สภาวิศวกรเผยวิศวกรจีนรุ่นแรกสร้างรถไฟความเร็วสูงผ่านเกณฑ์กฏหมายไทย

ทดสอบวิศวกรจีนรุ่นแรกสร้างรถไฟความเร็วสูงผ่านเกณฑ์กฏหมายไทย เดินหน้าเสริมความรู้สภาพพื้นที่ภูมิประเทศของไทยต่อครบ 4 รุ่น พร้อมเปิด 2 ประเด็น บทเรียนเหตุคอสะพานแม่น้ำเจ้าพระยาที่ชัยนาทพังถล่ม

(แฟ้มภาพ) สภาวิศวกรจัดอบรมและทดสอบวิศวกรจีนในโครงการรถไฟไทยจีน รุ่นที่ 1 จำนวน 77 คน ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน  ระหว่างวันที่ 22-25 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 30/2560 เรื่องมาตรการเร่งรัดและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วง กรุงเทพ-นครราชสีมา

9 ต.ค. 2560 รายงานข่าวจากสภาวิศวกร แจ้งว่า อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร แถลงผลการดำเนินงานอบรมและทดสอบวิศวกรจีนที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ว่า การอบรมและทดสอบวิศวกรจีนในโครงการดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 30/2560 โดยมีวิศวกรจีนที่จะเข้ารับการอบรมและทดสอบโดยสภาวิศวกรไทย จำนวน 400 คนโดยประมาณ ประกอบด้วยวิศวกรระดับ Professor professional, Senior professional และระดับ Professional ครอบคลุมสาขาวิศวกรรมโยธา ไฟฟ้า เครื่องกล และ อื่นๆ

อมร กล่าวต่อว่าการจัดอบรมและทดสอบวิศวกรจีนแบ่งออกเป็น 4 รุ่นดังนี้ รุ่นที่ 1 วันที่ 22-25 ก.ย.ที่ผ่านมา รุ่นที่ 2 วันที่ 12-15 ต.ค. รุ่นที่ 3 วันที่ 27-30 ต.ค. และรุ่นที่ 4 วันที่  10-13 พ.ย. โดยทั้ง 4 รุ่นจัดที่นครเทียนจิน ประเทศจีน

สำหรับหลักสูตรฝึกอบรมและทดสอบวิศวกรจีน นั้น เลขาธิการสภาวิศวกร กล่าวว่า มิได้เป็นการอบรมเรื่องรถไฟความเร็วสูงแต่เป็นการอบรมความรู้ในเรื่องที่วิศวกรจีนจำเป็นต้องรู้ก่อนเข้ามาปฏิบัติงานในประเทศไทย ทั้งในเรื่องข้อกฎหมาย และ สภาพท้องที่ (local conditions) ของประเทศไทย เช่น สภาพทางธรณีวิทยา ชั้นดิน ลุ่มน้ำและน้ำท่วม ตลอดจนภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และ ลมพายุ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นต่อการออกแบบและก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง

ส่วนการอบรมและทดสอบวิศวกรจีนรุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 22-25 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น มีวิศวกรจีนเข้ารับการอบรมและทดสอบจำนวน 77 คน ในส่วนของการทดสอบนั้นประกอบด้วยข้อสอบ 2 ชุด โดยชุดที่ 1 เกี่ยวข้องกับกฎหมายและจรรยาบรรณ มี 50 ข้อ เกณฑ์ผ่านพิจารณาที่ 60% หรือ 30 ข้อ ส่วนข้อสอบชุดที่ 2 เกี่ยวข้องกับด้านเทคนิคและสภาพท้องที่ของประเทศไทย มี 100 ข้อเกณฑ์ผ่าน 60% หรือ 60 ข้อ

สำหรับผลการทดสอบวิศวกรจีน 77 คนในรุ่นที่ 1 นั้น เลขาธิการสภาวิศวกร พิมานมาศเปิดเผยว่า วิศวกรจีนทั้ง 77 คนผ่านการทดสอบข้อสอบชุดที่ 1 และ ชุดที่ 2 ทั้ง 77 คน โดยข้อสอบชุดที่ 1 คะแนนต่ำสุด 39 คะแนนสูงสุด 48 และคะแนนเฉลี่ย 44 คะแนนซึ่งผ่านเกณฑ์ 30 คะแนนทุกคน และสำหรับข้อสอบชุดที่ 2 คะแนนต่ำสุด 76 คะแนนสูงสุด 89 และคะแนนเฉลี่ย 82 คะแนน ซึ่งผ่านเกณฑ์ 60 คะแนนทุกคน จากนี้ไป สภาวิศวกรจะออกใบรับรองผ่านการอบรมและทดสอบความรู้ให้แก่วิศวกรจีนในรุ่นที่ 1 นี้ เพื่อให้สามารถเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

