กลุ่มคนอยากเลือกตั้งขีดเส้น 22 พ.ค. ถ้าไม่หยุดยื้อเลือกตั้ง เจอกันหน้าทำเนียบรัฐบาล

กลุ่มคนอยากเลือกตั้งแถลงข่าวยืนยัน 3 จุดยืน เลือกตั้งปีนี้-คสช.ยุติบทบาท-กองทัพหยุดสนับสนุนคสช. ย้ำหากภายในวันที่ 22 พ.ค. รัฐบาลไม่ทำตามข้อเรียกร้องเตรียมเดินขบวนไปทำเนียบรัฐบาล

5 พ.ค. 2561 16.00 น. ที่ลานปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้จัดกิจกรรมการชุมนุมทางการเมืองเพื่อคัดค้านการยื้อการเลือกตั้ง และการสืบทอดอำนาจของคสช. รังสิมันต์ โรม หนึ่งในแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยเน้นย้ำในจุดยืนเดิมคือ การเลือกตั้งจะต้องมีขึ้นภายในปี 2561 และเรียกร้องให้ คสช. ยุติบทบาทในทัน ให้เหลือไว้เพียงรัฐบาลรักษาการเท่านั้น

การแถลงข่าวช่วงเย็น

อภิปรายไม่ (เคย) ไว้วางใจ คสช.

รังสิมันต์ ระบว่า จุดยืนของกลุ่มคนอยากตั้งคือ การต้องการเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้นภายในเดือน พ.ย. 2561 ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นต้องเป็นการเลือกตั้งที่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม พรรคการเมืองจะต้องมีเสรีภาพในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และ คสช. จะต้องยุติบทบาทของตัวเอง พร้อมเรียกร้องให้กองทัพหยุดสนับสนุน คสช. หยุดเป็นเครื่องมือให้ คสช. ในการบ่อนทำลายประเทศ

“ถึงเวลาแล้วที่การเมืองไทยจะต้องเปิด ทหารจะต้องกลับเข้ากรมกอง นี่คือจุดยืน 3 ข้อ ของพวกเรา ส่วนเรื่องอื่นๆ กลุ่มคนอยากเรื่องตั้งเราสนับสนุนอีกหลายเรื่อง เราสนับสนุนกลุ่มที่กำลังล่ารายชื่อเพื่อปลดอาวุธ คสช. อย่างไอลอว์ พ่อแม่พี่น้องคนไหนที่ไม่เห็นด้วยกับระบบ คสช. ไม่ไว้วางใจที่สิ่งที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ท่านสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมลงรายชื่อได้เลย ” รังสิมันต์ กล่าว

รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า หากสุดท้ายแล้วข้อเรียกร้องของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล และ คสช. ก่อนวันที่ 22 พ.ค. จะมีการเดินขบวนชุมนุมประท้วงจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อที่จะบอกกับรัฐบาล คสช. ว่า 4 ปีที่ผ่านมาพอได้แล้วกับระบอบนี้

“ถ้าพวกเขาไม่ทำตามที่เราเรียกร้อง สิ่งที่เราจะทำคือ เราจะไปที่ทำเนียบรัฐบาล ไปป่าวประกาศถึงจุดยืนสิ่งที่ประชาชนต้องการว่า ประชาชนนั้นต้องการอะไร 4 ปีสำหรับประชาชนทั่วๆ ไป 4 ปีเราควรคิดถึงอนาคตได้แล้ว ถามว่าวันนี้เรามีอนาคตไหมครับ ภายใต้หน้ากากของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมคิดว่าประเทศนี้ไม่มีอนาคตถ้าเราไม่ร่วมกันสู้ด้วยกัน” รังสิมันต์ กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากการชุมนุมในหลายครั้งที่ผ่านมาคิดว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะประสบความสำเร็จหรือไม่ รังสิมันต์ ตอบว่า จากการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา หลายคนยังสงสัยว่าจะมีการเคลื่อนไหวต่อสู้ไปเพื่ออะไรในเมื่อสู้ไป คสช. ก็ยังไม่ออกไป แต่สิ่งที่ทางกลุ่มเห็นคือ เพราะวันนี้ยังมีคนที่ต่อสู้อยู่ ความต้องการของ คสช. จึงไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ เช่นการประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 2562 ก็ได้มาจากการที่มีผู้คนออกมาเรียกร้องการเลือกตั้ง ออกมากดดัน ทำให้รัฐบาลต้องรีบชิงประกาศวันเลือกตั้ง เพื่อให้ดูเหมือนว่าไม่ได้ขยับวันเลือกตั้งออกไปนานเกินสมควร เพราะหากยังไม่มีความชัดเจน หรือมีการขยับวันเลือกตั้งออกไปนานเกิน รัฐบาลเกรงว่าจะทำให้ประชาชนออกมารวมตัวกัน

“ประเทศไทยเรามีประวัติศาสตร์การต่อสู้มาอย่างยาวนาน ผมเคยเข้าไปในกองทัพ ทหารเขาบอกกับผมว่า เขาใช้คำว่า 16 ตุลาฯ ไม่ใช่ 14 ตุลาฯ เขาบอก 16 ตุลาฯ เป็นเพียงแค่นิทานของพวกเราเท่านั้น มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเองก็หวาดกลัวเมื่อเขากระทำย่ำยีต่อประชาชน ดังนั้นการมารวมตัวกันของประชาชนแบบนี้มันจึงเป็นนิมิตรหมายว่า เรายังคงเฝ้าจับตาดู ถ้าคุณไม่ทำในสิ่งที่คุณควรจะทำ ไม่ทำในสิ่งที่ควรจะเป็น ประชาชนพร้อมจะออกมา”รังสิมันต์ กล่าว

 

สำหรับกิจกรรมในวันนี้เป็นไปอย่างคึกครื้นมีร้านค้ามาออกบูทขายของประมาณ 20 ร้าน และมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีสื่อมวลชนหลายสำนักติดตามรายงานข่าวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท