประเทศไทยยังไม่เคารพ "หลักการไม่ส่งกลับ" (Non-refoulement) ด้วยการส่งผู้ลี้ภัยไปยังพื้นที่ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น การส่งนายเอ็ม ฟูรกาน เซิกเม็น ไปยังตุรกี ซึ่งเขาถูกคุกคามทางกฎหมายจากรัฐบาล หรือการส่งชาวอุยกูร์ราว 100 คนไปยังจีน ซึ่งทำให้พวกเขาเสี่ยงที่จะถูกทางการจีนประหัตประหาร
แอมเนสตี้และองค์กรพันธมิตรอีก 12 แห่งร่วมกันเรียกร้องให้ทางการไทยเร่งรัดกระบวนการคัดกรองผู้ลี้ภัยให้เกิดขึ้นโดยเร็ว มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐานสากล และปฏิบัติตามหลักการไม่ส่งกลับ นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ทางการไทยยุติการควบคุมตัวผู้ลี้ภัยโดยพลการ ตลอดจนเปิดโอกาสให้พวกเขาได้รับการช่วยเหลืออย่างมีมนุษยธรรม ซึ่งรวมถึงการศึกษา สุขภาพ และการประกอบอาชีพ
นอกจาก แอมเนสตี้ฯ แล้วองค์กรพันธมิตรที่ร่วมแถลงการณ์ประกอบด้วย เครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยแห่งเอเชีย-แปซิฟิก (Asia Pacific Refugee Rights Network) องค์กรอไซลัมแอคเซส ประเทศไทย (Asylum Access Thailand) เครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ (Coalition for the Rights of Refugees and Stateless Persons) องค์กรเซ็นเตอร์ ฟอร์ อไซลัม โพรเทคชั่น (Center for Asylum Protection) สหพันธ์เพื่อสิทธิมนุษยชนสากล(FIDH - International Federation for Human Rights) องค์กรโฟร์ติไฟย์ไรท์ (Fortify Rights) ฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) เครือข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติ (Migrant Worker Rights Network) เครือข่ายองค์กรด้านแรงงานข้ามชาติ (Migrant Working Group) มูลนิธิศักยภาพชุมชน (People Empowerment Foundation) องค์การช่วยเหลือเด็ก(Save the Children) และกลุ่มอุมมาตี (Ummatee)