เปิดแสดงนิทรรศการ 'ห่าง/หาย' เนื่องในวันผู้ถูกบังคับสูญหายสากล 30 ส.ค. พี่สาว 'วันเฉลิม' เผยน้องชายหายตัวจะครบ 90 วันแล้วแต่ทั้งรัฐไทย-กัมพูชาต่างไม่สนใจใยดีที่จะอำนวยความยุติธรรมหรือตามหาตัว ขณะที่แม่ 'สยาม ธีรวุฒิ' ผิดหวังบทบาทกรรมการสิทธิ
ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาแยกคอกวัว มีการจัดนิทรรศการ "ห่าง/หาย" เนื่องในวันผู้ถูกบังคับสูญหายสากล 30 ส.ค. โดย สปริงมู้ฟเมนต์ ร่วมกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย โดยเป็นนิทรรศการที่เน้นประสบการณ์ของผู้ชม ได้ฟัง ได้รู้สึก ได้มีส่วนร่วม มีการแสดงโปสเตอร์ภาพผู้ถูกบังคับสูญหาย และนำเสนอเสียงของญาติผู้ถูกบังคับสูญหายด้วย
นอกจากนี้มีการอ่านกวีโดย พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือ "พ่อน้องเฌอ" และการแสดงดนตรีของวงสามัญชน ขึ้นเล่นเพลงโดยสวมหน้ากากใบหน้าผู้สูญหาย ได้แก่ สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์, สยาม ธีรวุฒิ, และวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์
ขณะที่ในช่วงเสวนา วจนา วรรลยางกูร บุตรสาว วัฒน์ วรรลยางกูร นักเขียนผู้ลี้ภัยทางการเมือง กล่าวเคารพและชื่นชมในความกล้าของญาติผู้ถูกบังคับสูญหายทุกคน พวกเขาเหล่านี้ต้องการรู้ความจริงและพยายามค้นหาญาติ ท่ามกลางความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งปัญหาเกิดจากความอยุติธรรมและโครงสร้างสังคม ที่ทำให้การพูดความจริงหรือตามหาคนที่หายและเรียกร้องความยุติธรรมต้องเผชิญกับอันตรายหรือกระทั่งอาจถูกอุ้มหายเสียเอง และคำถามสำคัญคือสังคมไทยไม่ควรปล่อยให้เรื่องลักษณะนี้เกิดขึ้น
ส่วนกัญญา ธีรวุฒิ แม่ของสยาม ธีรวุฒิ ที่ถูกบังคับสูญหาย กล่าวว่า ไม่ควรมีการตั้งข้อหาหรือยัดคดีร้ายแรง หรือใช้ความรุนแรง และอุ้มหายผู้มีความคิดแตกต่างทางการเมือง นอกจากนี้แม่ของสยามยังกล่าวถึงความไม่กระตือรือร้นหรือใส่ใจคนสูญหายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) อีกด้วยด้วย
ขณะที่สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของ "วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" กล่าวถึงกรณีการหายตัวไปของวันเฉลิมเมื่อเดือนมิถุนายนนี้ว่า การหายตัวไปของน้องชายเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่สนใจใยดีของทั้งรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ในเรื่องของการอำนวยความยุติธรรมหรือช่วยดำเนินการตามหาตัวผู้สูญหาย
กรณีของรัฐไทยเอง เรื่องนี้สะท้อนว่าความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยได้ก่อตัวขึ้นเยอะมากๆ เพราะผ่านมา 90 วันแล้ว ทางการไทยยังไม่มีคำตอบใดๆให้กับทางครอบครัวเลย
สิตานันท์กล่าวด้วยว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้โลกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย และขอให้ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้ตนหลังจากนี้ที่จะทำให้ดีที่สุดในการตามหาตัว "วันเฉลิม" และตีแผ่ให้สังคมหรือว่าอะไรเกิดขึ้นกับวันเฉลิม โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบหรือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่ามีคนไทยถูกอุ้มหายไม่ได้
ด้านพะเยาว์ อัคฮาด หรือ "แม่น้องเกด" แม่ของกมนเกด อัคฮาด ที่เสียชีวิตหลังเหตุสลายการชุมนุมที่วัดปทุมวนามรามเมื่อ 19 พฤษภาคม 2553 กล่าวถึง คดีความของลูกสาวที่ไม่คืบ และยังถูกโอนมาจากศาลยุติธรรมปกติหรือศาลพลเรือนมาอยู่ที่ศาลทหาร
ขณะที่ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา คนไทยทนนิ่งและปล่อยให้รัฐบาลสืบทอดอำนาจรัฐประหารบริหารประเทศ กระทั่งคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาขับไล่ ซึ่งแสดงว่าคนรุ่นใหม่ไม่ยอมทนอยู่ภายใต้อำนาจรัฐแบบนี้ อย่างที่ "คนเสื้อแดง" ไม่ยอมทนและลุกขึ้นสู้มาแล้ว จึงอยากเรียกร้องให้ "คนเสื้อแดง" และประชาชนที่รักประชาธิปไตยรักความเป็นธรรม ต้องออกมาปกป้องเยาวชนนักศึกษา โดยไม่ชี้นำ แต่ให้การสนับสนุนและให้คำปรึกษาเท่านั้น
สิรินทร์ มุ่งเจริญ กลุ่มสปริงมูฟเมนต์ ในฐานะผู้จัดนิทรรศการ "ห่างหาย"
ขณะที่สิรินทร์ มุ่งเจริญ กลุ่มสปริงมูฟเมนต์ ในฐานะผู้จัดนิทรรศการ "ห่าง/หาย" กล่าวว่า นิทรรศการวันนี้ สปริงมูฟเมนต์ร่วมกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย เป็นนิทรรศการที่เน้นประสบการณ์ของผู้ชม ได้ฟัง ได้รู้สึก ได้มีส่วนร่วม
ที่ทุกคนมารวมตัววันนี้เพราะวันผู้ถูกบังสูญหายมีความสำคัญ คนที่มาวันนี้เป็นเพื่อน เป็นญาติของผู้สูญหาย และอยากให้นึกถึงผู้สูญหายในฐานะคนที่ต่อสู้มา ไม่ใช่เหยื่อ เขาทำในสิ่งที่เขาเชื่อ แล้วรัฐทำให้เขาหายไป แต่เราจะไม่ลืม เรามาที่นี่เพื่อจำเขา
ขณะที่ สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ 'จ่านิว' อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงประเด็นการอุ้มหายว่า มีคนเคยพูดกันว่าทนายสมชายจะเป็นการอุ้มหายครั้งสุดท้าย ปี 2553 จะเป็นการฆ่ากันทางการเมืองครั้งสุดท้าย แต่ไม่มีหลักประกันอะไรว่าทั้งหมดจะเป็นครั้งสุดท้าย ในหน้าหนึ่งเขาเหมือนจะให้รัฐธรรมนูญ แต่อีกหน้าเขาก็อุ้มหายผู้ลี้ภัยทางการเมืองไม่จบสิ้น ถ้าไม่มีคนออกมาเรือนหมื่นแบบครั้งที่ผ่านมา เขาทำอีกแน่ เราต้องไม่หยุดพูด หยุดตามหาความจริง จนกว่าจะรู้ว่าใครเป็นคนทำ