'พุทธะอิสระ' พฤหัสฯไม่อิสระ-ถูกจับสึก คดีอั้งยี่ซ่องโจร-ปลอมพระปรมาภิไธย

ศาลไม่ให้ประกันตัว อดีตพระพุทธะอิสระ พร้อมจับสึก หลังทนายยื่นหลักทรัพย์ 1.5 แสน คดีอั้งยี่ซ่องโจร และคดีปลอมพระปรมาภิไธย จนท.นำขึ้นรถเพื่อไปเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติโยมที่มาให้กำลังใจ

ที่มาภาพ http://news.thaipbs.or.th/content/272415

24 พ.ค.2561 จากกรณีช่วงเช้า ตำรวจนำกำลังคอมมานโด จับ พระพุทธะอิสระ หรือ “พระสุวิทย์ ธมฺมธีโร” ที่วัดอ้อน้อย ตามหมายจับ และพาตามายังกองปราบปรามในคดีปล้นทรัพย์ และเป็นหัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งเป็นความผิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2557 ขณะที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. และตำรวจสันติบาลถูกการ์ด กปปส. แจ้งวัฒนะ ทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และปล้นเอาทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ไปด้วย นอกจากนี้ ตำรวจแจ้งข้อหาแอบอ้างใช้พระปรมาภิไธย "ภปร" และ "สก" กรณีสร้างพระเครื่องพระนาคปรก รุ่นหนึ่งในปฐพี นั้น

ต่อมาช่วงบ่ายตำรวจนำตัว พระพุทธะอิสระ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา มาขออำนาจศาลฝากขัง  คดีอั้งยี่ซ่องโจร และคดีปลอมพระปรมาภิไธย 2 สำนวน มาฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญา เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.- 4 มิ.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

ล่าสุด ไทยพีบีเอส รายงานว่า เมื่อ เวลา 18.30 น. ศาลไม่ให้ประกันตัว อดีตพระพุทธะอิสระ พร้อมจับสึก หลังทนายยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว 150,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถเพื่อไปเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติโยมที่มาให้กำลังใจ
 
ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า เนื่องจากพฤติการณ์ร้ายแรง
 
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานรายละเอียดคดีไว้ดังนี้ 
 
คดีมีการ ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.60 นายวิชัย ประเสริฐสุดสิริ ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ที่นำอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. และอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. มาประดิษฐานหลังองค์พระเครื่องโดยไม่ได้รับพระราชทาน พระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 โดยนายวิชัย ผู้กล่าวหา ได้ตรวจพบทางเว็บไซต์ว่าพระเครื่องดังกล่าว มีการสร้างเมื่อช่วงเข้าพรรษาปี 2554 บรรจุปรอทเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2554 ซึ่งถือว่าเป็นวันที่สร้างพระสำเร็จ ผู้กล่าวหาเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ, ปลอมขึ้นซึ่งพระปรมาภิไธย และใช้พระปรมาภิไธยที่มีการปลอมขึ้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 250, 252
 
โดยมีการสอบสวนพยานบุคคล พร้อมทั้งตรวจสอบไปยัง สำนักพุทธศาสนา ยืนยันตรงกันว่า ผู้ต้องหาไม่ได้รายงานขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ตามกฎระเบียบของมหาเถรสมาคม และจากการสอบสวนพยานบุคคลเจ้าหน้าที่ กรมราชเลขานุการในพระองค์ ยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่ได้ขออนุญาตใช้พระปรมาภิไธยย่อ และอักษรย่อพระนามาภิไธย ตามพฤติการณ์และพยานหลักฐาน จึงยืนยันว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้สร้างพระนาคปรก อุดปรอท รุ่นหนึ่งในปฐพี ที่เป็นปัญหาในคดีนี้จริง โดยไม่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญอักษรพระปรมาภิไธย และอักษรพระนามาภิไธยย่อ ไปประดิษฐานหลังองค์พระเครื่องดังกล่าว เหตุเกิดที่วัดอ้อน้อย ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ระหว่างปี 2554 - 15 ส.ค.2554
 
พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาฐาน ปลอมขึ้นซึ่งพระปรมาภิไธย และใช้พระปรมาภิไธยที่มีการปลอมขึ้น  ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 250, 252 ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยขอให้การในชั้นศาล ขณะที่การฝากขังคดีนี้ พนักงานสอบสวนระบุว่า หากผู้ต้องหาขอปล่อยชั่วคราวในชั้นศาล ก็ขอให้เป็นดุลยพินิจของศาล
 
ส่วนประเด็นการฟ้องในคดี ม.112 นั้น โพสต์ทูเดย์รายงานว่า ทนายของพุทธะอิสระ ชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท