ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ ๒๑ ต.ค. ๕๑ เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. กลุ่มชาวบ้าน กลุ่มอนุรักษ์ลำเชียงทา จ. ชัยภูมิ ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ หากมีโครงการก่อสร้างเขื่อนโป่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ และเป็นเครือข่ายในสมัชชาคนจนจำนวนประมาณ ๕๐ คน ได้นำรถสิบล้อมาจอดปิดทางเข้าสำนักงานโครงการชลประทานชัยภูมิแล้วเปิดเวทีปราศรัย กรณีที่ นายปฤหัส วงศ์ชัยภูมิ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานชัยภูมิให้ข้อมูลกับคณะอนุกรรมาธิการการชลประทาน แหล่งน้ำ และที่ดินเพื่อการเกษตร ในคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ว่า ปัญหาของโครงการเขื่อนโป่งขุนเพชรเกิดจากชาวบ้านอยากได้เงินค่าชดเชยเพิ่มขึ้น และชาวบ้านเป็นเพียงคนส่วนน้อยที่คัดค้าน
ทั้งนี้ การผลักดันโครงการเขื่อนโป่งขุนเพชรเริ่มมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ ในระยะแรกๆ กรมชลประทานไม่เคยให้ข้อมูลกับชาวบ้าน และไม่เคยถามความคิดเห็นของชาวบ้าน และได้บอกกับชาวบ้านว่าจะไม่มีการชดเชยความสูญเสียของชาวบ้านโดยอ้างว่าเป็นเขื่อนขนาดเล็ก ซึ่งชาวบ้านก็ได้รวมตัวกันเพื่อรักษาสิทธิ และเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการ
อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ ก.ย. ๔๘ และ ๑๙ มิ.ย. ๕๐ ให้มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสังคม และได้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันแล้ว โดยผู้อำนวยการโครงการชลประทานชัยภูมิก็ได้ร่วมประชุมอยู่ด้วย
"วันนี้พวกเราจึงต้องการให้กรมชลฯได้รับรู้ไว้ว่า ปัญหาไม่ได้เกิดจากชาวบ้าน แต่กรมชลฯทำไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก เราจะไม่ยินยอมหาก การดำเนินการไม่มีส่วนร่วมของชาวบ้าน ซึ่งเมื่อเช้าเราได้ส่งหนังสือถึงประธานวุฒิสภาเพื่อขอเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งท่านรอง ผอ.กอ.รมน.ชัยภูมิ รับหนังสือไว้และรับปากว่าจะดำเนินการต่อให้"
จนกระทั่งเวลาประมาณ ๑๑.๔๕ น.ชาวบ้านจึงนำเอาหุ่นที่ติดป้าย "กรมชลประทาน" มาวางที่หน้าประตูทางเข้าสำนักงานโครงการฯ แล้วจุดไฟเผา พร้อมกับสาปแช่ง ก่อนจะเดินทางกลับ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)