เพื่อน “สมยศ” ชวนเขียนจดหมายอวยพรวันเกิดในคุก

กลุ่มเพื่อนชวนผู้สนใจเขียนจดหมายอวยพรวันเกิดสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องขังในคดีหมิ่นฯ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

กลุ่มเพื่อนสมยศ พฤกษาเกษมสุข จัดกิจกรรมเขียนจดหมายอวยพรวันเกิดสมยศในวันที่ 20 กันยายนนี้ ตัวแทนกลุ่มกล่าวถึงจุดประสงค์กิจกรรมนี้ว่า เนื่องจากที่ผ่านมาตั้งแต่หลังการรัฐประหาร 2557 ทางเรือนจำเปลี่ยนกฎการเยี่ยม ทำให้เพื่อนๆ ไม่สามารถเข้าเยี่ยมสมยศได้ จึงเหลือเพียงวิธีเดียวที่จะสามารถติดต่อกับคุณสมยศได้ โดยกิจกรรมนี้กลุ่มเพื่อนๆ ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ผู้คนได้ทักทาย ถามไถ่ ให้กำลังใจสมยศ หากสมยศสามารถตอบกลับได้ก็จะตอบกลับ แต่อาจใช้เวลานานเพราะระบบในเรือนจำการตรวจจดหมายเข้าและออกใช้เวลาพอสมควร

“คุณสมยศ สบายดี ตอนนี้ก็ใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือ โดยเฉพาะนิติศาสตร์ ส่วนปัญหาเรื่องสุขภาพมีบ้างก็เล็กน้อย จะบ่อยหน่อยก็คือปวดหัวเข่า”

กลุ่มดังกล่าวได้นัดหมายผู้สนใจไปเจอกันที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 20 ก.ย.นี้ ด้วย

“เป้าหมายก็เพื่อที่จะให้คุณสมยศรู้ว่ายังมีเพื่อน ๆ คอยให้กำลังใจ คอยติดตาม คอยห่วงใย อยู่เสมอ แต่เพื่อน ๆ ที่มาก็ทำได้แค่เพียงไปมองดู ยืนโบกมือ ยืนส่งรอยยิ้มผ่านกระจกด้านนอกเท่านั้น” ผู้ใกล้ชิดสมยศกล่าว

ทั้งนี้ สมยศเป็นนักรณรงค์เรื่องสิทธิแรงงานมาตั้งแต่ทศวรรษ 2520 มีบทบาทสำคัญในการร่วมเรียกร้องเรื่องค่าแรงขั้นต่ำและการส่งเสริมการรวมตัวของกรรมกร รวมถึงระบบประกันสังคม

ในปี 2549 เขามีบทบาทต่อต้านการรัฐประหารของ คมช. เคยเป็นแกนนำ นปช. รุ่น 2 หลังแกนนำ นปช. รุ่นแรกถูกจำคุกจากเหตุชุมนุมในเดือนเมษายนปี 2552 และหลังจากนั้นไม่นานเขาก่อตั้งกลุ่ม “24 มิถุนาประชาธิปไตย” ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องประชาธิปไตย พร้อมกันนั้นเขายังเป็นพิธีกรรายการ “เสียงกรรมกร” ผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม DTV ด้วย

สมยศถูกจับกุมเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2554 หรือ 5 วันหลังจากที่มีการรณรงค์ล่ารายชื่อ 10,000 รายชื่อเพื่อให้รัฐสภายกเลิกมาตรา 112 โดยในระหว่างสู้คดี เขาถูกคุมขังโดยไม่ได้รับการประกันตัว ระหว่างไต่สวนคดี สมยศยังถูกนำตัวไปขึ้นศาลยังจังหวัดต่างๆ ถึง 4 แห่งตามที่อยู่ของพยานโจทก์ ได้แก่ นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ สระแก้ว สงขลา ซึ่งทำให้ครอบครัวเพื่อนของเขาต้องเดินทางไปเยี่ยมด้วยความลำบาก เพราะจะมีการย้ายตัวจำเลยไปก่อน 2-4 สัปดาห์ ก่อนขึ้นศาล

เขาถูกกล่าวหาว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการที่เขาเป็นบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin ซึ่งตีความว่าบทความ 2 ชิ้นของผู้ใช้นามปากกา “จิตร พลจันทร์” มีลักษณะเสียดสีและเข้าข่ายผิดกฎหมายมาตรา 112 โดยสมยศต่อสู้ในประเด็นหลักว่าเขาไม่ใช่ผู้เขียนบทความ เป็นเพียงบรรณาธิการ และเนื้อหานั้นมิได้หมายความถึงสถาบันกษัตริย์

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2556 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 10 ปี ต่อมาวันที่ 19 กันยายน 2557 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 มีคำพิพากษาศาลฎีกา ระบุว่าที่จำเลยฎีกาต่อสู้ว่า มิได้มีเจตนากระทำผิด และข้อความในบทความหมายถึงอำมาตย์นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งในขั้นฎีกาไม่อาจต่อสู้ในข้อเท็จจริงได้อีก อย่างไรก็ตาม ตามที่จำเลยได้ต่อสู้มารับฟังได้ว่า จำเลยเป็นเพียงบรรณาธิการ มิใช่ผู้เขียนและยังให้ข้อมูลว่าใครเป็นผู้เขียน จำเลยยืนยันว่ามีความจงรักภักดี อีกทั้งเมื่อพิจารณาประกอบกับอาชีพ อายุและประวัติของจำเลย ทั้งจำเลยก็ต้องโทษมาเป็นระยะเวลาพอควรแล้ว ศาลฎีกาจึงเห็นควรแก้โทษจำคุก เหลือกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง 6 ปี ทั้งนี้เมื่อรวมกับโทษจำคุกคดีหมิ่นประมาท พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อีก 1 ปี ทำให้สมยศต้องจำคุกรวมเป็นเวลากว่า 7 ปี

ปัจจุบันนี้ สมยศยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีกำหนดจะได้ออกจากเรือนจำราวเดือนเมษายน 2561 หรืออีกประมาณ 7 เดือน

ในช่วงที่ถูกจองจำ เขายังได้รับรางวัลนักสิทธิมนุษยชนที่น่ายกย่องประจำปี 2555 จากกองทุนรางวัลสมชาย นีละไพจิตร และในเดือนพฤศจิกายนปี 2559 เขายังได้รับรางวัลชุน แต อิล จากสมาหพันธ์แรงงานกลางเกาหลี KCTU โดย "ประกายดาว" ลูกสาวของสมยศเดินทางไปรับรางวัลแทนพ่อผู้ถูกคุมขัง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท