Skip to main content
sharethis

สภานักศึกษามหาวิทยาลัยฮุมโบลท์แห่งเบอร์ลิน กังวลกรณีเนติวิทย์และคนอยากเลือกตั้ง จะได้รับโทษหนักจากคำตัดสินของศาล พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลไทยตระหนักถึงเสรีภาพ และรวมถึงเสรีภาพในการแสดงออกถึงการต่อต้าน 

อ่านฉบับภาษาเยอรมันที่ https://www.refrat.de/article/news.solierklaerung1805.html

15 พ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า สภานักศึกษามหาวิทยาลัยฮุมโบลท์แห่งเบอร์ลิน เยอรมนี ออกแถลงการณ์ แสดงความกังวล กรณีที่ เนติวิทย์และกลุ่มผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง จะได้รับโทษหนักจากคำตัดสินของศาล พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลไทยตระหนักถึงเสรีภาพ และรวมถึงเสรีภาพในการแสดงออกถึงการต่อต้าน

สภานักศึกษามหาวิทยาลัยฮุมโบลท์แห่งเบอร์ลิน ยังเรียกร้องไปยังผู้บริหารของมหาวิทยาลัย และตัวแทนนักศึกษาทั้งหมดให้ร่วมสนับสนุนต่อ เนติวิทย์ และผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ด้วย

รายละเอียดแถลงการณ์ฉบับแปลมีดังนี้ 

แถลงการณ์สภานักศึกษามหาวิทยาลัยฮุมโบลท์แห่งเบอร์ลิน

หลังจากกรณีการเปิดโปง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยว่ามีนาฬิกาหรูหลายยี่ห้อมากกว่า 25 เรือนสิริรวมราคานับล้านดอลลาร์ ทำให้เกิดการต่อต้านจากกลุ่มนิสิตนักศึกษามากขึ้น

“รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์เป็นรัฐบาลที่ขาดจริยธรรม” ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ นักรัฐศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในกรุงเทพได้เขียนข้อความนี้ในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสระหว่างการเปิดโปงอย่างต่อเนื่องของเหตุการณ์คอรัปชั่นอันฉาวโฉ่ นอกจากนี้ เขายังเขียนด้วยว่า “รัฐบาลนี้ไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป”

ตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2557 ประเทศไทยได้ถูกปกครองโดยคณะรัฐบาลทหาร ซึ่งในตอนแรกได้ให้สัญญาว่าจะนำมาซึ่งสันติภาพ ระเบียบ และประชาธิปไตยที่แท้จริงแก่ประเทศ แต่คำสัญญาว่าจะมีการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยได้ถูกเลื่อนออกไปตลอดสี่ปีของรัฐบาลทหาร และล่าสุดก็เลื่อนไปจนถึงช่วงต้นปี 2562 ดังนั้นรัฐบาลทหารภายใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเข้ามาควบคุมการเคลื่อนไหวของนักศึกษาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้แผนการเลื่อนเลือกตั้งดำเนินไปได้ตามแผน

ล่าสุดในเดือนเมษายน 2561 พบว่าผู้ชุมนุมกว่าร้อยรายถูกตั้งข้อกล่าวหา โดยส่วนใหญ่คือนักศึกษาที่ออกมาประท้วงเพื่อต้องการการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตย ที่ออกมาประท้วงนับตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.2561 เป็นต้นมา ข้อกล่าวหาที่นักศึกษากลุ่มนี้โดนคือการปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง และรวมถึงการทำผิดกฏของการชุมนุมทางการเมืองที่รวมตัวกันเกินกว่าห้าคน ผู้ถูกกล่าวหาเหล่านี้มีสิทธิถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ถึง 9 ปีจากการชุมนุม และยังมีอีก 40 กว่าคนที่ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่เบากว่า

เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อายุ 21 ปี เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา ในปี 2560 เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศ เนติวิทย์และเพื่อนนักเรียนได้ก่อตั้งสมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทยซึ่งเป็นกลุ่มที่เรียกร้องปฏิรูปการศึกษาไทยในปี 2555 ส่งผลให้พวกเขายังเป็นกลุ่มต่อต้านที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดานักกิจกรรมที่ถือว่าเป็น “ฝ่ายค้านนอกสภา”

จากการที่เนติวิทย์ถูกกล่าวหาว่าไม่ได้แสดงการกระทำไม่เหมาะสมในพิธีการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ในช่วงต้นภาคการศึกษาซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนรุนแรง ส่งผลให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานสภานิสิตฯ ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายคุ้มครองพระมหากษัตริย์เข้มงวดที่สุด และกฎหมายดังกล่าวมักจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

ช่วงที่มีกระแสการจับกุมผู้ชุมนุม เนติวิทย์เขียนแถลงการณ์ลงในบล็อกว่า “ถ้าหากพวกเราซึ่งเป็นพลเมืองที่จ่ายภาษีให้ผู้มีอำนาจเกิดตั้งคำถามต่อพวกเขาแล้วพวกเรากลับต้องตกอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่ ผมไม่คิดว่าเราควรปล่อยให้ผู้มีอำนาจพวกนี้ปกครองประเทศเราได้อีกต่อไป”

“ผมเชื่อว่าเป็นสิทธิของประชาชนที่จะมีส่วนร่วมทางการเมือง และกำหนดชะตากรรมประเทศของเขา โดยปราศจากข้อกังวลใดๆ”

เนติวิทย์ ได้รับเชิญให้เป็นปาฐกในการประชุมเสรีภาพแห่งออสโล ที่นอร์เวย์ในเดือนพฤษภาคมนี้ จากการทำกิจกรรมครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร จึงน่ากังวลว่า เนติวิทย์และพวกอาจจะได้รับโทษหนักจากคำตัดสินของศาลในวันที่ 16 พ.ค. นี้ พวกเรา สภานักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยฮุมโบลต์ ซึ่งเป็นตัวแทนนักศึกษาที่นี่ หวังว่ารัฐบาลทหารจะตระหนักถึงเสรีภาพ และรวมถึงเสรีภาพในการแสดงออกถึงการต่อต้านด้วย พวกเราขอเรียกร้องไปยังผู้บริหารของมหาวิทยาลัย และตัวแทนนักศึกษาทั้งหมดให้ร่วมสนับสนุนต่อเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และผู้ชุมนุมคนอื่นๆ 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net