ไม่ล่าแต่ท้าชน 'ชิโอริ' หญิงญี่ปุ่นผู้ยืนหยัดต่อสู้คดีข่มขืนจนสะเทือนถึงรัฐสภา

นักข่าวอิสระผู้พยายามดำเนินคดีกับนักข่าวที่มีความใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีโต้คลื่นสังคมที่ยังมองเรื่องคนถูกข่มขืนในแง่ไม่ดีโดยการเปิดหน้าสู้ทั้งฟ้องร้อง จัดแถลงข่าว และยังจะสู้ต่อไปแม้ว่าจะมีเสียงก่นด่าจากคนที่ซุ่มซ่อนตัวเองในอินเทอร์เน็ต จนกระทั่งเรื่องนี้ถูกตั้งกระทู้ในสภาล่างของญี่ปุ่น
 
ชิโอริ ผู้สื่อข่าวที่เปิดโปงเรื่องที่ตนถูกข่มขืน (ที่มา: 4plebs.org)
 
17 ก.ค. 2560 สื่อญี่ปุ่นนำเสนอเรื่องของชิโอริ ผู้สื่อข่าวที่ออกมาเปิดโปงเรื่องที่เธอถูกข่มขืนโดยโนริยูกิ ยามางุจิ นักข่าวช่องโทรทัศน์ทีบีเอสที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ หลังจากที่เธอเปิดแถลงข่าวในเรื่องนี้เมื่อปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาก็มีทั้งเสียงให้กำลังใจและเสียงวิพากษ์วิจารณ์เธอตามมาในหลายรูปแบบ รวมถึงที่มีลักษณะแบบกล่าวโทษเหยื่อ (victim blaming) ด้วย
 
ชิโอริเคยแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดไว้ว่า เมื่อช่วงเดือน เม.ย. 2558 ยามางุจินัดเธอดื่มด้วยกันโดยอ้างว่าเพื่อคุยเรื่องงาน แต่หลังจากที่เธอร่วมดื่มกับเขาเธอก็ไม่สติอีกเลยจนกระทั่งรู้ตัวอีกทีก็ตื่นมาในร่างเปลือยเปล่าในโรงแรมพร้อมกับยามางุจิที่อยู่บนตัวเธอ ทำให้เธอตัดสินใจแจ้งความในเรื่องที่ยามางุจิมีเพศสัมพันธ์ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ได้สติซึ่งถือเป็นการ "ข่มขืนกึ่งหนึ่ง" ในข้อกฎหมายของญี่ปุ่น
 
สื่อไมนิจิของญี่ปุ่นรายงานว่าทางตำรวจได้ออกหมายจับยามางุจิในเรื่องนี้ไว้แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ แม้ว่าจะมีการส่งเอกสารกล่าวหาเขาให้พนักงานอัยการแต่ก็มีการถอนฟ้องเมื่อเดือน มิ.ย. 2559 เรื่องนี้ทำให้ชิโอริไม่พอใจกับผลจึงยื่นขอให้มีการสืบสวนโดยคณะกรรมาธิการสืบสวนพิจารณาคดีของอัยการซึ่งเป็นฝ่ายตุลาการบุคคลที่สามที่สามารถตัดสินว่าคดีควรฟ้องร้องได้หรือไม่ 
 
หลังจากนั้นเธอจึงจัดแถลงข่าวในวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา ชิโอริบอกว่า "ฉันรู้สึกว่ามันจำเป็นต้องสื่อออกมาให้คนอื่นรู้ว่าการถูกข่มขืนมันย่ำแย่แค่ไหน และสร้างบาดแผลต่อชีวิตของเหยื่อร้ายแรงเพียงใด"
 
