Skip to main content
sharethis

วิษณุเตรียมถก กกต.แก้ปัญหาไพรมารีโหวต-แบ่งเขตเลือกตั้ง ก่อนที่ คสช.จะนัดคุยพรรคการเมืองหารือปลดล็อคคำสั่งหัวหน้า คสช.53/60 ที่ห้ามพรรคทำกิจกรรมทางการเมือง รวมถึงร่วมกันกำหนดวันเลือกตั้ง คาดได้คุยในเดือนมิ.ย. ไม่ง้อบางพรรคเมินเข้าร่วม

8 มิ.ย.61 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าคำสั่งหัวหน้า คสช.53 /2560 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญว่า ทุกอย่างก็เดินไปตามคำสั่ง คสช. ตอนนี้ก็รอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.มีผลบังคับใช้ ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่พระราชวินิจฉัยตามกรอบ 90 วัน จึงจะประกาศใช้ในส่วนของกฎหมาย ส.ว. แต่กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.จะต้องรอไปอีก 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา หลังจากนั้นจึงเริ่มนับ 150 วันจัดเลือกตั้งให้แล้วเสร็จตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นโรดแม็ปตามกฎหมาย

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า แต่กำหนดการที่ คสช.จะประชุมกับผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งพรรคการเมืองเพื่อกำหนดแนวทางทั้งเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นและระดับชาติ แม้มีปฏิกิริยาจากบางพรรคจะไม่เข้าร่วม แต่หลายพรรคก็ยังอยากให้มีการหารือกันเพราะต้องการเสนอปัญหา ซึ่งคสช.ก็อยากเห็นการประชุมพรรคการเมืองจะมาเท่าไรก็ได้ และหารือในส่วนที่คุยกันได้เพื่อได้แนวทางที่จะไปทำต่อ เช่น เรื่องไพรมารีโหวต การปลดล็อก และการเลือกตั้งท้องถิ่น หาก คสช.เห็นว่าจำเป็นก็พร้อมจะประชุม จึงอาจมีการประชุมอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งแรกอาจเกิดภายในเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนอีกครั้งอาจจะเกิดหลังจากร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งเป็นไปตามคำปรารภของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ผลการประชุมเหมือนโรดแม็ปเล็ก กำหนดแนวทางให้ทุกฝ่ายไปปฏิบัติ

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ตนได้พบกับ กกต.แล้วแต่ยังไม่ได้กำหนดวันนัดหมายที่ชัดเจน ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมามีการหารือแล้วหลายครั้งจนถึงขั้นมีการร่างเตรียมการไว้แล้ว แต่ยังจะต้องมาหารือกันว่าคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 มีประเด็นใดที่ต้องแก้ไขบ้าง รวมถึงที่มีข้อเสนอให้ใช้มาตรา 44 ให้อำนาจ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งได้หลังกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ประกาศในราชกิจจานุเบกษาโดยไม่ต้องรอให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ และประเด็นที่พรรคการเมืองร้องเรียนมา ซึ่งการหารือกับ กกต.น่าจะเกิดขึ้นก่อนการประชุมกับพรรคการเมือง โดยที่ประชุมจะประกอบด้วยตนในฐานะตัวแทนรัฐบาล เลขาฯ คสช.ที่เป็นตัวแทน คสช. เลขาธิการ กกต. ที่เป็นตัวแทน กกต. และตัวแทนจากกฤษฎีกาด้วย บทสรุปที่ได้จะเป็นข้อเสนอถึงแนวทางแก้ไข เช่น จะต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 หรือไม่ หรือจะแก้ไขพระราชบัญญัติใด หรืออาจไม่ต้องแก้ไขอะไรเลย แต่กำหนดร่วมกันเพื่อสร้างความชัดเจนให้เกิดการปฏิบัติได้

 

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net