Skip to main content
sharethis

พบการจ้างงานผู้หญิงในภาคเอกชนของซาอุดิอาระเบียเพิ่มขึ้นถึง 130% ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ในรอบไม่กี่ปีมานี้กระแสการเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้หญิงในรัฐที่เข้มงวดเรื่องศาสนาแห่งนี้มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่มาภาพประกอบ: Tribes of the World (CC BY-SA 2.0)

9 ส.ค. 2560 ประเทศอนุรักษนิยมอย่างซาอุดิอาระเบียกำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงในด้านตลาดแรงงาน จากข้อมูลล่าสุดพบว่าการจ้างงานผู้หญิงในภาคเอกชนพุ่งสูงขึ้น โดยเว็บไซต์ zawya.com รายงานเมื่อต้นเดือน ก.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่าอัตราการจ้างงานผู้หญิงในภาคเอกชนของซาอุฯ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 130 ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา

ตัวเลขจากกระทรวงแรงงานและการพัฒนาสังคม (Ministry of Labour and Social Development) ในเดือน มี.ค. 2560 แสดงให้เห็นว่าการจ้างพนักงานหญิงซาอุฯ ในภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจาก 215,000 คนในปี 2555 เป็น 496,000 คนในปี 2559 จำนวนผู้หญิงที่ทำงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12 ในปี 2554 ส่วนในภาครัฐนั้นก็มีตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน โดยผู้หญิงซาอุฯ มักจะนิยมทำอาชีพครู อาจารย์ หรือบุคคลากรในสายการศึกษา

ราชอาณาจักรที่อุดมไปด้วยน้ำมันแห่งนี้ได้ประกาศแผนเศรษฐกิจในระยะยาวหวังช่วยกระจายรายได้ให้กับประชาชนโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันเพียงอย่างเดียว หลังจากมีบทเรียนราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงในปี 2557 และรายได้จากการค้าน้ำมันของซาอุฯ ลดลงไปกว่าร้อยละ 51 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

แผนดังกล่าวของซาอุฯ ตั้งเป้าให้บรรลุผลภายในปี 2573 ซึ่งในด้านการจ้างงานผู้หญิงนั้น รัฐบาลหวังว่าจะมีการเพิ่มการจ้างงานจากร้อยละ 23 ในปี 2559 เป็นร้อยละ 28 ภายในปี 2563 นอกจากนี้ยังตั้งเป้าเพิ่มบทบาทของผู้หญิงในงานภาคบริการสาธารณะมากขึ้น โดยผู้หญิงชาวซาอุฯ พึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานแพทย์และอาสาสมัครในนครมักกะห์ (Makkah) ในช่วงเทศกาลจาริกแสวงบุญ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง

แรงกระเพื่อมที่ไม่อาจมองข้าม

ผู้หญิงในซาอุดิอาระเบียยังคงถูกจำกัดสิทธิหลาย ๆ อย่าง ที่มาภาพประกอบ: wikimedia.org

แม้จะมีการส่งเสริมการทำงานให้แก่ผู้หญิง แต่สังคมซาอุฯ ก็ยังยึดติดกับภาพจำที่ให้ผู้หญิงต้องอยู่บ้าน อย่างนโยบายส่งเสริมการทำงานของผู้หญิง ก็ยังส่งเสริมงานประเภท 'งานที่ทำทางไกล' (telework) หรือ 'งานที่ทำจากบ้าน' ซึ่งรัฐบาลซาอุฯ ตั้งเป้าว่าจะสร้างตำแหน่งงานนี้ให้ผู้หญิงในประเทศ 141,000 ตำแหน่งภายในปี 2563

การออกไปทำงานนอกบ้านของหญิงชาวซาอุดิอาระเบียยังคงเผชิญกับอุปสรรคทางสังคมและวัฒนธรรม แทบจะไม่น่าเชื่อว่าประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกอาหรับนี้ กลับเป็นประเทศเดียวที่ผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถ ซึ่งประเด็นเรื่องการขับรถนี้ส่งผลกระทบต่อหญิงที่เริ่มเข้าสู่ระบบแรงงานโดยตรง เพราะระบบขนส่งมวลชนสาธารณะของซาอุฯ เองก็ไม่ได้ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการจุดประเด็น 'ชาตินิยมทางเศรษฐกิจ' เนื่องจากผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องใช้บริการรถแท็กซี่ที่คนขับเป็นชาวต่างชาติแทน

เมื่อปลายปี 2559 aljazeera.com ได้รายงานว่าเจ้าชายอัลวาลิด บิน ทาลัล ได้ออกมาให้ความเห็นทางโซเชียลมีเดีย โดยได้โพสต์ Twitter ว่า "หยุดถกเถียงกัน : ถึงเวลาให้ผู้หญิงขับรถได้แล้ว" (Stop the debate : Time for women to drive) เจ้าชายอัลวาลิดระบุเหตุผลที่ควรยกเลิกการห้ามผู้หญิงขับรถว่า การห้ามไม่ให้ผู้หญิงขับรถด้วยตัวเองเองก็เหมือนกับการกีดกันสิทธิเสรีภาพ การศึกษา กฎหมายห้ามดังกล่าวไม่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบัน และการที่ผู้หญิงไม่สามารถขับรถได้เอง เมื่อคนในครอบครัวไม่สามารถไปรับไปส่งพวกเธอได้พวกเธอจึงต้องพึ่งพารถแท็กซี่โดยสารจากบริษัทต่างชาติ ซึ่งการให้ผู้หญิงขับรถได้เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสภาพสังคมสมัยใหม่และเศรษฐกิจในปัจจุบัน

อนึ่งเจ้าชายอัลวาลิด บิน ทาลัล ทรงเป็นโฆษกของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียที่ไม่มีอำนาจทางการเมือง และทรงเป็นประธานบริษัท คิงดอม โฮลดิง (Kingdom Holding Co) นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีในซาอุฯ มาอย่างยาวนาน

ที่มาภาพรวบรวมโดย dailymail.co.uk

ย้อนไปก่อนหน้านั้นเมื่อเดือน ก.ย. 2559 dailymail.co.uk รายงานว่ามีการรณรงค์บนโซเชียลมีเดีย ด้วยการติดแฮชแท็ก #StopEnslavingSaudiWomen ทาง Twitter รวมทั้งระบายความอึดอัดต่าง ๆ ของผู้หญิงในซาอุฯ เช่นเรื่องการศึกษา การทำงาน และสิทธิขั้นพื้นฐานต่าง ๆ นักสิทธิมนุษยชนชาวอเมริกันคนหนึ่งได้ระบุกับ Jerusalem Post ว่าแคมเปญการรณรงค์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความมีน้ำใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้หญิงซาอุฯ ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงซาอุฯ มักถูกจำกัดแม้แต่การใช้สื่อออนไลน์ ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่าผู้หญิงซาอุฯ ต้องเผชิญกับความยากลำบากในเกือบทุก ๆ ด้าน แต่เมื่อความอดทนสิ้นสุดลง โซเชียลมีเดียจึงเป็นช่องทางที่พวกเธอใช้เรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานของตนเอง

 

ที่มาข้อมูล

Let women drive, says Saudi prince (aljazeera.com, 1/12/2016)
Saudi Arabia to promote 'decent' jobs for women (alaraby.co.uk, 15/3/2017)
Progress for Saudi women: Number of female workers surges 130% in four years (zawya.com, 6/7/2017)
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net