จับนายกเทศมนตรีเผาศาลากลางขอนแก่น ขัง 8 เดือนไม่ได้ประกัน เจ้าตัวยันนำรถดับเพลิงไปควบคุมเพลิง

พยานเป็นผู้สื่อข่าวผู้จัดการชี้ตัวตามภาพถ่ายระบุ เห็นใช้โทรศัพท์มือถือและชี้มือมีลักษณะสั่งการ จำเลยยืนยันนำรถดับเพลิงและเรียกลูกบ้านไปเพื่อระงับเหตุ หลังเกิดเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหนจนถูกจับ ยื่นประกัน 3 ครั้ง หลักทรัพย์ห้าล้าน ศาลไม่อนุมัติอ้างเกรงหลบหนี 

(เมื่อวานนี้) 11 กรกฎาคม 2561 เวลาประมาณ 09.30 น. ห้องพิจารณาคดีที่ 1 ชั้น 2 ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้มีนัดสืบพยานโจทก์คดีเผาศาลากลาง จ.ขอนแก่น โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ในช่วงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงที่บริเวณแยกราชประสงค์ 

อัยการได้สืบพยานโจทก์ปากที่ 3 นายภัคพงษ์ นครแก้ว วัย 39 ปี ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าว ASTV ศูนย์ขอนแก่นที่อยู่ในเหตุการณ์ ภัคพงษ์ได้ให้การยืนยันต่อศาลว่า ภาพที่ได้จากการแคปเจอร์จากคลิปวิดีโอ เป็นภาพของนายชารี โดยในวันเกิดเหตุตนได้แฝงตัวและทำตัวตีสนิทไปกับกลุ่มคนเสื้อแดง ในที่เกิดเหตุได้เห็นนายชารีอยู่ในเหตุการณ์แสดงกริยารับโทรศัพท์และโบกมือไปมามีลักษณ์เหมือนสั่งการ เมื่อทนายได้ถามถึงรายละเอียด ภัคพงษ์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจำเลยแต่งกายในชุดสุภาพปกติ ไม่ได้แต่งกายแบบคนเสื้อแดงและไม่ได้ถือหรือพกพาเครืองมือใดๆ

ภัคพงษ์ได้ให้การว่าตัวเองเป็นผู้สื่อข่าวของ ASTV ที่มีจุดยืนทางการเมืองตรงข้ามกันกับกลุ่มคนเสื้อแดง 

ต่อมาได้มีการสืบพยานโจทก์ปากที่ 4 เป็นชายวัย 61 ปี ซึ่งเคยเป็นกำนันตำบลสาวะถี ได้ยืนยันว่าชาวบ้านในพื้นที่ได้ยืนยันว่าจำเลยได้ชักชวนไปยังที่เกิดเหตุจริงแต่เท่าที่ได้ร่วมงานกับจำเลยมาเห็นว่าจำเลยทำงานตามหน้าที่ไม่ได้ฝักใฝ่การเมือง

ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์และจำเลยต่อไปในวันที่ 17-19 กรกฎาคม 2561

ชารี พานสายตา ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2561 โดยถูกกรมสืบสวนคดีพิเศษ DSI แจ้งข้อหาว่าได้กระทำความผิดร่วมกันวางเพลิงเผาศาลากลางจังหวัดในเหตุการณ์สลายการชุมนุม 19 พฤษภาคม 2553 อัยการได้ทำการส่งฟ้องศาลเมื่อ 15 พฤษภาคม 2561 โดยหลังการถูกจับกุมที่ที่พักจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 8 เดือน นายชารีได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวแล้ถึง 3 ครั้ง โดยใช้หลักทรัพย์วงเงินห้าล้านบาท แต่ศาลยกคำร้องไม่ให้ประกันตัวโดยให้เหตุผลว่าคดีร้ายแรงเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี

ชารี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขอยืนยันว่าในวันเกิดเหตุได้ไปทำหน้าที่ระงับเหตุโดยได้เกณฑ์ลูกบ้านและนำรถดับเพลิงของเทศบาลไปด้วย แต่เมื่อถึงที่หมาย ไม่สามารถนำรถดับเพลิงเข้าไปได้ เนื่องจากถูกผู้ชุมนุมปิดกั้น จึงเข้าไปแต่ตัว โดยเข้าไปทำการห้ามปรามประชาชนเท่านั้น 

ผู้ต้องขังในคดีการเมืองวัย 55 ปี เล่าว่า ตนคลุกคลีกับกิจกรรมชุมชนตั้งแต่ยังเด็ก เป็นประธานกลุ่มเยาวชน หลังบวชเรียน 4 พรรษา ได้ชั้น นักธรรมเอก เมื่อสึกออกมาก็ได้รับเลือกเป็น ผู้ใหญ่บ้าน 13 ปี ได้รับเลือกเป็นกำนัน 4 ปี โดยได้รับรางวัลกำนันแหนบทอง และต่อมาก็ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี ต.สาวะถึอีก 1 วาระ 4 ปี นอกจากนั้นยังทำงานในภาคประชาสังคมเป็นคณะกรรมการของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน จ.ขอนแก่นด้วย 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท