คณะกรรมการนักนิติ
ที่มา : https://www.icj.org/un-
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการนักนิติ
โดยมีรายละเอียดดังนี้
"เรียน ท่านประธานICJ ขอเน้นย้ำข้อแนะนำของคณะทำงาน ฯ ว่ารัฐควรจะบัญญัติให้การบังคับให้บุคคลสูญหายทั้งปวงเป็ นความผิดตามกฎหมายอาญา ซึ่งรวมไปถึงการบังคับให้ผู้ที่ เดินทางโยกย้ายถิ่นฐานสูญหาย และบัญญัติให้มีบทลงโทษที่ เหมาะสมโดยพิจารณาถึงความร้ ายแรงของการกระทำผิด เช่นที่ได้กล่าวถึงในสิ่งพิมพ์ของ ICJ เรื่อง “ไม่มีอีกแล้ว ‘คนหาย’: การบัญญัติให้การบังคับสู ญหายเป็นความผิ ดตามกฎหมายอาญาในเอเชียใต้” (No more ‘missing persons’: the criminalization of enforced disappearance in South Asia) แม้ว่าจะเป็นภูมิภาคที่มี รายงานตัวเลขของบุคคลที่ถูกบั งคับให้สูญหายเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก การบังคับให้บุคคลสูญหายก็ยั งไม่เป็นความผิดทางอาญาที่ชั ดเจนในประเทศใด ๆ เลยในเอเชียใต้ สิ่งนี้คืออุปสรรคที่สำคัญมากในการประกันความยุติ ธรรมกรณีของการบังคับให้บุคคลสู ญหาย ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากการปราศจากกฎหมายภายในประเ ทศที่กำหนดให้การบังคับให้บุ คคลสูญหายเป็นความผิ ดในกฎหมายอาญา ICJ ขอเน้นให้เห็นถึงความล้ มเหลวของเจ้าหน้าที่ในการสื บสวนสอบสวนอย่างมีประสิทธิ ภาพในกรณีที่มีการกล่าวหาว่ามี การบังคับให้บุคคลสูญหายในกรณี ที่เป็นที่รู้จักกันดี เช่น กรณีของนายสมบัด สมพอน ในประเทศสปป.ลาว กรณีของนายสมชาย นีละไพจิตร และ นายพอละจี “บิลลี่” รักจงเจริญ ในประเทศไทย เมื่อไม่มีกรอบของกฎหมายภายในประเทศที่ชั ดเจนที่กำหนดให้การบังคับให้บุ คคลสูญหายเป็นความผิ ดทางอาญาโดยเฉพาะเจาะจง บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่ของรั ฐพิจารณาว่าการคุมขังในที่ที่ ไม่ได้รับการรับรองให้เป็นที่คุ มขังโดยหน่วยงานบังคับใช้ กฎหมายเป็นกรณี “คนหาย” และแม้การรับแจ้งความเพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ต้องสงสัยว่าเป็ นผู้บังคับให้บุคคลสูญหายจะเกิ ดขึ้นได้ยาก แต่เมื่อมีการดำเนินคดีเหล่านี้ แล้ว การอธิบายคำฟ้องขอดำเนินคดีกลั บถูกจำกัดให้อธิบายลักษณะความผิ ดว่าเป็นการ “ลักพาตัว” “การจับกุมตัวเรียกค่าไถ่” หรือ “กักขังหน่วงเหนี่ยวโดยผิ ดกฎหมาย” เท่านั้น ข้อหาเหล่านี้ล้วนมิได้สะท้อนถึงความร้ายแรงหรือความซับซ้ อนของการบังคับให้บุคคลสูญหาย อีกทั้งการกำหนดโทษยังไม่มี ความเหมาะสมกับความร้ ายแรงของความผิด นอกจากนี้ข้อหาต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นยังไม่รับรองสถานะความเป็นผู้เสี ยหายของครอบครัวหรือญาติของผู้ ถูกบังคับให้สูญหาย รวมถึงผู้อื่นที่ได้รับความเสี ยหายอันเป็นผลมาจากการบังคับให้ บุคคลสูญหายตามมาตรฐานที่ กฎหมายระหว่างประเทศกำหนด สุดท้ายนี้ ICJ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีการศึกษาเรื่องผู้ที่เดิ นทางโยกย้ายถิ่นฐานโดยคณะทำงาน ฯ ICJ ขอแจ้งว่า ICJ ได้มีสิ่งพิมพ์ เรื่อง หลักของบทบาทของผู้พิ พากษาและทนายความในกรณีที่มี ความเกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภั ยและผู้ที่เดินทางโยกย้ายถิ่ นฐาน ซึ่งเพิ่งถูกตีพิมพ์ในปีนี้ และมีมาตรการการป้องกันที่สำคั ญที่จะช่วยป้องกันมิให้มีการบั งคับมิให้บุคคลสูญหายในกรณีที่ กล่าวมานี้ ขอขอบพระคุณ"
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)