นอกจากนี้เธอยังพูดถึงกระบวนการที่สังคมปฏิบัติต่อเหยื่อที่ถูกข่มขืนย่ำแย่ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลที่รักษาเธอแบบขอไปทีด้วยการแค่ให้ยาคุมกำเนิดโดยไม่ซักประวัติและไล่ไปกินนอกโรงพยาบาล หรือแม้แต่คำรวจก็พยายามขอให้เธอเจรจายอมความเป็นส่วนตัวนอกศาล มีตำรวจสองคนขอให้เธอเล่าเรื่องเดียวกันซ้ำ มีแผนการจับกุมตัวผู้ต้องหาแต่ก็มีการยกเลิกโดยอ้างว่า "มีคำสั่งเบื้องบนของหน่วยงานตำรวจ" สั่งมา
 
ปัจจุบันชิโอริมีอายุได้ 28 ปี เธอทำงานเป็นนักข่าวอิสระ กรณีการออกมาเปิดโปงเรื่องการข่มขืนของเธอถือเป็นเรื่องสั่นสะเทือนสำหรับญี่ปุ่นมากเพราะน้อยครั้งจะมีคนที่เปิดเผยตัวเองออกมาพูดเรื่องที่ตนถูกข่มขืนต่อสาธารณะและกล้าสู้หน้ากล้อง โดยที่เธอยังปกปิดนามสกุลเพราะคำขอร้องของครอบครัว
 
เมื่อไม่นานมานี้ชิโอริยังให้สัมภาษณ์ต่อเจแปนไทม์ว่าเหยื่อที่ถูกก่ออาชญากรรมทางเพศมักจะต้องซ่อนจากสังคมเพราะถูกมองว่าเป็นอะไรที่มีมลทิน เสียงของพวกเขาก็ไม่มีใครรับฟัง ทำให้เธอต้องการท้าชนด้วยการแสดงตัวตนออกมาในฐานะเหยื่อถูกกระทำทางเพศให้สังคมได้เห็นว่าเธอก็เป็นมนุษย์ที่มีหน้าตา นอกจากนี้เธอยังต้องการแสดงออกโต้ตอบความคิดที่ว่าเหยื่อถูกข่มขืนต้องดูเศร้า ดูอ่อนแอ และต้องอับอายจากสถานการณ์ เธอคิดว่าไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น

กำลังใจและคำด่าทอจากโลกออนไลน์

อย่างไรก็ตาม เจแปนไทม์ รายงานว่าหลังจากที่ชิโอริแถลงข่าวในเรื่องนี้เธอก็ถูกรุมว่ากล่าวโจมตีจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เปิดเผยใบหน้าจำนวนมากที่แสดงความคิดเห็นในเชิงทำร้ายจิตใจเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวหาว่าเธอเป็น "โสเภณี" เป็น "พวกเรียกร้องความสนใจ" หรือเป็น "คนที่กระทำการล่อลวงเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง" รวมไปถึงมีการใช้วาจาแบบโทษเหยื่อ (victim blaming) แม้กระทั่งตอนเธอแถลงข่าวก็หาว่าเธอ "สวมชุดสั้นเกินไป" 
 
แต่ถึงแม้ว่าจะมีเสียงก่นด่า แต่เธอก็ได้รับคำแสดงความชื่นชมจำนวนมากด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการชื่นชมความกล้าหาญของเธอ หรือบ้างก็ส่งคำแสดงการให้กำลังใจเธอ
 
ชิโอริยังเคยกล่าววิจารณ์การพยายามออกกฎหมายใหม่ของรัฐสภาญี่ปุ่นที่ถูกเรียกว่า "กฎหมายต่อต้านการสมคมคิด" เธอวิจารณ์ว่าสภาล่างของญี่ปุ่นดูจะมัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องนี้มากแทนที่จะเอาเวลาไปปรับปรุงกฎหมายอาญาในเรื่องอาชญากรรมทางเพศ 

สะเทือนถึงสภา

เรื่องการให้กำลังใจและการด่าชิโอริกลายเป็นการแบ่งฝ่ายทางการเมืองไปเสีย เมื่อมีผู้ต่อต้านฝ่ายซ้ายอ้างว่าชิโอริเป็นคนที่ถูก ส.ส.ฝ่ายซ้ายส่งตัวมาเล่นละครเพื่อผลักดันวาระของตนเอง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็พยายามชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้ถูกกล่าวหาข่มขืนคือยามางุจิกับอาเบะ ในเรื่องที่เขาเคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทำให้มีคนตั้งสมมติฐานว่านี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ยามางุจิหลุดรอดจากการถูกจับได้
 
เรื่องกรณีของชิโอริส่งผลสะเทือนไปถึงสภาของญี่ปุ่นเช่นกัน เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมาในการประชุมสภาล่าง โยเซย์ อิเดะ จากพรรคเดโมเครติคของญี่ปุ่นตั้งกระทู้ถามจุน มัทสึโมโตะ ประธานกรรมการความมั่นคงของประชาชนว่าการไต่สวนคดีนี้โดยตำรวจช่วงก่อนหน้านี้เป็นไปอย่างไม่เหมาะสมใช่หรือไม่ จากกรณีที่ตัดสินไม่ทำตามหมายจับยามางุจิ ซึ่งมัทสึโมโตะตอบว่ามัน "เป็นเรื่องปกติ" สำหรับหน่วยงานตำรวจประจำจังหวัดจะสั่งการเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้ทำตามความเหมาะสม
 
สื่อเจแปนไทม์สัมภาษณ์ยามางุจิในเรื่องนี้เช่นกัน แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ยอมพูดอย่างชัดเจนว่าเขาได้มีเพศสัมพันธ์กับชิโอริหรือไม่ โดยอ้างว่าเขา "ไม่ได้ทำอะไรที่ละเมิดกฎหมาย" และไม่แสดงความคิดเห็นเพราะต้องการเน้นกระบวนการของคณะกรรมาธิการสืบสวนพิจารณาคดีของอัยการ อย่างไรก็ตามยามางุจิก็วิพากษ์วิจารณ์สื่อในเรื่องการนำเสนอข่าวของชิโอริว่าราวกับเรื่องที่เธอถูกกระทำอาชญากรรมทางเพศเป็นเรื่องจริงไปแล้วและตัวเขาเองถูกมองว่าเป็นอาชญากร
 
ฝ่ายชิโอริเองก็แสดงความไม่ชอบใจต่อเรื่องที่มีคนข่มเหงรังแกเธอผ่านข้อความทางอินเทอร์เน็ตเช่นกัน นอกจากคำวิจารณ์แล้ว เธอยังถูกขอให้เผยนามสกุลแม้ว่าเธอต้องการจะปิดไว้เป็นเรื่องส่วนตัว ถูกบีบให้ปิดอินสตาแกรมของเธอที่โพสต์แต่ภาพที่เกี่ยวข้องกับงาน แต่ก็มีไซเบอร์สตอล์คเกอร์ หรือผู้สะกดรอยทางอินเทอร์เน็ตไปค้นหารูปส่วนตัวของเธอแล้วแพร่กระจายต่อไปเรื่อยๆ 
 
เรื่องนี้ทำให้เธอบอกว่าเธอได้เรียนรู้ถึงความน่ากลัวของอินเทอร์เน็ต คนที่ไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน ไม่เคยพูดคุยกับเธอแต่พยายามทำร้ายจิตใจเธอและทำร้ายรวมไปถึงครอบครัวและเพื่อนของเธอด้วย แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอย่อท้อต่อการสู้คดีนี้ต่อไป โดยเธอมีแผนการฟ้องร้องทางแพ่งกับยามางุจิด้วย
 
"พวกเราต้องทำลายข้อห้ามนี้ พวกเราต้องสามารถพูดถึงมันได้ ... นี่อาจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาวคุณ ภรรยาคุณ แฟนสาวของคุณ ลูกชายคุณ กับทุกๆ คน แม้กระทั่งกับแฟนหนุ่มของคุณหรือกับตัวคุณเองด้วย ฉันแค่อยากให้คนได้คิดถึงมันด้วยตัวเอง" ชิโอริกล่าว
 
เรียบเรียงจาก
 
After rape allegation against TV journalist, Shiori hopes to shed light on victims’ plight, Japan Times, 13-07-2017
 
Alleged rape victim faces mixed reactions to news conference about handling of case, The Mainichi, 12-07-2017

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท