สปสช. เผย รัฐบาลหนุน 'กองทุน LTC” ของขวัญวันผู้สูงอายุ รุกดูแลผู้สูงอายุภาวะพึ่งพิงทั่วประเทศ

สปสช. เผย 'กองทุนระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง' ของขวัญวันผู้สูงอายุแห่งชาติ รัฐบาลจัดงบหนุนต่อเนื่อง พร้อมเผยผลดำเนินงาน 2 ปี ดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงแล้วกว่า 1.7 แสนคนรวม 'อนาคตใหม่' ย้ำผู้สูงวัยร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และอยู่ในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรี

13 เม.ย.2561 รายงานข่าวแจ้งว่า นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า วันที่ 13 เมษายนของทุกปี รัฐบาลได้กำหนดให้เป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” เพื่อให้ลูกหลานตระหนักและเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุ และด้วยปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว ทั้งมีแนวโน้มจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น รัฐบาลจึงมีนโยบายเร่งรัดการจัดระบบเพื่อรองรับการดูแลผู้สูงอายุในประเทศ เพราะด้วยศักยภาพของครัวเรือนในการดูแลผู้สูงอายุในปัจจุบันที่ถดถอย เป็นผลมาจากสภาพสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งขนาดครัวเรือนที่เล็กลงและการเคลื่อนย้ายของวัยแรงงานจากชนบทสู่เมืองมากขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายสุขภาพในผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ติดบ้าน ติดเตียง) จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง

ทั้งนี้เพื่อให้ผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงไม่ถูกทอดทิ้งและได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพ รัฐบาลจึงได้จัดสรรงบประมาณผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อจัด “กองทุนระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง” (Long term care: LTC) ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา โดยเป็นการดำเนินงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้นโยบายประสบผลสำเร็จ 

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ในช่วง 3 ปี ของการดำเนินงานระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากจำนวน 600 ล้านบาท ในปี 2559 เป็นจำนวน 900 ล้านบาทในปี 2560 และเพิ่มเป็นจำนวน 1,159 ล้านบาท ในปี 2561 นี้ ส่งผลให้มีการขยายจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงได้รับการดูแลภายใต้ระบบเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากจำนวน 100,000 คน ในปี 2559 เป็นจำนวน 150,000 คน ในปี2560 และเพิ่มเป็นจำนวน 193,200 คน ในปี 2561  

ด้วยระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงที่ยังประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรงอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาจึงมี อปท.เข้าร่วมจัดระบบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2559-2560 มี อปท.เข้าร่วม 4,274 แห่ง และในปี2561 นี้ คาดว่าจะมี อปท.เข้าร่วมเพิ่มเติมอีก 841 แห่ง ซึ่งจะทำให้มี อปท.ที่ร่วมจัดระบบดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 5,115 แห่ง ผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงทั่วประเทศได้รับการดูแลและเข้าถึงบริการสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยดำเนินการร่วมกับทีมหมอครอบครัว หน่วยบริการและเครือข่ายบริการปฐมภูมิในพื้นที่ นอกจากนี้ทางกรุงเทพมหานครยังได้เข้าร่วมจัดระบบนี้ เพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่ กทม.เข้าถึงการดูแลที่ดีเช่นกัน

“การจัดตั้งกองทุน LTC นับเป็นของขวัญที่ดีในวันผู้สูงอายุแห่งชาติที่รัฐบาลได้มอบให้กับประชาชนและได้สนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงทั่วประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผลการดำเนินงานในช่วง 2ปีที่ผ่านมาไม่เพียงทำผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงจำนวน 175,378 คน (รวม กทม.) ได้รับการดูแลที่ดี แต่ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลและรักษาพยาบาล รวมทั้งการลดความแออัดในการเข้ารับบริการยังหน่วยบริการ ซึ่งในอนาคตคงจะมีการขยายระบบให้ครอบคลุมดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงยิ่งขึ้น วันนี้กองทุน LTC จึงเป็นหนึ่งในมาตรการเชิงรุกของรัฐบาลเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุที่ยั่งยืน” เลขาธิการ สปสช. กล่าว  

'อนาคตใหม่' ย้ำผู้สูงวัยร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และอยู่ในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรี

ขณะที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ 'The Future We Want' ของพรรอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความว่า "ผู้สูงอายุคืออนาคตใหม่ของไทย..." โดยระบุว่า ภายในปี 2564 ไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยสมบูรณ์ มีคนอายุเกิน 60 ปี คิดเป็น 15% ของคนทั้งประเทศ สิ่งที่เราต้องคิด คือทำอย่างไรให้ผู้สูงวัยเป็นอนาคตของประเทศ ไม่ใช่แค่คนรุ่นหนุ่มสาว ทำให้ผู้สูงวัยยังเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มีงานทำตามศักยภาพ ที่สำคัญ รัฐต้องมองหารายได้เพิ่มผ่านการเปิดโอกาสให้มีธุรกิจใหม่ๆ สร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อให้มีงบประมาณพอจะให้สวัสดิการถ้วนหน้าแก่ประชาชนที่ต้องพึ่งพิงบริการสาธารณสุขของรัฐมากขึ้นเรื่อยๆ ตามวัย

"อนาคตใหม่ คืออนาคตที่ผู้สูงวัยร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และอยู่ในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรี" เพจ 'The Future We Want' ระบุ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท