Skip to main content
sharethis

พท. แนะ กกต. ระวังเป็นเครื่องมือทำลายล้างพรรคการเมือง  ขยายความขัดแย้ง มาร์คผสมโรง ชี้สองพี่น้องชินวัตรไม่ทบทวนว่า มีส่วนในการก่อปัญหาให้ประเทศ

25 มิ.ย. 61 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของนายทักษิณ ชินวัตร ระบุพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งในอีสานในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ขณะนี้ทางสำนักงานกำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า เข้าข่ายผิดกฎหมายซึ่งทำให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบพรรคหรือไม่ โดยจะนำรายงานเบื้องต้นเข้าที่ประชุม กกต.ในวันที่ 26 มิ.ย. นี้ ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวน จะตั้งก็ต่อเมื่อข้อเท็จจริงที่บ่งชี้ไปถึงขั้นว่าพรรคมีการยินยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้ามาชี้นำ ครอบงำ การดำเนินกิจกรรมของพรรค แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถจัดประชุมใหญ่ของพรรคได้ การเคลื่อนไหวในฐานะพรรคการเมืองของพรรคเพื่อไทย จึงยังอาจบอกไม่ได้ว่าเข้าข่ายความผิดนี้หรือไม่

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวถึงการตรจสอบของ กกต.ว่า หาก กกต. จะแสดงความตื่นตัวในการติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมือง ก็ไม่ควรมองเฉพาะพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งยังดำเนินกิจการพรรคการเมืองไม่ได้เช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นๆ โดยระบุด้วยว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นการพูดถึงสถานการณ์อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เชื่อเหมือนกันว่าพรรค พท.จะชนะ จะเรียกว่าครอบงำพรรคได้อย่างไร

เช่นเดียวกับนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ระบุว่า การที่อดีตหัวหน้าพรรค อดีตนายกฯ จะพูดคุยถึงความเป็นไปของบ้านเมือง หรือให้ความเห็นต่อการดูด ส.ส.ของฝ่ายผู้มีอำนาจ ใครจะชนะจะแพ้ ใครจะถูกหลอก ควรเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพทางการเมือง ที่ใครๆ ก็มีสิทธิที่จะแสดงความเห็นได้ ไม่ใช่ผู้มีอำนาจจะทำได้ฝ่ายเดียว ทั้งนี้ เรื่องครอบงำเป็นกฎหมายใหม่ที่ผู้มีอำนาจชุดนี้เขาคิดค้นประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นการเฉพาะ ซึ่งมั่นใจว่า กรณีนี้ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดใดๆ เลย เพราะความผิดนี้พรรคการเมืองต้องยินยอมให้ครอบงำ ซึ่งไม่ปรากฏว่า พรรคเขาไปมีส่วนรู้เห็นอะไรด้วย หรือต้องมีการครอบงำกิจกรรมของพรรคการเมือง ก็ไม่ปรากฏว่าพรรคเขาทำกิจกรรมอะไร จริงๆ ก็ทำไม่ได้ด้วย จึงไม่รู้ว่าไปแทรกแซงครอบงำกิจกรรมอันใด

“กกต.จะตรวจสอบอะไรก็คงไม่ว่ากัน แต่กรุณาเข้าใจบริบททางการเมืองให้ถ่องแท้ และไม่ควรใช้กฎหมายที่สร้างขึ้นแบบลุแก่อำนาจ เป็นเครื่องมือทำลายล้างพรรคการเมือง ไม่เป็นผลดีอะไรเลย มีแต่จะทำให้ความขัดแย้งแตกแยกขยายใหญ่โตออกไปอีก ในขณะที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่าพรรคการเมืองนี้ฆ่าไม่ตายสักที” นายชูศักดิ์กล่าว

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีว่า ต้องดูว่ามีการแทรกแซงครอบงำพรรคหรือไม่ ขอให้คนทำหน้าที่รักษากฎหมายเป็นผู้วินิจฉัยเรื่องนี้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าเรื่องนี้สะท้อนว่าบางคนบางฝ่ายยังไม่ยอมรับว่า การที่ประเทศเข้ามาสู่ปัญหาตรงนี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมรับผิดชอบและร่วมกันทบทวนแล้วทำบางสิ่งที่ต่างจากเดิม แต่การที่นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแสดงออกมานั้น ทำให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้คิดว่าการกระทำของเขาในอดีตมีส่วนในการก่อปัญหาให้ประเทศ ซึ่งตรงนี้ถือว่าอันตราย

“ขอดูว่าพรรค พท.ได้เรียนรู้แล้วหรือไม่ ถ้าเขายังอยู่ภายใต้การครอบงำของครอบครัวชินวัตร ยังมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ของครอบครัวชินวัตรอยู่ มันจับมือกันไม่ได้” นายอภิสิทธิ์ระบุ

ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจารณาว่า เข้าข่ายยุบพรรคหรือไม่ โดยต้องพิจารณาจากกฎหมาย โดยย้ำว่า ไม่ได้สั่งการ กกต. เพราะเป็นการดำเนินการของทางคณะกรรมการการเลือกตั้งเอง

 

 

ที่มา: มติชนรายวัน โพสต์ทูเดย์

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net