Skip to main content
sharethis

พล.อ.ประยุทธ์ พบปะกับภาคเอกชนไทย รับฟังผลการหารือกับสภาหอการค้าสหรัฐฯ สั่งตั้งศูนย์ข้อมูลหนุนลงทุน ปูนซิเมนต์ไทย เผยเตรียมลงนามซื้อถ่านหินจากภาคเอกชนสหรัฐฯ 155,000 ตัน เพื่อใช้ผลิตปูน

4 ต.ค. 2560 เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า วันนี้ (3 ต.ค.60) เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ โรงแรม Four Seasons กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พบปะกับภาคเอกชนไทย เพื่อรับฟังผลการหารือระหว่างภาคเอกชนไทยกับสภาหอการค้าสหรัฐฯ และแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็นเกี่ยวกับการค้า

กลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย และผู้บริหารปูนใหญ่ หรือ SCG ได้รายงานภาพรวมการหารือระหว่างภาคเอกชนไทยและสหรัฐฯว่า ไทยและสหรัฐฯ ควรใช้ประโยชน์จากสนธิสัญญาไมตรีและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ให้เกิดประโยชน์แก่การค้าและการลงทุนทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่ พร้อมทั้ง จะมีการร่าง MOU เพื่อให้การส่งเสริมการลงทุนมากขึ้น มีเป้าหมายเดียวกัน และที่สำคัญมีแนวทางที่สามารถปฏิบัติได้จริง โดยจะครอบคลุมด้านต่างๆอย่างคลอบคลุม ที่ไทยและสหรัฐฯมีศักยภาพ เช่น อาหาร พลังงาน ยานยนต์ เป็นต้น นอกจากนี้ หอการค้าสหรัฐฯแสดงความยินดีที่จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างภาคเอชนและรัฐบาลสหรัฐฯด้วย

ในโอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงภาพรวมการหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯว่า การหารือเป็นไปด้วยความราบรื่น ด้วยความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน และยินดีสนับสนุนการดำเนินงานของภาคเอกชนทั้งสองประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการค้า และการลงทุน และจัดตั้งศูนย์ข้อมูล เช่นเดียวกับ ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ข้อมูล แนวทาง และทิศทางการค้าการลงทุนเป็นเอกภาพ พร้อมทั้ง สร้างความเข้าใจและการรับรู้เกี่ยวกับนโยบาย กฎระเบียบที่เอื้อต่อการลงทุนที่รัฐบาลได้ดำเนินการ รวมทั้ง มาตรการสนับสนุนการลงทุนให้กว้างขวาง ทั่วถึง และถูกต้องด้วย

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวย้ำว่า ภาคเอกชน เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกและสนับสนุน ดังนั้น หากมีข้อเสนอ หรือข้อติดขัด ขอให้แจ้ง รัฐบาลจะได้ดำเนินการเพื่อให้กลไกเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น ที่สำคัญ รัฐบาลได้ดำเนินการตามหลัก “สิทธิมนุษยชนในการประกอบธุรกิจ” โดยยึดแนวทาง “ เคารพ คุ้มครอง และเยียวยา” เพื่อเป็นไปตามแนวทางของสหประชาชาติ
 
ภายหลังการหารือ กลินท์ ในฐานผู้บริหาร SCG ได้ชี้แจงกรณีการซื้อถ่านหินจากสหรัฐฯว่า SCG เตรียมลงนามซื้อถ่านหินจากภาคเอกชนสหรัฐฯ 2 ฉบับ รวม 155,000 ตัน เพื่อใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์ และทดแทนการซื้อถ่านหินจากอินโดนีเซีย ที่ปัจจุบันอินโดนีเซียมีความต้องการใช้ถ่านหินสูงขึ้น  SCG จึงต้องมองหาแหล่งถ่านหินใหม่ ซึ่งถ่านหินจากสหรัฐฯมีคุณภาพดีและคุ้มค่าต่อการลงทุน

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ของ SCC หรือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) จากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net