2 ประเด็น บทเรียนเหตุคอสะพานแม่น้ำเจ้าพระยาที่ชัยนาทพังถล่ม

จากเหตุการณ์คอสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ จ.ขัยนาท ได้พังถล่มลงมาทับคนงานที่กำลังก่อสร้างจนได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายรายเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น เลขาธิการสภาวิศวกร เปิดเผยว่า โครงสร้างสะพานดังกล่าวเป็นโครงสร้างสะพานคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง (prestressed concrete box viaduct) ก่อสร้างด้วยระบบคานยื่นสมดุล (balanced cantilever) ช่วงกลางแม่น้ำมีความยาว 120 ม. สำหรับบริเวณที่พังถล่มไปนั้นเป็นส่วนที่เรียกว่า คอสะพาน (approach slab) มีความยาวประมาณ 14 ม. ก่อสร้างระบบหล่อในที่มีนั่งร้านเหล็กรองรับ ซึ่งพบว่านั่งร้านเหล็กที่รองรับคอสะพานดังกล่าววิบัติ จึงทำให้คอสะพานถล่มลงมาบนพื้นดิน

 ต่อมา เมื่อวันที่ 3 ต.ค. สภาวิศวกรได้ส่งคณะผู้ชำนาญการพิเศษ เข้าตรวจสอบสาเหตุการวิบัติของนั่งร้านเหล็กที่รองรับน้ำหนักของคอสะพานดังกล่าว ร่วมกับวิศวกรจากกรมทางหลวงชนบท และจากบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งจากการสำรวจ สภาวิศวกรได้ตั้งข้อสันนิษฐานสาเหตุของการพังถล่ม ไว้ 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. การก่อสร้างนั่งร้านเหล็กรองรับคอสะพานอาจไม่ได้มาตรฐานทางวิศวกรรมเนื่องจากตรวจพบข้อบกพร่องหลายจุด เช่น การเชื่อมต่อขานั่งร้าน และ การยึดโยงค้ำยันนั่งร้านไม่ได้มาตรฐาน และ 2. ขั้นตอนและวิธีการก่อสร้างสะพานเป็นไปตามแบบหรือไม่ เนื่องจากพบตำแหน่งรอยต่อขยายตัวไม่เป็นไปตามแบบ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการพังถล่มได้ อย่างไรก็ตามต้องมีการตรวจสอบว่าได้มีการขออนุญาตปรับเปลี่ยนแบบที่ใช้ก่อสร้างหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เลขาธิการสภาวิศวกร เปิดเผยว่า ในส่วนของสภาวิศวกร นั้นมีอำนาจหน้าที่ที่จะต้องเรียกตัววิศวกรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ข้อมูล เนื่องจากโครงสร้างสะพานดังกล่าวมีช่วงยาวถึง 120 ม. ซึ่งจัดเป็นวิศวกรรมควบคุมตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ.2542 ดังนั้นสภาวิศวกรจะมีการดำเนินการทางจรรยาบรรณกับวิศวกรที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุการวิบัติที่แท้จริง และหากพบว่า มีวิศวกรที่เกี่ยวข้องไม่ปฏิบัติตามหลักวิชาการ อาจจะมีโทษสูงสุดคือเพิกถอนใบอนุญาต

สำหรับมาตรการที่สภาวิศวกรจะดำเนินการต่อไปนั้น เลขาธิการสภาวิศวกร  เปิดเผยว่า การพังถล่มของนั่งร้านเกิดขึ้นหลายครั้งในอดีต สภาวิศวกรจะเชิญวิศวกรโยธามาเข้ารับการฝึกอบรมในวันที่ 21 ต.ค.นี้ ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค โดยใช้บทเรียนจากการพังถล่มของคอสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ. ชัยนาท ให้วิศวกรได้เรียนรู้ และระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต อีกทั้งสภาวิศวกรกำลังจะเร่งจัดทำมาตรฐานและคู่มือสำหรับออกแบบและก่อสร้างนั่งร้านและโครงสร้างชั่วคราว เพื่อให้วิศวกรมีแนวทาง คาดว่าจะใช้เวลาจัดทำประมาณ 6 เดือน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท