Skip to main content
sharethis

เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุสลด รุ่นพี่โรงเรียนโปลีเทคนิค กรุงเทพมหานคร นำนักศึกษา ปวช. ปี 1 และ ปี 2 ของสถาบันไปจัดกิจกรรมรับน้อง บริเวณชายหาดบังกะโล หาดวงจันทร์ หมู่ 2 ต.หาดเจ้าสำราญ อ.เมือง จ.เพชรบุรี และบังคับให้รุ่นน้อง ปวช. ปี 1 ทำกิจกรรมล้อมวงกอดคอและทิ้งน้ำหนักตัวให้ศีรษะลงกระแทกกับพื้นหาดทราย หรือที่เรียกว่า "ทิ้งดิ่ง" จำนวนหลายสิบครั้ง จนทำให้นายนิโรจน์ศักดิ์ หรือโอ อินทโชติ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/2 ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นักศึกษาชั้น ปวช. ปี 1 แผนกช่างไฟฟ้ากำลัง ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะสมองบวมและมีเลือดคั่งในสมอง แพทย์โรงพยาบาลเมืองเพชร-ธนบุรี ต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ล่าสุดยังไม่ได้สตินอนเป็นเจ้าชายนิทรา เหตุเกิด เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา



เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ต.ท.ชัยยุทธ ถมยา สารวัตรใหญ่ (สวญ.) สภ.หาดเจ้าสำราญ เปิดเผยว่า ล่าสุดพ.ต.ท.สังวาลย์ สวัสดิมงคล สารวัตรเวรสอบสวนได้สอบพยานที่เกี่ยวข้องและขออนุมัติศาลจังหวัดเพชรบุรีออกหมายจับ น.ส.ณัฐกาญจน์ ศรีคลัง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/332 ต.บางคูรัต อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นักเรียนรุ่นพี่ที่จบการศึกษาไปแล้ว และขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ที่ "อุเทนถวาย" (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย) ซึ่งมาร่วมจัดกิจกรรมรับน้องในครั้งนี้ เนื่องจากพยานระบุว่า เป็นผู้ออกคำสั่งให้รุ่นน้องทั้งหมด "ทิ้งดิ่ง" จนเกิดเหตุสลดใจดังกล่าว โดยแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุม น.ส.ณัฐกาญจน์เพื่อดำเนินคดีแล้ว เบื้องต้น น.ส.ณัฐกาญจน์ยังให้การปฏิเสธ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสอบสวน ตำรวจ สภ.หาดเจ้าสำราญ ได้ควบคุมตัว น.ส.ณัฐกาญจน์ไว้ในห้องควบคุม จนเวลา 17.00 น .ยังไม่มีญาติหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาแสดงตัวเพื่อยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ทำให้น.ส.ณัฐกาญจน์ต้องถูกคุมตัวและนอนอยู่ในห้องขัง ส่วนอาการล่าสุดของนายนิโรจน์ศักดิ์ยังไม่รู้สึกตัว ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์ดูอาการอย่างใกล้ชิด



ด้านนางนันทพร อินทโชติ มารดาของนายนิโรจน์ศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อตอนเย็นวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนและนายประสิทธิบิดาของนายนิโรจน์ศักดิ์ได้ประสานทีมแพทย์เคลื่อนย้ายนายนิโรจน์ศักดิ์ออกจากโรงพยาบาลเมืองเพชร-ธนบุรี ไปรักษาอาการต่อเนื่องที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ เนื่องจากตั้งแต่เหตุการณ์เกิดขึ้นยังไม่มีรุ่นพี่ที่เป็นผู้นำการจัดกิจกรรมรับน้องมาแสดงความเสียใจ หรือโทรศัพท์มาสอบถามแสดงความห่วงใยกับลูกชายแม้แต่คนเดียว



"การผ่าตัดสมองรักษาตัวลูกเพื่อยื้อชีวิต และการรักษาพยาบาลในวันแรกที่โรงพยาบาลเมืองเพชร-ธนบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชน วันแรกใช้ค่ารักษาไปกว่า 86,000 บาท ครอบครัวตนมีฐานะเพียงปานกลางไม่ได้ร่ำรวย เกรงว่าจะจะแบกรับค่ารักษาไม่ไหว จึงต้องย้ายลูกชายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ ซึ่งเป็นของรัฐบาลต่อ ขณะนี้อาการของลูกชายยังไม่ได้สติ แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง แต่อาการยังทรงตัว อยากให้รุ่นพี่และโรงเรียนมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง" นางนันทพรกล่าว



ด้านนางศลีนา วงศ์วิริยะ ผู้อำนวยการกลุ่มงานโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานจากทางโรงเรียน เนื่องจากเป็นวันหยุดและอยู่ในช่วงปิดภาคเรียน แต่ในวันที่ 24 ตุลาคม จะสอบถามไปยังโรงเรียน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปว่า นักศึกษาที่ก่อเหตุไปทำกิจกรรมรับน้องจริงหรือไม่ หรือเป็นการไปเที่ยวกันเอง เนื่องจาก สช.มีหนังสือแจ้งไปยังสถานศึกษาอาชีวศึกษาเอกชนทุกแห่งแล้วว่า ห้ามมีการจัดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่อย่างเด็ดขาด หากพบว่ามีอาจารย์รู้เห็นก็จะเอาผิดทางวินัยกับอาจารย์และโรงเรียน โทษฐานที่ไม่ควบคุมดูแลนักศึกษาปล่อยให้ออกไปทำกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่จนเกิดเหตุน่าเศร้าสลดขึ้น ขณะเดียวกัน สช.ยินดีจะช่วยเหลือครอบครัวนักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่


 


 


........................
ที่มา
: มติชนออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net