อย่ากลัว (ที่จะมี) จุดยืน“อนุรักษ์นิยม”

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

อ่านข่าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคอนุรักษ์นิยมแต่เป็นพรรคเสรีประชาธิปไตย จนทำให้แลดูท่าเสมือนว่าพรรคแนวอนุรักษ์นิยมภาพไม่ค่อยดีเท่าพรรคแนวก้าวหน้าหรือเสรีนิยม (เสรีประชาธิปไตย) ทั้งที่ความจริงคือไม่ใช่สักหน่อย

คำว่าอนุรักษ์นิยม หรือ conservative ในทางการเมือง ที่รู้จักกันเท่าที่คุยกับเพื่อนคนไทย ส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบใจถ้าใครบอกว่าตนเป็นคนอนุรักษ์นิยม มักคิดไปว่าเพื่อนไปมองตนเองทำนองเป็นคนหัวโบราณ ไม่ทันสมัย ล้าหลัง ไม่ทันโลก ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้มีความหมายอย่างที่เข้าใจเลย เป็นการเข้าใจความหมายคำว่าอนุรักษ์นิยมที่ผิดพลาดอย่างมาก แม้แต่มุมมองคนไทยจำนวนมากต่อพรรครีพับลิกันของทรัมป์

ความล้าหลัง ไม่ทันสมัย ไม่ทันโลก ควรเป็นลักษณะของระบบเผด็จการตะหาก เพราะเป็นระบบที่สังคมโลกพากันรังเกียจ

แท้จริงแล้วคำว่าอนุรักษ์นิยมในความหมายที่แท้จริง เป็นท่าในการวางหรือกำหนดนโยบายทางการเมืองของพรรคการเมือง ไม่มีคำว่าผิดหรือถูกแต่ขึ้นกับความเหมาะสมของสภาพการณ์ สภาพแวดล้อมหรือบริบททางสังคมในขณะประกาศใช้นโยบายดังกล่าวของพรรคการเมือง ในระบอบประชาธิปไตยย่อมขึ้นกับความชื่นชอบของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (voters) ว่าพวกเขาจะชื่นชอบแนวคิดทางการเมืองแบบอนุรักษ์นิยมหรือไม่

พรรคการเมืองในยุโรปและในอเมริกาซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยมักมี 2 ปีกคือ ปีกขวากับปีกซ้าย ปีกขวาหมายถึงอนุรักษ์นิยม ปีกซ้ายหมายถึง เสรีนิยม ประชาชนของเขาจะแยกออกว่าพรรคการเมืองไหนเป็นอนุรักษ์นิยมหรือเสรีนิยม แต่ไม่ว่าพรรคจะมีนโยบายแบบไหน ปีกไหน ก็จะอยู่ในกรอบหรือภายใต้กติกาประชาธิปไตย

คำว่าอนุรักษ์นิยม จึงไม่ใช่คำที่น่ารังเกียจแต่อย่างใด แต่เป็นคำพื้นๆ ที่แยกให้เห็นถึงลักษณะหรือท่าทีของนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งการเมืองในประเทศประชาธิปไตยตะวันตก อนุรักษ์นิยมและเสรีนิยมผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะไปมา ขึ้นกับกระแสความนิยมของมวลชนว่าจะเลือกแนวนโยบายของพรรคการเมืองแนวไหน บางครั้งแนวนโยบายแบบก้าวหน้าหรือเสรีนิยมก็มิใช่ว่าจะดีและเหมาะสมเสมอไป ดังการอุบัติของประธานาธิบดีทรัมป์ เป็นตัวอย่าง แสดงให้เห็นว่าประชาชนพลเมืองอเมริกันศรัทธาต่อตัวเขาและนโยบายแนวอนุรักษ์นิยมเพียงใด ฉะนั้นจงอย่าได้เข้าใจผิดว่าอนุรักษ์นิยมนั้นเลวโดยถ่ายเดียว เหมือนที่สื่อไทยบางเจ้าอธิบายดังนี้

ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นก็คือ อนุรักษ์นิยมในอเมริกา หมายถึงเสรีนิยมแบบสุดขั้วเอาเลยด้วยซ้ำ ดูอย่างกรณีของกลุ่มทีปาร์ตี้ (Tea-Party) ที่อาจเรียกว่าเป็นสายฮาร์ดคอร์อนุรักษ์นิยมแบบฉบับอเมริกันเลยทีเดียว พรรคนี้แทบไม่ต้องการรัฐบาลเอาเลย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลกลาง หรือรัฐบาลท้องถิ่น กล่าวคือ ต้องการให้รัฐบาลเลิกยุ่งกับประชาชนให้มากที่สุดในเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องภาษี หรือแม้แต่เรื่องสวัสดิการของรัฐ พวกเขาต้องการให้เป็นเรื่องของทุนนิยมหรือกลไกการตลาด อาจมีบางเรื่องที่เขาต้องการจากรัฐบาล เช่น เรื่องความมั่นคงปลอดภัย เป็นต้นซึ่งก็นับว่าน้อยมาก นัยหนึ่งคนอเมริกันที่มีความคิดอนุรักษ์นิยมต้องการให้ขนาดของรัฐเล็กที่สุดเท่าที่จะเล็กได้ ซึ่งก็คือเสรีนิยมแบบฉบับอเมริกันดั้งเดิม ที่กลุ่มทีปาร์ตี้หรือแม้แต่รีพับลิกันรับสืบทอดอุดมการณ์ทางการเมืองแนวนี้มา ขณะที่อเมริกันฝ่ายเสรีนิยม มีนโยบายทำให้ขนาดของรัฐใหญ่ขึ้นด้วยการขยายบทบาทของรัฐมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษี ด้านสวัสดิการ ถ้าเป็นในอเมริกาดูได้จากตัวอย่างนโยบายของเดโมแครต เช่น โอบามาแคร์ ซึ่งเป็นระบบสวัสดิการประกันสุขภาพอย่างหนึ่ง เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะจัดบริการทางด้านสาธารณสุขหรือสุขภาพของพลเมือง เป็นต้น

การที่ทรัมป์ได้รับการโหวตให้เป็นประธานาธิบดีก็เนื่องจากพลเมืองอเมริกันพอใจนโยบายของเขา แม้เป็นอนุรักษ์นิยมก็ตาม พลเมืองอเมริกันเห็นความสำคัญว่า ในช่วงที่ประเทศกำลังมีปัญหาต่างๆ อยู่นั้นแนวนโยบายแบบอนุรักษ์นิยมทีทรัมป์เสนอช่วงหาเสียงควรน่านำมาใช้ แสดงให้เห็นว่าในบริบททางสังคมอย่างหนึ่งเจตนารมณ์ของประชาชน เป็นอย่างหนึ่ง ขณะที่ในอีกบริบททางสังคม ฉันทามติของประชาชนอาจเปลี่ยนไปก็ได้

กรณีของทรัมป์ แสดงให้เห็นว่า ฉันทามติของสังคมอเมริกันไปข้างอนุรักษ์นิยม พวกเขาอาจเอือมระอากับความไม่เป็นโล้เป็นพายของพรรคเดโมแครตที่ออกแนวเสรีนิยมไม่ได้เรื่อง สังคมหรือพลเมืองนั่นแหละเป็นผู้ตัดสินหรือชี้ชะตากรรมของพวกเขาว่าควรได้ผู้นำเช่นไร อนุรักษ์นิยมเองก็คือประชาธิปไตย มาจากกระบวนการประชาธิปไตย เพราะเจตนารมณ์ของคนส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น

ในกรณีของอเมริกัน ไม่เว้นแม้แต่ความคิดกีดกันชาวต่างด้าว ที่ถือเป็นอนุรักษ์นิยม คนอเมริกันมีสิทธิ์ที่จะเชื่อตาม ทรัมป์ว่า ปัญหาความไม่ปลอดภัยหรือความมั่นคงและปัญหาด้านเศรษฐกิจในอเมริกาส่วนหนึ่งมาจากคนต่างด้าว พวกเขามีสิทธิ์คิดและมีสิทธิ์เห็นด้วยกับแนวคิดอนุรักษ์นิยมทำนองนี้ และเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งทีทำให้ทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี

พวกนักวิเคราะห์ข่าวที่อยู่ในต่างประเทศรึ จะไปรู้สึกรู้สา ปั่นหัวชาวประชาในประเทศนั้นๆ ให้เกลียดทรัมป์ก็เท่านั้น ไม่ใจคอคับแคบไปหน่อยดอกหรือ?

ในอเมริกาพรรคอนุรักษ์นิยมจึงมีมุมดีๆ อยู่มาก และยังคงได้รับการสนับสนุนอยู่จนถึงทุกวันนี้ ชนิดที่แม้แต่พรรคเสรีนิยมก็ตีไม่แตก ต้องพ่ายแพ้ไป

ข้อสังเกตของผมก็คือว่า ทำไมหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จึงออกตัวว่าพรรคไม่ได้เป็นอนุรักษ์นิยม ทั้งที่องค์ประกอบนโยบายของพรรคมีแนวโน้มไปทางอนุรักษ์นิยม ซึ่งว่าไปแล้วความเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมของประชาธิปัตย์ไม่ใช่สิ่งน่าเกลียดน่าชังอะไรเลย คนไทยจำนวนไม่น้อยก็ศรัทธาในแนวนโยบายของพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคนี้ ทำไมไม่กล้าแสดงจุดยืนให้ชัดเจนไปเลยว่า เป็นพรรคแนวอนุรักษ์นิยม และคุณจะทำอะไรให้กับประชาชนจากจุดยืนที่แน่วแน่ตรงนี้

เรื่องจุดยืนเชิงอุดมการณ์ทางการเมืองเป็นปัญหาของพรรคการเมืองไทยมานาน เพราะพรรคการเมืองเป็นพวกชอบแทงกั๊ก ไม่กล้าประกาศจุดยืนที่ชัดเจนของพรรค คิดว่าประชาชนเขามองไม่ออก มันจึงมีแนวโน้มที่นโยบายพรรคจะไหลไปตามกระแสสังคมได้สูง

แน่นอนล่ะว่า การไหลไปตามกระแสสังคมเป็นเรื่องปกติธรรมดาของพรรคการเมือง ก็พวกเขาต้องการคะแนนเสียงนี่นา แต่การไร้จุดยืนอุดมการณ์เชิงนโยบายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เป็นเรื่องไม่สง่าน่าภาคภูมิเอาเลย ชี้ว่าพรรคการเมืองไทยแทบไม่มีพัฒนาการใดๆ เลย

เก็บพรรคของท่านให้ชาวบ้านที่เขาศรัทธาต่อนโยบายหรืออุดมการณ์พรรคของท่านไว้เป็นทางเลือกบ้างเถอะครับ อย่าพลิ้วนักเลย 555 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท