Skip to main content
sharethis

หัวหน้า คสช. ย้ำให้ความสำคัญกับพรรคการเมืองทุกพรรค จดพรรคคอมมิวนิสต์ ได้หรือไม่ ให้ไปดูกฎหมาย ส่วนการตอบรับเชิญเข้าร่วมหารือ เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะเข้าร่วมหรือไม่ ยันรัฐบาลเข้มงวดตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันมาตลอด

20 มี.ค.2561 รายงานข่าวระบุว่า วันนี้ (20 มีนาคม 2561) เวลา 14.30 น. ณ บริเวรห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีเชิญนักการเมืองหารือว่า เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะตอบรับการเชิญเข้าร่วมหารือหรือไม่ แต่ถ้าไม่มาประชาชนจะว่าอย่างไร เพราะต้องการให้ประชาชนรับรู้ และรับทราบโดยเฉพาะแนวทางการพัฒนาประเทศในอนาคต ซึ่งไม่ต้องการรู้นโยบายของพรรคการเมือง แต่อยากถามว่ามีวิธีการดำเนินการต่อไปอย่างไรเพื่อประชาชนและเพื่อประเทศ ซึ่งถ้ามาไม่ครบ หรือไม่มีการพูดคุยก็ไม่สามารถกำหนดการเลือกตั้งได้ และจำเป็นต้องหาข้อยุติร่วมกันให้ได้มากที่สุด

สำหรับ พระราชบัญญัติประกอบ (พ.ร.ป.) รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.… และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.… นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า เป็นขั้นตอนตามกฎหมายสามารถทำได้ เพราะมีศาลรัฐธรรมนูญอยู่ ตราบใดก็ตามที่ยังมีข้อห่วงใย ข้อกังวล ก็ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงให้ชัดเจน แต่ขอให้ระมัดระวัง พร้อมกล่าวยืนยันไม่มีผลกระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้ง

ส่วนเรื่องการตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หัวหน้า คสช. กล่าวว่า ให้ไปดูกฎหมายว่าสามารถทำได้หรือไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมายในการพิจารณา ยืนยันให้ความสำคัญกับทุกพรรค และเป็นหน้าที่ของประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ

กรณีการทุจริตคอร์รัปชันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ดำเนินการมาโดยตลอด ขออย่ามองแต่เพียงว่าแย่ลงหรือดีขึ้น เพราะเรายังไม่รู้ทั้งหมด ซึ่งกลไลการทุจริตมีจำนวนมากมายในช่วงที่ผ่านมา แต่อยากให้เปรียบทียบดูว่าการดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตรัฐบาล ได้ดำเนินการตรวจสอบเป็นคดีความแล้วจำนวนมากน้อยเพียงใด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ถึงแม้การทุจริตคอร์รัปชันยังจะมีอยู่ก็ตาม รัฐบาลต้องทำต่อไป ซึ่งคดีเกี่ยวกับการทุจริตส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบแต่ไม่เป็นที่สนใจ บางคดีมีการตรวจสอบจนถึงที่สุดแล้ว และมีผู้กระทำความผิดหลบหนีจำนวนหลายราย สำหรับการทุจริตของกระทรวงซึ่งเป็นที่สนใจขณะนี้ ได้สั่งการไปแล้วให้สอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร็ว รวมไปถึงเรื่องกองทุนต่าง ๆ จะต้องตรวจสอบไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง สามารถติดตามและเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง พร้อมกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลทำงานอย่างเข้มงวดมาตลอด ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องการทุจริตเป็นกลไกภายในที่ทุกคนต้องหารือร่วมกัน ซึ่งบางครั้งเราตัดสินใจอะไรลงไปภายใต้ความขัดแย้งก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ถือเป็นความยากของการทำงาน

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net