Skip to main content
sharethis

อัครพงษ์ ค่ำคูณ อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณี เพจ Army Worldwide News ตัดต่อภาพบิดเบือนคำพูด ชาญวิทย์ เกษตรศิริ กรณีบริจาคเงินให้ ‘พี่ตูน’ เผยการกระทำดังกล่าวไร้อารยะ ทำลายความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น และตัวเอง

9 พ.ย. 2560 เวลา 09.00 น. อัครพงษ์ ค่ำคูณ อาจารย์ประจำวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เดินทางเข้าปรึกษาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม เพื่อหาทางดำเนินคดีกับ แอดมินเพจ “Army Worldwide News” กรณีเผยแพร่ข้อความบิดเบือนในวันที่ 8 พ.ย. 2560 โดยการตัดต่อภาพของ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกอบกับคำพูดซึ่ง ชาญวิทย์ ไม่ได้เป็นผู้พูด ซึ่งโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ไป และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นตำหนิ ชาญวิทย์ จำนวนมาก

โดยข้อความดังกล่าวระบุว่า “ตามติดชีวิตคนแก่” , “ใครจะจ่ายให้พี่ตูนตามสบายนะครับ ผมไม่ขัดศรัทธา แต่ในสภาพนี้ อย่าว่าแต่สิบบาทเลย พี่ตูนจะไม่ได้เงินจากผมแม้แต่บาทเดียว” ทั้งนี้แอดมินยังได้เขียนแสดงความคิดเห็นว่า “เก็บเงินสอบบาทนั้นไว้ใส่ปากตอนตายเถอะครับ”

อัครพงษ์ ให้สัมภาษณ์กับประชาไทว่า วันนี้ได้เดินทางไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงว่าไม่สามารถแจ้งความเนื่องจากไม่ใช้ผู้เสียโดยตรง ควรจะรอให้ ชาญวิทย์ กลับจากต่างประเทศมาแจ้งความด้วยตัวเองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 ตามความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยกับโฆษณา ซึ่งสามารถดำเนินการได้เลยเนื่องจากเป็นความผิดซึ่งหน้า หาก ชาญวิทย์ มีความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดี หรือในกรณีที่ 2 คือเดินทางไปแจ้งความกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ในส่วนที่เป็นการกระทำความผิดในระบบคอมพิวเตอร์

“ข้อเรียกร้องของผมตอนนี้ก็คือ อยากให้ลบ และออกมาขอโทษ เพราะผมรู้สึกว่ามันไม่เป็นอารยะ ในส่วนของข้อความผมคิดว่าทุกคนพูดได้หมด หากอาจารย์ชาญวิทย์พูดจริง ก็สามารถพูดได้เพราะมันเป็นการแสดงความคิดเห็น แต่ปัญหาก็คืออันนี้มันเป็นการตัดต่ออันเป็นเท็จซึ่งอาจารย์ชาญวิทย์ไม่เคยพูด ซึ่งมันไม่ต้องพิจสูน์อะไรแล้ว หรือถ้าจะพิสูจน์ทางนั้นก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าอาจารย์ชาญวิทย์ไปพูดแบบนั้นเมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร แต่ตามข้อมูลข้อเท็จจริงคือ อาจารย์ไม่เคยพูด” อัครพงษ์ กล่าว

อัครพงษ์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือ การต่อสู้ทางการเมือง ไม่ว่าฝ่ายไหนจะต่อสู้ทางการเมืองอย่างไรก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ล้ำเส้นไปคือ การทำลายความเป็นมนุษย์ เพราะไม่ใช่เพียงการทำลายฝ่ายตรงข้ามอย่างเดียว แต่เป็นการทำลายความเป็นมนุษย์ของตัวเองด้วย ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้ศักดิ์ศรี

“ไม่ว่าคุณจะคิดต่างกันอย่างไร เห็นไม่ตรงกันอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดต้องไม่ใส่ร้ายป้ายสีกัน” อัครพงษ์ กล่าว

อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวต่อไปด้วยว่า ปรากฎการณ์การบิดเบือนข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อใส่ร้ายป้ายสีกัน ไม่ได้มีกรณีที่เกิดขึ้นกับ ชาญวิทย์ เป็นกรณีแรก แต่ว่ามีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเขาเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนที่ต้องการจะต่อสู้ทางการเมืองย่อมมีสิทธิเสรีภาพในการโฆษณาความคิดได้ ไม่ว่าจะเป็นอนุรักษนิยม หรือเสรีนิยมก็ตาม แต่สิ่งที่ต้องตระหนักคือ อย่าต่อสู้กันด้วยความเท็จ

“คนเราจะคิดต่างกันต้องสู้กันด้วยความคิด ไม่ใช่สู้ด้วยข้อความเท็จและสร้างความเกลียดชัง ถ้าสร้างความเกลียดชังด้วยพื้นฐานข้อความที่เขาพูดอย่างนั้นจริงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าการสร้างความเกลียดชังโดยที่เขาไม่ได้พูด และไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง มันทำลายศักดิ์ศรีของตัวเอง มันน่าละอาย และคุณค่าในความคิดที่คุณต่อสู้กันก็จะหมดไป เพราะคนยังโกหกตัวเอง และโกหกคนอื่น” อัครพงษ์ กล่าว

ด้านชาญวิทย์ ได้โพสต์สเตตัสส่วนตัว ระบุว่าตนเองไม่ได้เป็นคนพูดคำพูดดังกล่าว พ้อมระบุด้วยว่าหากตนเป็นผู้พูดจริงจะต้องใช้คำว่า น้องตูน หรือ หนูตูน จึงจะถูกต้องเนื่องจากตนเป็นรุ่นพี่โรงเรียนสวนกุหลาบ ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกันกับ ตูน และมีอายุห่างกันหลายรุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 17.09 น. ทีผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Army Worldwide News' ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น 'Thai News Onlin' โพสต์แถลงการณ์ขอโทษ ชาญวิทย์ และผู้ที่รับข่าวสารจากเพจ มา ณ ที่นี้ด้วย ที่ทำให้ท่านเสื่อมเสียชื่อเสียง 

 

หมายเหตุ : ประชาไทมีการอัพเดทข่าวเพิ่มเติมเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 9 พ.ย.2560

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net