27 ก.ค. 2560 จากรณีวานนี้ (26 ก.ค.60) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ชี้แจงกรณีที่กรมบังคับคดีได้อายัดบัญชีของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เนื่องจากคดีโครงการรับจำนำข้าวนั้นว่า ยังไม่มีการยึดทรัพย์ ทั้งนี้ได้สั่งให้กรมบังคับคดีชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย รวมถึงให้ระมัดระวังการให้ข้อมูล เพราะไม่เช่นนั้นอาจถูกมองว่าเป็นการไปกลั่นแกล้ง ยิ่งลักษณ์ จนต่อมา ยิ่งลักษณ์ รีทวีตผ่าน @PouYingluck สั้นๆ ว่า "ไม่ใช่แค่อยู่ขั้นตอนการเตรียมการนะคะ แต่ได้ยึดและถอนเงินในบัญชีดิฉันไปแล้วค่ะ"
ล่าสุดวันนี้ (27 ก.ค.60) สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่กรมบังคับคดี กระทรวงการคลังดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์ในบัญชีธนาคารของยิ่งลักษณ์ ว่า เป็นคนละเรื่องกับกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษาในคดีโครงการรับจำนำข้าวในวันที่ 25 ส.ค.นี้ อย่านำ 2 กรณีมาปนกัน เพราะการยึดทรัพย์โดยกรมบังคับคดี เป็นมาตรการทางปกครอง ซึ่งต้องทำตามเวลาที่กำหนด ส่วนในวันที่ 25 ส.ค.เป็นเรื่องของศาล ซึ่งเป็นคดีอาญา ขณะนี้มี 2 กรณี แต่อาจะมี 3 กรณีก็ได้หากมีมาตรการทางแพ่งให้ชดใช้ความเสียหาย ยืนยันว่ากรณียึดและอายัดทรัพย์ไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา
เมื่อถามว่า ยิ่งลักษณ์ ได้ร้องต่อศาลปกครองให้ทุเลาการดำเนินการยึดทรัพย์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากศาลรับคำร้องของ ยิ่งลักษณ์ การยึดทรัพย์ก็จะหยุดชั่วคราว ถ้าศาลไม่ให้ทุเลาก็ต้องเดินหน้ายึดทรัพย์กันต่อไป ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะให้สิทธิแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ ไม่ใช่ว่าเมื่อโดนคำสั่งศาลแล้ว จะไม่สามารถร้องขอความเป็นธรรมได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และยิ่งลักษณ์สามารถร้องศาลปกครองจนกว่าอายุความจะสิ้นสุด และระหว่างนี้กรมบังคับคดีก็จะดำเนินการยึดทรัพย์จนกว่าอายุความจะสิ้นสุดเหมือนกัน
“ขอว่าอย่าเอา 2 เรื่องมาพันกัน อย่าเอามาจนกลายเป็นประเด็นเพื่อปลุกระดม เพื่อใช้ในการบิดเบือน เอาคนมา หาว่าเราไปรังแก ยึดทรัพย์ เพราะมันคนละเรื่อง เนื่องจากมีกฎหมายตั้งหลายตัว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
วิษณุ แจงไม่ได้ยึดทรัพย์ แค่ฟรีซเอาไว้
ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ต้องเข้าใจก่อนว่ามีอยู่หลายคดี คดีอาญาของนักการเมืองนั้นไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะตัดสินวันที่ 25 ส.ค.นี้ หากศาลฎีกาฯตัดสินว่ามีความผิดจะนำไปสู่การดำเนินคดีแพ่งต่อไป คำถามเรื่องการยึดทรัพย์ที่สื่อถามนายกฯเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น นายกฯคงเข้าใจว่าเป็นการยึดทรัพย์ในคดีที่อยู่ในศาลฎีกาฯ ซึ่งความจริงยังยึดไม่ได้จนกว่าศาลฎีกาฯจะตัดสินแล้วรอดูผลก่อนจะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร
วิษณุ กล่าวว่า ส่วนการบังคับคดีปกครองที่พูดกันมาเป็นปีจากการออกคำสั่งทางปกครองออกไปแล้วนั้น หลายคนพยายามมาถามตนว่าทำถึงไหนแล้ว จะยึดอะไรอย่างไรบ้าง ซึ่งตนบอกแล้วว่าถ้าพบก็ยึดและมีอายุความ 10 ปี จึงถือเป็นคนละส่วน ถ้าพบก็ต้องยึดทรัพย์เลย มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะถือว่าบกพร่อง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังในฐานะเจ้าหนี้ของเรื่องดังกล่าวได้ตรวจสอบพบว่ามีทรัพย์สินบางส่วน จึงนำทรัพย์สินดังกล่าวแยกเป็น 2 ส่วน คือ 1.สังหาริมทรัพย์ ได้แก่ เงินฝากอยู่ในธนาคารต่างๆ ที่ตอนนี้ตรวจพบแล้วว่ามีอยู่ 10-20 ธนาคาร รวมแล้วเป็นเงินจำนวนไม่มาก จำเป็นต้องถูกอายัดไว้ก่อน ถูกฟรีซเอาไว้ เพื่อไม่ให้จำหน่ายจ่ายโอน แต่ยังไม่ถูกยึดมาเป็นของหลวง กรณีผู้ต้องหารายอื่นๆ ก็ถูกดำเนินการในลักษณะเดียวกันได้
วิษณุ กล่าวว่า 2.อสังหาริมทรัพย์ คือที่ดิน บ้าน คอนโดฯ เป็นต้น ได้ถูกตรวจพบว่ามีประมาณ 37 รายการ โดยหน่วยงานเจ้าของเรื่องทราบดีว่ามูลค่าจำนวนหนึ่ง แต่ขอไม่ระบุตัวเลข ซึ่งกรมบังคับคดีได้ประสานกับกรมที่ดิน เพื่อขอฟรีซทรัพย์นั้นไว้เช่นกัน เพื่อไม่ให้ทำธุรกรรม จำหน่าย จ่ายโอน แต่ยังไม่ถูกยึดเข้ารัฐเช่นกัน และยังไม่ถูกนำมาขายทอดตลาด และยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลนั้นอยู่เช่นเดิม เพียงแต่กรมบังคับคดีแจ้งให้กรมที่ดินทราบว่ามีรายการใดบ้างที่ถูกตรวจพบ
เมื่อถามว่า ยิ่งลักษณ์ ระบุเงินในบัญชีถูกอายัดและถูกถอนออกจากบัญชีไปแล้ว วิษณุ กล่าวว่า เงินที่ถูกอายัดไว้นั้นมี 16 บัญชี โดย 5 บัญชีรวมแล้วมีเงินเป็นหลักแสนบาท ซึ่งถูกกรมบังคับคดีถอนออกมาก่อน ถือเป็นอำนาจตามกฎหมาย แต่ยังไม่ได้ถูกส่งเข้าคลังทันที ทรัพย์ยังอยู่ที่กรมบังคับคดีเนื่องจากยึดตามคำสั่งทางคดีปกครอง ที่เหลืออีก 11 บัญชียังไม่มีการแตะต้อง
เมื่อถามว่าหากศาลฎีกาฯตัดสินว่านยิ่งลักษณ์ไม่มีความผิด จะได้รับเงินที่ถูกกรมบังคับคดีถอนออกไปนั้นกลับคืนหรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า เป็นคนละส่วนกันระหว่างคำตัดสินของศาลฎีกาฯในวันที่ 25 ส.ค. กับคดีแพ่ง ขณะเดียวกันน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ไปยื่นขอทุเลาการบังคับคดี แต่ตอนนั้นศาลไม่รับด้วยเหตุว่าขณะนั้นยังไม่มีการยึดทรัพย์ใดๆ จึงไม่ต้องทุเลาการบังคับคดี แต่ขณะนี้ได้เริ่มมีการบังคับคดีแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็มีสิทธิ์ไปยื่นขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลปกครองได้ ถือเป็นผลดีต่อตัวเขาเอง จากนั้นอยู่ที่ศาลปกครองจะทุเลาการบังคับคดีหรือไม่
วิษณุ กล่าวว่า หากศาลปกครองสั่งทุเลาการบังคับคดีดังกล่าว กรมบังคับคดีต้องหยุดการดำเนินการทั้งหมด ทั้งสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ แต่ถ้าศาลปกครองสั่งไม่ทุเลา ทางกรมบังคับคดีก็ดำเนินการต่อไปได้ตามกฎหมาย แต่ได้หารือกันแล้วว่าจะยังไม่ทำอะไรอีกในช่วงนี้จนกว่าศาลฎีกาฯจะมีคำตัดสินในวันที่ 25 ส.ค. อย่างน้อยการทำเช่นนี้ทำให้รู้ว่าทรัพย์สินทั้งหมดในชื่อของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีอะไรบ้าง อยู่ที่ใดและมีมูลค่าเท่าใด ส่วนทรัพย์สินของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่อาจอยู่ในชื่อบุคคลอื่น ทางกรมบังคับคดียังไม่เข้าไปตรวจสอบ ส่วนจะไปตรวจสอบเมื่อใดนั้นไม่ทราบ
เมื่อถามว่าอาจถูกมองว่ากรมบังคับคดีใช้เวลาสืบทรัพย์นาน แต่เพิ่งมาสืบพบในช่วงเวลาใกล้จะตัดสินคดีในวันที่ 25 ส.ค. วิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกัน อยู่ที่ว่ากรมบังคับคดีจะสืบทรัพย์พบเมื่อใด เมื่อสืบพบก็ต้องดำเนินการโดยทันทีตามกฎหมาย ถือเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังไปแจ้งกรมที่ดิน ธนาคารต่างๆ ตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าศาลฎีกาฯจะนัดวันอ่านคำพิพากษาในวันใด เมื่อออกมาเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีปัญหา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)