Skip to main content
sharethis

เนติวิทย์ โวย เจ้าหน้าที่จุฬา-ตำรวจ ประกบ 4 มุม ขณะ พล.อ.ประยุทธ์ ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยกับการขับเคลื่อนประเทศไทยในระยะเปลี่ยนผ่าน” 

9 เม.ย.2561 รายงานข่าวระบุว่า วันนี้ เมื่อเวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางมาเพื่อกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยกับการขับเคลื่อนประเทศไทยในระยะเปลี่ยนผ่าน” ณ หอประชุมจุฬาฯ ซึ่งเป็นกิจกรรมทีก่อนหน้านั้น เฟสบุ๊คแฟนเพจ 'RCUchula : สำนักงานหอพักนิสิตจุฬาฯ' ของ สำนักงานหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความ เชิญชวนนิสิตหอพัก ร่วมรับ และระบุด้วยว่าผู้เข้าร่วมจะได้เป็นคะแนนกิจกรรมหอพัก

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.54 น. ที่ผ่านมา เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อดีตประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คว่า "ยังไม่ทันเข้าหอประชุม​ฟังนายกประยุทธ์​ เจ้าหน้าที่จุฬา-ตำรวจ ก็เข้ามาหาเต็ม พอไปนั่งยังมีเจ้าหน้าที่สี่มุมประกบห่างๆ จะคุ้มครองผมอะไรกันขนาดนี้ นี่มางานวิชาการในมหาวิทยาลัยที่บอกว่าส่งเสริมเสรีภาพทางความคิดและวิชาการนะ"

ซึ่ง มติชนออนไลน์ รายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้แยกตัว เนติวิทย์ ขี้นไปนั่งบนชั้นลอยของหอประชุม มีเจ้าหน้าที่สันติบาลคอยประกบอยู่และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์แต่อย่างใด ทั้งนี้บริเวณชั้นบนจะเป็นที่นั่งของบุคลากร คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยเท่านั้น ส่วนของการรักษาความปลอดภัยนั้น บุคลากร คณาจารณ์ของมหาวิทยาลัยจะต้องติดบัตรสีส้มแยกจากกลุ่มนิสิต พร้อมติดบัตรแสดงตนอย่างชัดเจน รวมทั้งต้องผ่านเครื่องสแกนวัตถุระเบิดและวัตถุต้องสงสัยตรวจค้นอย่างละเอียดซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดของนายกรัฐมนตรีด้วย

ประยุทธ์ ย้ำวันนี้ต้องมองไปข้างหน้า ไม่ใช่มองแต่อดีต 

สำหรับการกล่าวปาฐกถาของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ระยะเปลี่ยนผ่านเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทราบได้ว่าจะเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีหรือไม่ดี แต่ต้องทำให้ดีที่สุด อะไรที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ก็ต้องช่วยทำให้คลี่คลายและทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม วันนี้ต้องมองไปข้างหน้า ไม่ใช่มองแต่อดีตอย่างเดียว อดีตคือสิ่งที่จะต้องเรียนรู้ หากสิ่งใดผิดพลาดก็อย่าทำอีก วันนี้คือประวัติศาสตร์ของวันหน้า อยากให้ทุกคนเตรียมการรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง โดยการเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่การพัฒา ที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามแผนปฎิรูปประเทศ แม้จะทำไม่ได้ในวันเดียว แต่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการผลิตนักศึกษา ที่ต้องผลิตในทุกปี ๆ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับยุทธศาตร์ชาติ แม้ว่าจะกำหนดไว้ 20 ปี แต่ในความเป็นจริงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากมีเหตุผลและความจำเป็น เพื่อให้ยุทธศาสตร์ชาติเปรียบเสมือนเรือธง ที่จะนำประเทศไปสู่เป้าหมายใหญ่ ในขณะที่นโยบายของฝ่ายการเมืองสามารถนำมาปรับใช้คู่ขนานกันได้  

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ความตั้งใจในวัยเด็กคือการเป็นทหาร ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ขอให้เยาวชนทุกคน ตั้งเป้าหมายในชีวิต เพราะบางครั้งอาจจะไม่ได้ทำงานตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องมีความมุ่งมั่น มีความพยายาม เพื่อให้ชีวิตเดินตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ 

ในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์  ได้อธิบายถึงหลักกฎหมายของประเทศว่า ไม่ใช่มีไว้เพื่อบังคับเพียงอย่างเดียว แต่มีไว้เพื่อสร้างความเท่าเทียมให้ทุกคนในสังคม และเพื่ออำนวยความสะดวก รวมถึงมุ่งมั่นแก้ปัญหาทุจริต ขอให้ทุกคนเข้าใจ และร่วมมือเคารพกฎหมาย 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผลการทำงานของรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญต่างๆ ทั้งการเดินหน้าไทยแลนด์ 4.0 โครงการไทยนิยมยั่งยืน การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมใหม่ แต่สิ่งสำคัญคือการสร้างคนของประเทศ ด้วยการพัฒนาระบบการศึกษาให้มีคุณภาพ รองรับการพัฒนาประเทศ  เช่นปรับเปลี่ยนการทำเกษตรแบบเก่าเป็นแบบใหม่  ปรับการใช้น้ำ เป็นต้น 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ให้ดึงศักยภาพ ความได้เปรียบของประเทศที่มี เช่น วัฒนธรรมที่งดงาม การรักษาบ้านเมืองให้สงบ ไม่มีความขัดแย้ง ก็จะทำให้ทุกประเทศเชื่อมั่นในประเทศ เรื่องการเลือกตั้ง ตนไม่อยากจะพูดถึงมาก แต่ขอให้รอดู อนาคตข้างหน้าอาจจะดีขึ้น ยืนยันว่าการวางยุทธศาสตร์ 20 ปี ไม่มีสืบทอดอำนาจ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ครูอาจารย์สั่งสอนศิษย์ ให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลง ตามความเป็นจริง ไม่เลียนแบบจากต่างประเทศทั้งหมด ในบางประเทศมีความสูญเสียจำนวนมากมาก่อน ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ได้โดยไม่มีความสูญเสียเหมือนที่ผ่านมา ที่มีการสูญเสียประชาชน  แต่คนนำยังรอดพ้น ขอให้จดจำคำพูดตนเองในวันนี้ไว้ด้วย 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณจุฬาฯที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ  ขอให้ทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกัน  เพื่อนำไปสู่ความรักความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งในใจเดียวกัน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ซึ่งจุฬาฯ ที่ครบ 100 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้มีผลงานสร้างความภาคภูมิให้กับสถาบัน”

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า  ในโอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ รับข้อเสนอของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะผลักดันให้จุฬาฯ สร้างคนให้ อีอีซี และสร้างเทคโนโลยีให้กับประเทศ ประกอบด้วย จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม จุฬาฯจะขยายความร่วมมือกับภาคเอกชน นักลงทุนอิสระ ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงและขยายผลนวัตกรรมแห่งสยาม และจะขอร่วมกับโรงพยาบาลสวนเบญจกิติฯ ผลักดันพันธิกิจใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net