Skip to main content
sharethis

คุยกับนักศึกษาสาว ปี 4 ม.อ.ปัตตานี เล่าเหตุการณ์ทหารพรานยิงใส่หลายนัด หลังเหตุรถเฉี่ยวชน พร้อมยันผู้ยิงไม่ได้เมา

ภาพจากเฟซบุ๊ก Amru Bueraheng

จากเหตุการณ์ ส.อ.ปรีชา อินทะรังสี ทหารพรานสังกัดหน่วยเฉพาะกิจที่ 4422 อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ใช้อาวุธปืนประจำตัวยิงใส่นักศึกษาสาว เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2560 เวลา 18.00 น. บริเวณหอพักหญิงเลขที่ 53/16 ซ.3 เจริญประดิษฐ์ ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นหอพักหญิงย่าน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) ล่าสุดทหารพรานดังกล่าว ถูกควบคุมตัวและมีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่เกิดเหตุวันนี้ (9 ส.ค. 2560) เวลา 15.30 น.

ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสัมภาษณ์หนึ่งในผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว นั่นคือ น.ส.ฮานาน (ขอสงวนนามสกุล) สมาชิกองค์การบริหารองค์การนักศึกษา มอ.ปัตตานี ตำแหน่ง เหรัญญิก และนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี

ฮานาน เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยเสียงที่สั่น เพราะคาดไม่ถึงว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้นกับตนเองได้ จนถึงตอนนี้เธอยังมีคำถามป้นเปี้ยนอยู่ในหัวอีกหลายคำถาม อาทิเช่น นั่นมันปืนจริงหรือ ? เขาจะฆ่าเราหรือ ? หลังจากที่เธอตั้งคำถาม เธอนิ่งเงียบเสียงสักพักพร้อมพูดออกว่า 

"ตอนนั้นหนูเข้าบ้านไม่ได้ ต้องรอกุญแจจากรูมเมท (เพื่อนร่วมหอ) รอกันอยู่ 2 คนกับรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง หนูรออยู่บนมอเตอร์ไซต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน ส่วนเพื่อนรุ่นพี่อีกคนยืนอยู่ข้างๆ รอได้สักพัก ก็มีรถยนต์ขับผ่านด้านหลังรถมอเตอร์ไซต์ที่หนูนั่งแล้ว กึ่งชนกึ่งเฉี่ยว จนรถมอเตอร์ไซต์หนูล้มลง แต่โชคยังดีหนูค้ำตัวเองทันเลยไม่ได้ล้มตามรถไปด้วย หนูนั่งอยู่บนรถไงค่ะ

ตอนนั้นหนูกับเพื่อนตกใจมาก แต่พยายามตั้งสติไว้ มือ แขน และตัวของหนูพยายามยกรถมอเตอร์ไซต์ที่ล้มลงขึ้นมาก่อนโดยมีเพื่อนช่วยอีกแรง ส่วนสายตาหนูกับหัวหันไปจับตามองรถยนต์คันดังกล่าวว่า เป็นรถใคร ? จะไปไหน ? และจะจอดที่ใด ? ปรากฏว่าเป็นรถยนต์ยีห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีขาว ซึ่งเป็นรถของเพื่อนบ้านถัดจากหอพักหนูหลังหนึ่ง เขาเป็นเจ้าหน้าที่ทหารพราน" ฮานาน เล่า

ฮานาน เล่าอีกว่า ระยะจุดที่รถเขาจอดกับจุดที่ตนยืนอยู่นั้นไม่ได้ไกลมากนัก ตนจึงถามภรรยาของเขาที่เดินลงจากรถมาก่อนว่า “พี่ค่ะเมื่อกี้พี่เห็นไหมว่าพี่ชนรถหนูล้ม ?” ฮานาน ย้ำด้วยว่า ตนพยายามถามดีๆ ไม่ขึ้นเสียง เพราะเกรงจะมีปัญหา และถามเขาหลายรอบมาก แต่ภรรยาเขาก็เดินเฉยตรงเข้าบ้าน โดยไมหันมามอง ไม่สนใจอะไรตนเลย

ฮานาน เล่าต่อว่า สักพักคนที่เป็นทหารพรานชื่อ ส.อ.ปรีชา เดินลงมาจากรถ ตนจึงถามด้วยคำถามเดิมอีกว่า “พี่ค่ะเมื่อกี้พี่เห็นไหมว่าพี่ชนรถหนูล้ม” แต่เขากลับเดินกร่าง หน้าบูดเบี้ยว เพิกเฉย ตรงเข้าบ้านอีกเช่นกัน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอทั้งสองเดินเข้าบ้านไป ตนจึงก้มลงเก็บของที่ตกหล่นจากรถที่ล้มไปเมื่อสักครู่

"สักพักภรรยาเขาก็เดินออกมาจากบ้านอีกครั้ง หนูก็ถามอีกครั้งว่า “พี่ค่ะเมื่อกี้พี่เห็นไหมว่าพี่ชนรถหนูล้ม” ถามไปหลายรอบอ่ะ เขายืนนิ่งแล้วหันมามองหน้าหนูพร้อมพูดว่า “ไม่เห็นนี่ค่ะ” และเดินไปหน้ารถยนต์ของเขาที่จอดอยู่หน้าบ้าน" ฮานาน เล่า พร้อมระบุต่อว่า ส.อ.ปรีชา ก็เดินออกมายืนอยู่หน้าประตูบ้าน พร้อมถกเสื้อชักอาวุธปืนตรงเอวออกมาชี้เป้ามาทางตน แล้วลั่นไก่ยิงกระสุนออกมาจากกระบอกปืนออกมา 3 นัด แต่ปาฏิหาริย์ที่ไม่โดนตนหรือเพื่อน

