Skip to main content
sharethis

เข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุดคนใหม่ พร้อมรื้อคดี 'ทักษิณ' ปล่อยกู้แบงค์กรุงไทย-ภาษีสรรพสามิตในศาลฎีกานักการเมือง  ระบุอัยการสูงสุด ชี้ขาดสมควรสั่งฟ้อง 'ทักษิณ' คดี ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ ประสาน  ปอท. ออกหมายจับติดตามตัว

แฟ้มภาพ

6 ต.ค.2560 รายงานข่าวระบุว่า เข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุดคนที่ 14 ซึ่งรับตำแหน่งวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับการบริหารองค์กรเพื่ออำนวยความยุติธรรมและประโยชน์ของรัฐว่า มีนโยบายพัฒนาบุคลากรในองค์กรสำนักงานอัยการสูงสุดเน้นหลักเป็นทั้งคนเก่งและคนดี สั่งคดีอย่างเป็นธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต มีจริยธรรม คุณธรรม ตามพยานหลักฐานที่สมบูรณ์ที่สุด ถ้าพยานหลักฐานเพียงพอฟ้องเราจะฟ้องคนทำผิด ไม่ฟ้องคนที่บริสุทธิ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

เมื่อถามถึงคดีที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ( ปอท.) เคยรวบรวมหลักฐานเมื่อปี 2558 กล่าวหา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายนอกราชอาณาจักรที่ให้อำนาจอัยการสูงสุดชี้ขาดนั้น เข็มชัย กล่าวว่า ขณะนี้มีความเห็นแล้วโดยอัยการสูงสุดคนก่อน คือ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร ได้ทำความเห็นสมควรสั่งฟ้องแล้วภายหลังจากที่อัยการสูงสุด ยุคตระกูล วินิจนัยภาค ได้ตั้งอัยการสำนักสอบสวน ร่วมทำการสอบสวนกับ ปอท. ซึ่งจากนี้เมื่อมีคำสั่งสมควรสั่งฟ้องแล้วก็เหลือเพียงกระบวนการติดตามตัวโดยประสาน ปอท. ให้ดำเนินการออกหมายจับหากทราบแหล่งที่อยู่ชัดเจนก็จะต้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนทันทีเพื่อดำเนินกระบวนการฟ้องคดี ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอาญาไม่ใช่คดีทุตริต ที่อยู่ในอำนาจศาลฎีกาฯดังนั้นการฟ้องจะต้องมีตัวจำเลยยื่นต่อศาล

ต่อกรณีคำถามว่ากังวลหรือไม่เรื่องการดำเนินคดีว่าพุ่งเป้าที่ทักษิณ นั้น เข็มชัย กล่าวว่า ก็มีความกังวลเกี่ยวกับกระแสสังคมที่มีหลายฝ่ายมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันแต่มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ เนื่องจากมีการออกกฎหมายมาแล้ว หากไม่ดำเนินการก็จะถูกวิจารณ์จากอีกฝ่ายว่าไม่บังคับใช้กฎหมาย แต่เมื่อเรื่องถึงขั้นตอนศาลแล้วศาลจะจะเห็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

สำหรับคำถามถึงการขอสถานะลี้ภัยของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ศาลฎีกาฯตัดสินให้จำคุก 5 ปีไม่รอลงอาญาคดีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องคดีจำนำข้าวนั้น เข็มชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะขอสถานะลี้ภัยที่ประเทศใด ซึ่งการขอลี้ภัยเป็นเรื่องที่ประเทศนั้นๆจะต้องเป็นผู้พิจารณาไปตามกฎหมายประเทศ ซึ่งอัยการไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับส่วนนี้ โดยการลี้ภัยจะต้องถามจากกระทรวงการต่างประเทศ แต่ในส่วนกระบวนการของไทยที่จะทำได้คือต้องติดตามตัวจำเลยถึงแม้นางสาวยิ่งลักษณ์ จะได้รับสถานะลี้ภัยในประเทศใดอัยการก็จะต้องยื่นขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากเป็นคนละประเด็นกัน

โดยการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต้องทราบแหล่งที่อยู่ที่ชัดเจนก่อน ถึงจะพิจารณาในส่วนกฎหมายของแต่ละประเทศได้ แต่สุดท้ายการพิจารณาก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของฝ่ายบริหารในประเทศนั้นด้วยว่าจะให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ แม้ตามหลักสากลจะไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามความผิดทางการเมือง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับการตีความว่าความผิดทางการเมืองครอบคลุมแค่ไหน แต่หากประเทศใดมีการขอรายละเอียดคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ เราก็จะต้องยืนยันว่าคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นคดีทุจริต ไม่ใช่คดีความผิดทางการเมือง

ส่วนกรณีที่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฉบับใหม่ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมาจะส่งผลถึงคดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยกับกลุ่มกฤษดามหานคร และคดีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือและดาวเทียมเป็นภาษีสรรพสามิต ที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีในส่วนของ ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่เดินทางมาศาล และถูกออกหมายจับหรือไม่นั้น

เข็มชัย กล่าวว่าคดีดังกล่าวเป็นการยื่นฟ้องคดีในกฎหมายเก่าปี พ.ศ.2542 (พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542)ที่เดิมไม่สามารถที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีลับหลังโดยที่ไม่มีตัวจำเลยได้แต่กฎหมายใหม่ที่เพิ่งออกมา พ.ศ.2560 มาตรา 28 ให้ศาลสามารถดำเนินกระบวนพิจารณาคดีโดยไม่มีตัวจำเลย หรือ พิจารณาคดีลับหลัง ดังนั้นจึงเป็นการคาบเกี่ยวกับการออกกฎหมายใหม่ แต่ในบทเฉพาะกาล มาตรา 69 ของกฎหมายใหม่ได้ระบุไว้ว่าการดำเนินการใดที่เกิดขึ้นมาโดยสมบูรณ์ตามกฎหมายเก่าแล้วนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ให้พิจารณาต่อไปตามกฎหมายใหม่ที่บังคับใช้ ดังนั้นความเห็นส่วนตัวจึงเห็นว่าคดีดังกล่าวสามารถรื้อฟื้นกลับมาพิจารณาใหม่ได้ ซึ่งอัยการจะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อดำเนินการต่อไป โดยตนจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้ ที่จะให้อธิบดีสำนักงานคดีพิเศษซึ่งเดิมเคยเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบคดีเป็นผู้เสนอรายชื่อคณะทำงานที่เหมาะสมขึ้นมา ซึ่งการดำเนินการยื่นคำร้องนั้นไม่มีการกำหนดระยะเวลา แต่จะกำชับให้คณะทำงานดำเนินการโดยรวดเร็วไม่ชักช้า ทั้งนี้เมื่อยื่นคำร้องแล้วหากศาลฎีกาฯนักการเมืองเห็นตรงกันในการบังคับใช้กฎหมายส่วนนี้ก็สามารถคดีก็สามารถดำเนินการต่อได้

ต่อกรณีคำถามที่ถามว่าส่วนคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ยื่นฟ้อง ทักษิณ เองต่อศาลฎีกาฯ เช่น คดีปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออก หรือเอ็กซ์ซิมแบงค์ ให้กับรัฐบาลเมียนมาร์เพื่อทำสัญญากิจการโทรคมนาคม และคดีทุจริตโครงการออกสลากหวยบนดินนั้นจะใช้หลักปฎิบัติเดียวกันที่ ป.ป.ช. จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลหรือไม่

เข็มชัย อัยการสูงสุด กล่าวว่า อย่างตนบอกว่าในส่วนคดีที่อัยการเป็นผู้ยื่นฟ้องและจะมีการตั้งคณะทำงานฯ ดูแลการรื้อคดีมาดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่นั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของตนที่เห็นว่าสามารถยื่นคำร้องต่อศาลได้ แต่ในส่วน ป.ป.ช. จะต้องเป็นพิจารณาเอง

ที่มา : สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น, เดลินิวส์ และกรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net