Skip to main content
sharethis

ประชาธิปัตย์ชี้คำสั่ง คสช.ทำพรรคใหญ่เสียประโยชน์ เริ่มกิจกรรมการเมืองได้ช้าเดือน เสียเปรียบพรรคใหม่ 3 เดือน ชาติไทยพัฒนาเผย ต้องการเห็นการปลดล็อคที่แท้จริง ด้าน กกต.สมชัย ชี้ทางรอด ให้พรรคหาสมาชิกเพียง 1 หมื่นคนก่อน

25 ธ.ค. 2560 สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ขยายเวลาให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมตามกรอบเวลาในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น ไม่ถือว่าเป็นการปลดล็อกทางการเมืองอย่างที่เข้าใจ เพราะการปลดล็อกหมายถึงการให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้ในทันที แต่คำสั่งนี้เป็นเพียงการขยายเวลาเท่านั้น

ทั้งนี้กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองได้ประกาศใช้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2560 ซึ่งได้กำหนดห้วงเวลาไว้ ดังนั้นแต่ละพรรคการเมืองจึงต้องดำเนินตามเจตนารณ์ของรัฐบาลให้เป็นไปตามโรดแมปของ คสช. แต่ปรากฎว่าไม่สามารถที่จะทำได้ จนท้ายที่สุดเวลาทอดมาจนครบกำหนด ซึ่งถ้าพรรคการเมืองไม่ทำตามนั้นก็จะถูกตัดสิทธิในการส่งสมาชิกลงเลือกตั้ง

“ผมต้องการเห็นการปลดล็อคอย่างแท้จริง อยากให้ประเทศไทยเข้าสู่บรรยากาศของความเป็นประชาธิปไตยและเสมอเหมือน ไม่ใช่มาค่อยๆ คลายล็อคให้พรรคการเมือง ทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ ในเวลานั้นเวลานี้ เพราะเหมือนเป็นการลักลั่น แล้วเอาเหตุผลมาบอกว่าทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ” สมศักดิ์ กล่าว

ด้าน วิรัตน์ กัลบยา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าววา การออกคำสั่งแก้ไขกฎหมายนี้ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับผลกระทบ เพราะต้องให้สมาชิกพรรคมาสมัครใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นการเซตซีโร่พรรค ทั้งนี้การออกคำสั่งดังกล่าวนี้ ผูที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจะเป็นพรรคที่เพิ่งจดทะเบียนใหม่ ซึ่งในวันที่ 1 มี.ค. 2561 ก็สามารถขออนุญาติ คสช. จัดประชุมอะไรได้ทันที ในเมื่อมาขอ คสช. ก็ต้องอนุญาตอยู่แล้ว เพราะรู้กันอยู่ว่าพรรคพวกนี้ตั้งขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์อะไร ส่วนพรรคใหญ่คิดว่าจะดำเนินกิจกรรมได้ในเดือน มิ.ย. 2561 ซึ่งจะได้เปรียบเสียเปรียบประมาณ 3 เดือน

ด้าน อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต สส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คำสั่งนี้เป็นเหมือนการเซตซีโร่พรรคการเมือง และ คสช. กำลังสร้างความยุ่งยากให้ประชาชนในการมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการเมืองใหม่

ขณะที่อุดม รัฐอมฤต โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ระบุว่า การที่ คสช. ให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมได้หลังวันที่ 1 เม.ย. 2561 นั้น เข้าใจว่า คสช. ได้พิจารณาถึงเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ด้าน สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของ คสช. เรื่อวขยายเวลาพรรคการเมืองนั้น ซึ่งมีความกังวลว่าจะไม่สามารถจัดการงานด้านธุรการให้เกิดความเรียบร้อยได้ทันเวลา โดยสมชัยได้ชี้ว่า จากประวัติศาตร์การเมืองในอดีต ปัจจัยเรื่องจำนวนสมาชิกพรรคการเมืองไม่ได้เป็นการประกันชัยชนะในการเลือกตั้ง ฉะนั้นหากพิจารณาจากกฎหมายแล้ว จำนวนสมาชิกพรรคการเมืองที่เพียงพอสำหรับการมีคุณสมบัติส่งผู้สมัครลงรับการเลือกตั้งได้ จำนวนที่พอเหมาะพอดีน่าจะอยู่ที่ 10,000 คน เพราะบทเฉพาะกาลของ พ.รป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดให้ พรรคที่จะส่ง ส.ส. ในเขตใด ต้องที่ตัวแทนในระดับจังหวัด และมีการทำไพรมารีโหวตในจังหวัดนั้นๆ โดยต้องทีสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมอย่างน้อย 100 คน ดังนั้นจำนวนที่ปลอดภัยและป้องกันการถูกร้องเรียนภายหลังในเรื่องคุณสมบัติผู้ร่วมประชุมคือ 130 คน ทั้งหมด 77 จังหวัด รมแล้วเป็น 10,010 คนประมาณ 10,000 คนเท่านั้น

 

เรียบเรียงจาก : โพสต์ทูเดย์ออนไลน์, มติชนออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net