Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

พลเมืองหัวอ่อน


 


การปรากฏตัวของนายตำรวจผีเห็นคร้าม พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค ในเวทีการเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง สร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้กับพลเมืองหัวอ่อนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อท่านประกาศว่าจะใช้กำลังเข้าปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเพื่อชิงทำเนียบฯคืนให้กับรัฐบาลให้จงได้ ใครต่อใครในบ้านเมืองนี้ต่างพากันตีอกชกหัว เห็นทีสยามประเทศจะหลีกหนีการนองเลือดไม่พ้นเสียแล้ว สุดยอดราษฎรอาวุโสของไทย นพ.ประเวศ วะสี ถึงกับเตือนว่า พล.ต.อ.สล้าง กำลังจะนำไปสู่ความรุนแรง (รักหรอก จึงบอกให้) พล.ต.อ.สล้างไม่รู้หรือไงว่าฝ่ายพันธมิตรเขาครอบครองทำเนียบรัฐบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเป็นประชาธิปไตยที่สุด? คนเขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง


 


พลเมืองหัวอ่อนก็รักประชาธิปไตยและห่วงบ้านเมืองไม่น้อยไปกว่าราษฎรอาวุโส (แหวะ! คลื่นไส้ตัวเอง) จึงขออาจเอื้อมฝากคำเตือนไปถึง พล.ต.อ.สล้าง ด้วยเช่นกัน


 


1.ในเมื่อรัฐบาลก็ไม่เห็นจะสนใจเอาทำเนียบฯ คืนเลย แล้วพล.ต.อ.สล้างเดือดร้อนอะไรด้วยเล่า? พวกเขาอยู่ที่สนามบินดอนเมืองก็ดูสบายใจดี ทำงานได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะบินไปไหนก็แสนจะสะดวกสบาย ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าต่างชาติจะมองว่าเป็นพวก "เจ้าไม่มีศาล" (อีกนิดเดียวก็ได้เป็นรัฐบาลพลัดถิ่นแล้วนะนี่) ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าบากหน้าไปเจอผู้นำนานาชาติถึงปักกิ่งหรอก (รัฐประหารยังไม่กลัวเลย เรื่องทำเนียบฯ จิ๊บจ๊อย)


 


2.พล.ต.อ.สล้าง และนปช.ควรมองฝ่ายพันธมิตรฯ อย่างเข้าอกเข้าใจให้มากกว่านี้ อีกไม่นานก็จะถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว เป็นธรรมเนียมที่จะต้องมีการจัดงานสโมสรสันนิษบาตเฉลิมพระเกียรติในทำเนียบรัฐบาล ฝ่ายพันธมิตรฯและบรรดาแม่ยกของเขาย่อมปรารถนาจะเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้เสียเอง เรื่องอะไรจะปล่อยให้พวกระบอบทักษิณที่มุ่งทำลายราชบัลลังก์มาจัดงานอันทรงเกียรตินี้ (โอ..รับไม่ได้ รับไม่ได้!!!) ต้องให้คนที่เทิดทูนราชบัลลังก์ยิ่งชีวิตอย่างพวกพันธมิตรนี่แหละทำเอง และเชื่อเถิดว่าแม่ยกของพันธมิตรก็คงยินดีปรีดาเช่นกัน


 


3.ข้อดีประการสำคัญของการให้พันธมิตรฯ เป็นเจ้าภาพจัดงานสโมสรสันนิษบาตฯ ก็คือ ช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินอีกด้วย ปล่อยให้ ฯพณฯ ท่านสนธิและพวกแม่ยกควักกระเป๋าเสียให้เข็ด ตอนนี้สึนามิเศรษฐกิจกำลังโถมเข้าไทยเป็นระลอก ๆ เราจึงควรช่วยกันกราบขอบพระคุณ ฯพณฯ ท่านสนธิ ที่เมตตาให้รัฐบาลเก็บเงินไว้ช่วยชาวนาชาวไร่ (ไหนจะต้องประกันราคาข้าว ราคาอ้อย รับรองอีกไม่กี่วัน พวกมันสำปะหลัง สับปะรด สวนปาล์ม ฯลฯ ต้องแห่ตามกันออกมาแน่ๆ ยังไม่อยากคิดถึงพวกโรงงานทอผ้า รองเท้า ของเล่น แบ็งใหญ่เล็ก... เฮ้อ!) ไหนๆ ก็ปล่อยให้อยู่มาได้จนป่านนี้แล้ว ก็ให้เขาอยู่ต่อจนกว่างานจะเลิกก็แล้วกัน นะ... นะ


 


4.พล.ต.อ.สล้างรับประกันได้ไหมว่าสิ่งที่ตนเองกำลังจะทำนี้ จะไม่กลายเป็นการช่วยหาคะแนนสะสม หรือสร้างความชอบธรรมให้กับฝ่ายพันธมิตรอีก ถ้าไม่ได้ ขอความกรุณาใต้เท้าฯอย่าทำเลยขอรับกระผม


 


เมื่อคราวล้อมรัฐสภาก็ทีหนึ่งล่ะ ผู้นำที่สั่งให้คนของตัวเองไปตาย แต่ตัวกลับหลบอยู่แต่ในทำเนียบ กลับได้คะแนนสะสมล้นหลาม โปรดรู้ไว้ด้วยว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับฝ่ายพันธมิตรฯ พวกแม่ยกของพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ พลเมืองอาวุโส และองค์กรสิทธิมนุษยชนจะช่วยกันรุมเหยียบท่านสล้างและพรรคพวกจนมิดแผ่นดิน (พวกนี้น่ากลัวกว่าพันธมิตรอีกนะ ฮึ่ม!)


 


เอ...ชักสงสัยแล้วว่า ท่านสล้างเป็นแนวร่วมมุมกลับของพันธมิตรฯหรือเปล่านี่ (ใครช่วยโทรเช็ค พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ให้หน่อย)


 


5.แต่ถ้าท่านสล้างทนไม่ได้ ยังงั้ย ยังงัยก็รับไม่ได้ที่เห็นพวกที่เหยียดหยามชายชาติตำรวจยังคงลอยนวลอยู่ได้ ก็ขอเสนอให้ท่านใช้วิธีการที่ท่านถนัด เอาแบบ "โจ ด่านช้าง" [1] นัดหมายพวกผู้นำพันธมิตรไปเจอ ณ กระท่อมปลายนาที่ไหนสักแห่ง ใน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี (รับรองว่าแค่เอ่ยชื่อ "โจ ด่านช้าง" ผู้นำพันธมิตรก็สะท้านแล้ว)


 


อ๊ะ อ๊ะ...โปรดอย่าเข้าใจพลเมืองหัวอ่อนผิด! เขาไม่ใช่พวกนิยมความรุนแรงนะ ไม่ได้บอกให้ใครฆ่าตัดตอนใครทั้งนั้น แต่ให้นัดไปคุยกันตัวต่อตัว แบบลูกผู้ชายแท้ๆ (ลูกผู้หญิงแบบคุณอัญชลีจะไปด้วยก็ไม่ว่าอะไร) ถ้อยคุยถ้อยอาศัยกัน แต่ห้ามเอามวลชนไปเป็นโล่มนุษย์ให้กับตัวเองโดยเด็ดขาด!!! ลมเย็นๆ ชายทุ่งในต้นคิมหันตฤดู ผสมไวน์ราคาแพงจากฝรั่งเศส (ของโปรดเฮียลิ้มขอรับ อย่าลืมหนีบไปสักลังสองลังล่ะ) อาจทำให้ท่านผู้นำทั้งหลายคลายความบ้าระห่ำลงได้บ้าง เผื่อติดใจ จะได้ไม่ต้องกลับเข้ากรุงเทพฯ อีกเลยไง แค่นี้เราก็จะได้ทำเนียบคืนโดยไม่ต้องมีใครเลือดตกยางออก และท่านสล้างก็จะได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษรักไม่ต้องรบตัวจริงของจริง


 


ด้วยรัก แต่ไม่อยากผูกพัน


 


………………………………………………………………………..


 


[1] คดี "โจ ด่านช้าง" และพวกรวม 6 คน ถูกวิสามัญฆาตกรรมในคดีค้ายาบ้าในปี 2540ดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การนำของ พล...สล้าง คดีนี้เป็นข่าวใหญ่เพราะการวิสามัญฯเกิดขึ้นในขณะที่มีผู้สื่อข่าวจำนวนมากสังเกตการณ์อยู่รอบบริเวณที่เกิดเหตุ หลังการยิงต่อสู้กับตำรวจและยอมมอบตัว คนทั้ง 7 ถูกสวมกุญแจมือและนำกลับเข้าไปในกระท่อม สักครู่เกิดเสียงปืนขึ้นหลายนัด ทั้ง 7 คนเสียชีวิต ตำรวจอธิบายว่าพวกเขา "พยายามต่อสู้กับเจ้าหน้าที่" และ"เป็นการป้องกันตนเอง" คดีนี้ไม่สามารถเอาผิดกับเจ้าหน้าที่คนใดได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net