Skip to main content
sharethis
ปปง.แถลงมีมติให้ยึดและอายัดเงินสด 98 ล้านบาท ศุลกากรยึดได้คาด่านหนองคายขณะขนไปลาว อีกคดียึดทรัพย์ผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นหลานสาวพระนางเจ้าท่านหนึ่ง ตุ๋นเงินกลุ่มเกษตรกรกว่า 4 ล้านบาท
 
21 มิ.ย. 2561 MGR Online รายงานว่าพล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 11/2561 เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2561 คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีที่สำคัญ ดังนี้ 1. ท้าวสุบัน เตียสิริ กับพวก ยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 1 รายการ เงินสด รวมมูลค่ากว่า 98,000,000 บาท สืบเนื่องจากด่านศุลกากรหนองคายได้รายงานผลการจับกุมลักลอบนำเงินตราออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต กล่าวคือมีชายชาวลาวลักลอบนำเงินตราไทยจำนวนมากออกนอกราชอาณาจักรโดยใช้ยานพาหนะรถยนต์ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2560 เจ้าหน้าที่ศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย ได้แจ้งว่ารถยนต์เป้าหมายเข้าไปยังด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 1 จึงได้เรียกรถยนต์ทำการตรวจสอบพบตัวผู้ต้องหาและเงินตราธนบัตรไทย จำนวน 98,000,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ทราบว่าเงินของกลางดังกล่าวเป็นของอันพึงต้องริบหรือพิสูจน์ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (7) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จึงมีมติให้ยึดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน จำนวน 1 รายการ คือ เงินสดมูลค่ากว่า 98,000,000 บาท
 
ก่อนหน้านี้ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 9/2561 เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2561 คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ยึดทรัพย์สินขบวนการลักลอบขนเงินข้ามแดนมาแล้วจำนวน 3 คดี ได้แก่ นายมาซาโตะ คิคุชิ นายลอบซัง โซดา และราย MR.MSAFIRI JUSTIN รวมมูลค่า 9,500,000 บาท
 
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์กล่าวอีกว่า สำหรับรายที่ 2 คดี น.ส.ชลดา หรือสมัญญา วัฒโน กับพวก ยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 6 รายการ รวมมูลค่ากว่า 4,433,000 บาท สืบเนื่องจาก ปปง.ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายจรูญ ติรวงศาโรจน์ กับพวกรวม 4 คน กรณีผู้ต้องหากับพวกหลอกลวงจนหลงเชื่อและได้ทรัพย์ไป ประมาณ 68,000,000 บาท กล่าวคือ ระหว่างปลายปี 2551 ถึงประมาณกลางเดือน พ.ค. 2556 ผู้ต้องหากับพวก ร่วมกันหลอกลวงนายภูชิดย์ แซ่ซั้น ประธานกลุ่มเกษตรกรทำสวนธารน้ำทิพย์ (ในขณะนั้น) ตั้งอยู่ อ.เบตง จ.ยะลา ญาติของนายจรูญ ทราบว่า น.ส.ชลดาอ้างเป็นหลานสาวพระนางเจ้าท่านหนึ่ง มีทรัพย์มรดกเป็นจำนวนมากซึ่งอยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งในและต่างประเทศ ต้องการผู้สนับสนุนทางการเงินเพื่อใช้ในการดำเนินคดี เมื่อคดีเสร็จสิ้นแล้วจะมอบเงินและที่ดินทางภาคเหนือให้เป็นค่าตอบแทนแก่ผู้สนับสนุนทางการเงินเป็นจำนวนหลายเท่าตัว พร้อมมอบที่ดินอีกจำนวนประมาณ 1,000 ไร่ ให้สำหรับทำสวนยางพารา กระทั่งนายภูชิดย์เกิดหลงเชื่อ ระหว่างนั้นนายจรูญกับพวกไปสืบทราบว่า น.ส.ชลดาถูกจับดำเนินคดีอาญา ม.112 และในฐานความผิดฉ้อโกง ซึ่งศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก 30 ปี จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อ น.ส.ชลดา กับพวก ในการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน จำนวน 6 รายการ ได้แก่ รถยนต์ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระแล้ว หรือสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย มูลค่ากว่า 4,433,000 บาท นอกจากนี้ยังมีนางถนัตถ์อร แซ่ลก หลงเชื่อได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 557,000 บาท นายอรุณ จงมีลักษมี หลงเชื่อได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 5,245,000 บาท นางวันทนา แซ่ว่อง ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 9,470,000 บาท
 
“เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมและเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด สำนักงาน ปปง.จะเน้นการสืบสวนสอบสวนขยายผลและบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในมูลฐานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน และเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย เนื่องจากทรัพย์สินใดเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ทรัพย์สินนั้นต้องกลับคืนสู่แผ่นดินโดยไม่มีเงื่อนไข ด้วยกฎหมายฟอกเงิน” พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์กล่าว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net