ฮานาน เล่าความรู้สึกขณะนั้นว่า ตกใจแบบ งงๆ คือ ไม่ทันได้ตั้งตัว อยู่ๆ เขาก็ชักปืนยิง รอบนี้ตนไม่ทันได้ถาม ไม่ได้คุยอะไรเลย อยู่ๆ ก็ได้ยินเสีย ตนเห็นไฟกระสุน เห็นเขาหันกระบอกปืนมาทางตน

"ตอนนั้นถามเพื่อนว่า เห้ย เขายิงจริงหรือ ? เขาจะฆ่าเราหรือ ? ก็ตอนนั้นยืนสตั้นแบบ งง มากอ่ะ" ฮานาน เล่า ระบุต่อด้วยว่าตอนนั้นในหัวยัง งงกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ระหว่างที่ตนนั่งงงกับเพื่อนอยู่นั่น ก็เห็นเขาเดินไปหน้ารถยนต์ตามภรรยาเขา สักพักเขายิงอีก 2 นัด โดยตนก็ไม่รู้ว่าเขายิงขึ้นฟ้าหรือไปทางไหน ตอนนั้นตนกับเพื่อนทำอะไรไม่ถูก จะวิ่งเข้าบ้านก็ไม่ได้ เพราะกุญแจอยู่ที่เพื่อน ซึ่งช่วงนั้นชุลมุนวุ่นวายไปหมด เพราะแถวนั้นเป็นบ้านแถวที่เป็นหอนักศึกษา ตอนเย็นก็จะมีคนออกมานั่งอยู่หน้าบ้าน ต่างคนต่างวิ่งเข้าบ้าน ผู้ใหญ่  แต่ตนกับเพื่อนยังยืนดูผู้คนอยู่แล้วได้ยินเสียงโวยวายว่า “พวกเมิงลงมาสิ ลงมาให้หมดเลย กรูจะยิงให้หมดเลย”

ฮานาน เล่าเหตุการณ์ต่อเนื่องว่า ได้ยินเสียงมาก่อน ตนก็เลยหันไปมองตามเสียงนั้น เห็นเขาเดินตรงมาตามถนน  ฮานาน ยืนยันว่าเดินมาไม่เซ ไม่เมา ปกติ เดินตรงและเร็วด้วย พร้อมเล็งปืนไปทางถนนที่เขาเดิน ระหว่างนั้นเพื่อนรูมเมทที่เอากุญแจมาให้ตนขับรถเข้ามาในซอยพอดี ทหารพรานคนนั้นเลยหันกระบอกปืนไปทางพวกเขา แล้วตะโกนออกมาอย่างโจรในหนังเลยว่า “ลงมาเลย จะยิงตายให้หมด” ตอนนั้นเพื่อนๆ ก็ งงว่ามันคืออะไร เกิดอะไรขึ้น เล็งปืนมาทางนี้ทำไม  ระหว่างนั้นมีพี่ไทยพุทธข้างบ้านมาดึงพวกตนพร้อมพูดออกมาว่า "ลูกๆ ลูก เข้าไปหลบในบ้านเร็วๆ" สักพักเขายิงปืนอีก 1 นัด พร้อมตะโกนข่มขู่ว่า "คิดว่าเป็นปืนปลอมหรือไง ? คิดว่าไม่กล้ายิงหรือไง ? จะยิงตายให้หมด" เจ้าของบ้านเลยให้พวกตนไปหลบในห้องครัว เพราะเกรงว่าเขาจะยิงเข้าบ้านมา หรือตามยิงเข้ามาในบ้าน

ฮานาน เล่าว่า จากนั้น พี่เจ้าของบ้านหาทางติดต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สักพักก็ได้ยินเสียงตำรวจ แล้วมีคนมาเคาะประตูให้ออกมาได้แล้วๆ ตำรวจมาแล้วๆ พวกตนก็เดินออกมา แล้วมีพี่คนหนึ่งบอกว่าไปคุยไปเล่ากับตำรวจ ตนจึงบอกว่าจะคุยนั้นคุยได้ แต่ต้องริปปืนจากทหารพรานคนนั้นก่อน เพราะตนเกรงเขาจะบันดาลโทสะจนทำให้เราไม่ปลอดภัยไปอีก แล้วหลังจากนั้นพวกตนก็พากันไปที่โรงพัก

เมื่อถึงโรงพัก ส.อ.ปรีชา ถามตนว่า “รถที่พี่เฉี่ยวเมื่อกี้เป็นอย่างไรบ้าง ?” หนูเลยตอบไปว่า “พี่ไม่ได้เฉี่ยว แต่พี่ชน” แล้วตนก็ถามอีกครั้งว่า “พี่เห็นไหมว่าพี่ชนรถหนูล้ม” เขาก็ตอบว่า “ต้องขอโทษด้วย คือพี่จำอะไรไม่ได้ พี่เมา”  

ฮานาน ยืนยันว่า เท่าที่เห็นตอนนั้นเขาไม่ได้เมา เดินตรง ไม่เซ แถมยังเดินเร็วด้วย ตอนอยู่โรงพัก คุยกันช่วงประชิดตัว ก็ไม่ได้กลิ่นเหล้าอะไรเลย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net