Skip to main content
sharethis

สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์ร้อง พล.อ.ประยุทธ์ และ SCG ทบทวนแนวคิดในการเตรียมลงนามจัดซื้อถ่านหินจากสหรัฐ 155,000 ตัน ระบุด้วยว่า อย่าถ่านหิน ซึ่งเป็นวัตถุดิบพลังงานที่ก่อให้เกิดมลพิษ สร้างปัญหาโลกร้อน 

ศรีสุวรรณ จรรยา (แฟ้มภาพ)

5 ต.ค. 2560 จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ โรงแรม Four Seasons กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พบปะกับภาคเอกชนไทย เพื่อรับฟังผลการหารือระหว่างภาคเอกชนไทยกับสภาหอการค้าสหรัฐฯ และแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็นเกี่ยวกับการค้า โดย กลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย และผู้บริหารปูนใหญ่ หรือ SCG ได้รายงานภาพรวมการหารือระหว่างภาคเอกชนไทยและสหรัฐฯ และชี้แจงกรณีการซื้อถ่านหินจากสหรัฐฯว่า SCG เตรียมลงนามซื้อถ่านหินจากภาคเอกชนสหรัฐฯ 2 ฉบับ รวม 155,000 ตัน เพื่อใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์ และทดแทนการซื้อถ่านหินจากอินโดนีเซีย ที่ปัจจุบันอินโดนีเซียมีความต้องการใช้ถ่านหินสูงขึ้น  SCG จึงต้องมองหาแหล่งถ่านหินใหม่ ซึ่งถ่านหินจากสหรัฐฯมีคุณภาพดีและคุ้มค่าต่อการลงทุน

ล่าสุดวันนี้ ศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์เรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ และ SCG ทบทวนแนวคิดในการเตรียมลงนามจัดซื้อถ่านหินจากสหรัฐปริมาณ 155,000 ตันดังกล่าว พร้อมระบุด้วยว่า อย่าได้ประพฤติตนในลักษณะหน้าไหว้หลังหลอก โดยหันไปใช้ถ่านหิน ซึ่งเป็นวัตถุดิบพลังงานที่ก่อให้เกิดมลพิษ สร้างปัญหาโลกร้อน และฆ่าผู้คนมาทั่วโลกแล้วนับไม่ถ้วน รวมทั้งประเทศไทยด้วย เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของฯพณฯนายกรัฐมนตรี และ SCG  สืบไป

รายละเอียดแถลงการณ์ :

แถลงการณ์ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน
เรื่อง ขอเรียกร้องให้นายกฯและ SCG ทบทวนการซื้อถ่านหินจากสหรัฐ

ตามที่ฯพณฯนายกรัฐมนตรีได้ร่วมพบปะกับภาคเอกชนไทยและสภาหอการค้าสหรัฐ พร้อมออกมาแถลงว่า บริษัท SCG เตรียมลงนามจัดซื้อถ่านหินจากสหรัฐ 2 ฉบับปริมาณ 155,000 ตัน เพื่อนำมาใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์โดยอ้างว่าถ่านหินสหรัฐมีคุณภาพดีและคุ้มค่าต่อการลงทุนนั้น

การกระทำดังกล่าว ทำให้สังคมไทยผิดหวังต่อการดำเนินธุรกิจของ SCG เป็นอย่างมาก ซึ่ง SCG ได้เปิดเผยตัวตนของหน่วยงานต่อสาธารณะโดยชัดแจ้งว่าเป็นบริษัทที่นิยมถ่านหิน ซึ่งเป็นวัตถุดิบพลังงานที่ก่อให้เกิดปัญหาสภาวะโลกร้อนเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และเป็นที่น่าสงสัยว่า การดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมของ SCG ในอดีตที่ผ่านมาโดยอ้างว่าเป็นองค์กรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีธรรมาภิบาลสูง ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ข้อพิสูจน์ที่เปิดเผยออกมาในการเตรียมลงนามจัดซื้อถ่านหินจากสหรัฐนี้ จึงเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนยิ่งว่าแท้ที่จริงแล้ว SCG เป็นบรรษัทธรรมาภิบาลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอดจริงหรือไม่ ?

นอกจากนั้น การสนับสนุนการดำเนินการครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินนโยบายที่ขัดหรือแย้งต่อปฏิญญาปารีสว่าด้วยการป้องกันปัญหาโลกร้อน ซึ่งทั่วโลก 196 ประเทศให้ความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2558
และประเทศไทยก็ได้ให้สัตยาบันร่วมลงนามแล้วเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2559 แล้วด้วย โดยเป็นการแสดงเจตจำนงทางการเมืองในทางนโยบายของไทยในการร่วมมือกับประชาคมโลกในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน โดยมีเป้าหมายคือจำกัดการใช้ถ่านหิน เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้

สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงขอเรียกร้องไปยังฯพณฯนายกรัฐมนตรี และ SCG ได้โปรดทบทวนแนวคิดในการเตรียมลงนามจัดซื้อถ่านหินจากสหรัฐปริมาณ 155,000 ตัน ดังกล่าวเสีย อย่าได้ประพฤติตนในลักษณะหน้าไหว้หลังหลอก โดยหันไปใช้ถ่านหิน ซึ่งเป็นวัตถุดิบพลังงานที่ก่อให้เกิดมลพิษ สร้างปัญหาโลกร้อน และฆ่าผู้คนมาทั่วโลกแล้วนับไม่ถ้วน รวมทั้งประเทศไทยด้วย เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของฯพณฯนายกรัฐมนตรี และ SCG  สืบไป

ประกาศมา ณ วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2560
นายศรีสุวรรณ  จรรยา
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net