Skip to main content
sharethis


"สมศักดิ์ โกศัยสุข" เรียกร้องความเป็นธรรมให้ "สมชาย" การ์ดพันธมิตรถูกวิสามัญ สะท้อนบ้านเมืองป่าเถื่อน ตอก "โคทม" อย่าฉวยโอกาสตีกิน เอาความดีให้ตัวเอง เย้ยกลุ่ม "3 หยุด" เป็น "วรัญชัย" ทางวิชาการ คิดคำแปลกเพราะอยากออกสื่อ ไล่ให้ไปบอก นปก. หยุดเคลื่อนไหว ก่อนลามปามด่านิธิหยาบคาย "สมเกียรติ" ชี้พวกสานเสวนาเป็น "ขบวนการอึ่งอ่าง" "อมร อมรรัตนานนท์" ท้านักวิชาการที่ไม่ร่วมพันธมิตร ให้ไปร่วมกับ นปก.


 


"สมศักดิ์" ยัน "สมชาย" ถูกวิสามัญสะท้อนบ้านเมืองป่าเถื่อน


วานนี้ (27 ต.ค.) เวลาประมาณ 21.45 น. หลังจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัยเสร็จแล้ว นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยต่อ โดยกล่าวถึงการที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมนายสมชาย ศรีประจันต์ การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยนายสมศักดิ์ยืนยันว่านายสมชายเป็นคนมีความประพฤติดี จากการสอบถามครอบครัวและเพื่อนบ้านยืนยันว่า ภรรยาขายอาหารในหมู่บ้านได้วันละ 200-300 บาท และกำลังผ่อนบ้านหลังเล็กๆ เดือนละ 5,000 บาทได้ 2 ปี เข้าเวรกับการ์ดพันธมิตรตรงเวลา แต่วันนี้เขาถูกกล่าวหาโดยตำรวจว่ามียาเสพย์ติดและถูกยิง นายสมศักดิ์ยืนยันว่าคนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้อง สมมติว่าเขาเกี่ยวข้อง แต่เขาไม่มีปืน คุณไปยิงเขาทำไม คุณไม่มีสิทธิยิงคน ต้องสอบสวน ถ้ามีโทษประหารชีวิตก็ว่าไปตามยุติธรรม


 


"นี่แหละที่เรียกว่ารัฐบาลทรราชตำรวจเถื่อนบ้านเมืองมันป่าเถื่อน รัฐบาลไม่คิดถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชน แล้วยังหน้าด้านบอกว่ารักษาประชาธิปไตย ไอ้บ้าเอ้ย" นายสมศักดิ์กล่าว


 


 


ประณามว่าผู้ว่า กกท. เป็น นปก. เหตุอนุมัติสนามกีฬาหัวหมากจัดความจริงวันนี้


กับกรณีที่ นปช. จะใช้สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานที่หัวหมากจัดรายการ "ความจริงวันนี้" ในวันที่ 1 พ.ย. นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลอนุมัติให้ใช้เสียด้วย ขอถามผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยว่าอยู่กับ นปก. หรือเปล่า ถ้าผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยสนับสนุน นปก. ต้องให้สหภาพการกีฬาแห่งประเทศไทยต้องไล่มันออกไปด้วย นั่นมันสนามกีฬาเอาไว้เล่นกีฬา ไม่ใช่เอามานั่งด่าจาบจ้วงเบื้องสูง และเอาพวกขายชาติมาถ่ายทอด เอานักโทษหนีศาลโกงชาติมาออก นี่หรือหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่เข้ามาบริหารประเทศเพื่อพี่เมียตัวเองล้วนๆ ไม่มีอะไรปน


 


 


อัด "โคทม" จัดสานเสวนา เป็นนักฉวยโอกาสทางสังคม


นายสมศักดิ์กล่าวว่าวันนี้มีนักวิชาการไอ้บ้าไอ้บอออกมาเคลื่อนไหว อย่างที่น้องสนธิบอก ไม่ว่าจะเป็นนายโคทม อารียา ไอ้หมอนี่เป็นผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล คนนี้ผมรู้จักนี้ เรียกว่าเป็นนักหากินทางสังคมคนหนึ่ง เริ่มตั้งแต่ ครป. ที่ต่อมาพิภพ ธงไชย สุริยะใส มาอยู่ ลองย้อนรอยดูสิว่าสมัยโคทมทำมาหากินอย่างไร หาเงินมาแบบไหน รายนี้ก็เที่ยวขอเงินจากที่ต่างๆ มาโดยตลอดไม่เคยทำอะไรตามวิชาชีพที่จบวิศวะ แต่มาทำมาหากินทางสังคมอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เรานี่ต่อสู้สันติวิธี ใช้สิทธิรัฐธรรมนูญ แต่กลับมาสัมมนากันแล้วบอกว่าหยุดปะทะนะ แล้วเราต้องสันติวิธี แล้วค่อยเจรจา แล้วทำตัวเป็นคนกลาง ฉวยโอกาสมาโดยตลอด เป็นนักฉวยโอกาสที่ผมเรียกว่าพวกคอรัปชั่นทางสังคม


 


โดยที่ก่อนหน้านี้ นักวิชาการเหล่านี้ ไม่เคยออกมาพูดเลย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ตำรวจใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมจนมีคนเจ็บ-คนตาย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม นายโคทมในฐานะนักสันติวิธี ไม่เคยออกมาพูดว่า เคยออกแถลงการณ์ไหมว่าใครฆ่าประชาชน ใครรุนแรง ไม่เคยพูดเลย หรือในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ฆ่าตัดตอนกว่า 2,500 ศพ หรือกรณีตากใบ ก็ไม่เคยออกแถลงการณ์หรือพูดอะไร นอกจากนี้ การที่ทักษิณ โกงกินภาษีประชาชน ก็ถือเป็นความรุนแรงอย่างโหดเหี้ยมทางเศรษฐกิจเช่นกัน ขณะเดียวกัน ยังมีการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วย ซึ่งนายโคทมเอง เคยเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำไมไม่ออกมาพูด ที่นี้รู้แล้วใช่ไหมนักวิชาการ นปก. ก็มี


 


 


เย้ยกลุ่ม "3 หยุด" เป็น "วรัญชัย" ทางวิชาการ คิดคำแปลกๆ เพราะอยากออกสื่อ    


ส่วนนายประจักษ์ ก้องกีรติ อยู่รัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์เสียด้วย บอกว่าต้องมี "3 หยุด" มาละ 3 หยุด พยายามหาคำมาพูด 9 ต้อง 2 ไม่ 7 ห้าม 3 ต้อง มั่ว ไอ้นี่มา "3 หยุด" ไม่รู้จะไปไหน ก็ให้แปลกๆ ไว้ ไม่เช่นนั้นหากินตามหน้าหนังสือพิมพ์ไม่ได้ ไอ้นี่ต่อไปก็เป็น "วรัญชัย ทางวิชาการ"


 


เขาบอว่าต้องหยุดให้ท้ายพันธมิตรฯ หยุดเคลื่อนไหว และเราต้องหยุดนำมวลชนปะทะกัน นี่ "3 หยุด" นี่คือสันติวิธีของเขา ก็มึงหยุดก็หยุดไป พวกกูไม่หยุดมันกีดกบาลใครน่ะ พวกนี้นะครับเขาเรียกว่าพวกบ้าน้ำลาย ขอให้พูด ขอให้เป็นข่าว พอมีหนังสือพิมพ์ลงข่าว มันตัดเก็บไว้นะครับ สักสิบปีมันจะเอามาดูกาลครั้งหนึ่งกูมีชื่อในหนังสือพิมพ์ หาแดกแบบนี้เอง หากินง่ายๆ โดยไม่ต้องลงทุนอะไร


 


 


ลั่นรู้ชั่วดี ไม่หยุดเคลื่อนไหวเพราะคนไม่เคลื่อนไหวคือคนที่ตายแล้ว


หยุดให้ท้ายพันธมิตรฯ แปลว่าอะไรวะ คิดลึกๆ แล้วชักโมโหเหมือนกัน ทำไมพวกเราเห็นท้ายไม่ได้หรือไงวะ มึงพูดยังไง พูดแปลกๆ พูดแบบนี้เหมือนหมิ่นประมาท คนอย่างเราไม่เคยเข้าทางท้าย เข้ามันข้างหน้าตลอดรู้ไว้ด้วย พวกเราสู้เดินหน้าตลอด เลยไม่เคยเข้าหลังขอให้รู้ไว้ด้วย แสดงว่าไม่รู้ใครถูก ใครผิด ใครชั่ว ใครดี


 


พูดมาได้อย่างไร หยุดเคลื่อนไหว ไปเรียนรัฐศาสตร์มาได้ยังไง คนที่ไม่เคลื่อนไหว ก็คือคนที่ตายแล้ว ใช่หรือเปล่าพี่น้อง มึงก็หยุดเคลื่อนไหวสิพรุ่งนี้ไม่ต้องเคลื่อนไหว นอนให้นิ่งไปเลยไม่ต้องไปไหน นะครับ แล้วนี่ยังเสือกออกมาแหกปากอย่างเดียว มันก็เคลื่อนไหวแล้ว พูดมาทำไม คิดว่าแน่นะบักหำ มาห้ามไม่ให้ปะทะ ทะเลาะ แล้วมันรู้หรือเปล่าว่าใครปะทะใคร เราอยู่เฉยๆ มีเพียง พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ที่บอกว่าจะเอาอาวุธพิเศษจากต่างประเทศมาถล่มเรา ตำรวจถล่มเราวันที่ 7 มึงรู้หรือเปล่า


 


 


ไล่ให้ไปบอก นปก. หยุดเคลื่อนไหว


แล้วที่บอกว่าจะต่อต้านความรุนแรง มึงไปหดหัวอยู่ที่ไหนวะ ไอ้เวร ใครส่งลูกหลานไปเรียนกับนักวิชาการแบบนี้จบออกมาลูกหลานเสื่อมหมดเลย เพราะครูเวรๆ ครูเลวๆ แบบนี้ จะไปสอนอะไรได้ มันไม่รู้เรื่องอะไร ขอให้ได้แหกปากพูดไปเรื่อยๆ หยุดการเคลื่อนไหว มันไม่รู้ว่าใครเคลื่อนไหว ใครรังแกใคร ใครต่อสู้โดยสันติวิธี หยุดเอามวลชนปะทะกัน มึงก็ไปพูดกับ นปก. สิ ไปบอก นปก. มึงจะชุมนุมที่ไหนก็ชุมนุมไป ทำไมจะต้องยกพวกมาตี มาทำร้ายพวกเรา เพราะอะไร ผมพูดเป็นครั้งที่ 100 แล้วนะว่าใครมารังแกเรามีสิทธิป้องกันตัวอย่างเต็มที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 แล้วสอนมันด้วย


 


"พวก นปก. พวกเถื่อนๆ มันไม่เท่าไหร่ นักวิชาการพวกนี้ทำให้คนสับสน กลายเป็นคนที่สร้างปัญหาให้สังคมไม่รู้ว่า อะไรถูก อะไรผิด อะไรชั่ว อะไรดี คนแบบนี้เป็นเด็กวัดยังเป็นไม่ได้ แล้วจะมาเป็นครูบาอาจารย์ได้ยังไง" นายสมศักดิ์กล่าว


 


 


พาดพิง "นิธิ" ชี้ถ้าอยู่แถวบ้านถูกยิงทิ้งแล้ว


นายสมศักดิ์ยังกล่าวพาดพิง ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการประวัติศาสตร์ และคอลัมน์นิสต์เครือหนังสือพิมพ์มติชน โดยบอกว่าถ้าชั่วอย่าไปสอนใคร โดยนายสมศักดิ์ยังกล่าวหาด้วยถ้อยคำหยาบคายและกล่าวเป็นภาษาถิ่นใต้ว่า "คนแบบนี้ถ้าเป็นบ้านผมเขายิงหัวทุ่ม (ยิงหัวทิ้ง) ไปแล้ว เขาไม่เอาไว้ เข้าไม่ให้ขึ้นบ้านเลย ถ้าเข้าบ้านเขายิงหัวทิ้งเลย"


 


นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้รัฐบาลได้เลื่อนการตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญไปอีกแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ เราไม่ยอมให้แก้เด็ดขาด ถึงแม้จะเลือกไปอีก และเตรียมจะเอามวลชนเสื้อแดงมาทำเนียบ เราก็พร้อมที่จะต้อนรับ ดังนั้น พี่น้องต้องเตรียมพร้อมรับมือตลอดเวลา ถ้าเขาไปสภาแก้รัฐธรรมนูญเมื่อไหร่เราต้องไปทันที เพราะเราต้องรักษาเป้าหมายว่าจะไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อนิรโทษกรรมให้กับพี่เมียตัวเอง


 


"วันนี้เขารังแกเรามากเหลือเกิน แต่เราทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น มาเมื่อไหร่ สู้กันเมื่อนั้น วันนี้หัวหน้าติดคุก แถมพูดโจมตีประเทศไทย ยังไม่รู้ใครผิดใครถูก คนเหล่านี้คือสัตว์เดรัจฉานดีๆ นี่เอง" นายสมศักดิ์กล่าว


 


 


พิภพชี้นักวิชาการสานเสวนาตีกิน ไม่กล้าพูดความจริงว่าปัญหาประเทศอยู่ไหน


ส่วนนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวว่า เมื่อวานนี้ประกาศนายโคทม อารียาว่า จะมีการจัดเสวนา 4 ฝ่าย ประกอบด้วย นปก. พันธมิตรฯ ฝ่ายค้าน และรัฐบาล แต่เราไม่ต้องการเสวนา เพราะเราต้องการให้ชี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผิดหรือถูกเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ทำผิดกฎหมาย ทุจริตคอร์รัปชั่น ละเมิดสิทธิมนุษยชน ฆ่าตัดตอน และสนับสนุนการใช้ความรุนแรงใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้ ฉะนั้นจะต้องชี้ว่า รัฐบาลทักษิณ คอร์รัปชั่นหรือไม่ แต่การเสวนากลับไม่ชี้อะไรเลย ถือว่าใช้ไม่ได้ เพราะนักวิชาการเหล่านั้นเป็นพวกตีกิน ไม่กล้าพูดความจริงว่าปัญหาของประเทศอยู่ตรงไหน


 


"ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศ ในรอบ 7 ปี ที่ผ่านมานั้น สร้างปัญหาอะไรบ้าง แต่นายโคทม ไม่เคยชี้ออกมาเลย ที่พูดมานี้ เพื่อจะบอกกับนายโคทม ว่า หลักไม่แม่น โดยในวันที่มีรัฐประการนั้น นายโคทม ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร วันนั้นผมค่อนข้างที่จะชื่นชม แต่กลับมากล่าวหา 5 แกนนำพันธมิตรฯ ว่า สนับสนุนการทำรัฐประหาร ผมถามว่า เอาข้อมูลมาจากไหน เพราะพวกผมปฏิเสธการทำรัฐประหารโดยการไม่รับตำแหน่งใดๆ เลยใน สนช. โดยเฉพาะ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งระบุชัดเจนว่า ไม่รู้ตัวว่าถูกเขาแต่งตั้ง แต่ พล.ต.จำลอง มีฐานะ มีชื่อเสียง ถ้าปฏิเสธจะเป็นเรื่องใหญ่ พล.ต.จำลอง จึงเอาเงินเดือนทั้งหมดบริจาคให้แก่กับกุศล"นายพิภพ กล่าว


 


 


โคทมต้านรัฐประหาร ไปเป็น สนช. ทำไม แนะบริจาคเงินเดือนแบบ พล.ต.จำลอง


นายพิภพ กล่าวอีกว่า ในเมื่อนายโคทม ต่อต้านการทำรัฐประหาร แล้วทำไมถึงไปรับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งมันขัดแย้งกันอย่างชัดเจน แต่นายโคทม ตอบกลับมาว่า การรับตำแหน่งเพราะไปทำตามหน้าที่ ตนจึงถามกลับไปว่า ในเมื่อต่อต้านการทำรัฐประหาร แล้วไปรับตำแหน่งเขาทำไม ที่สำคัญอยากรู้ว่า นายโคทม เอาเงินเดือน สนช. แสนกว่าบาทไปไว้ที่ไหน ทำไมถึงไม่บริจาคให้กับการกุศลเหมือน พล.ต.จำลอง


 


"นายโคทม อย่ามาใช้สารเสวนา เพราะนายโคทม ใช้สารเสวนามาตั้งแต่สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้ แต่ความขัดแข้งมันลงลึกไป แล้วนายโคทม ก็ล้มเหลวในการสารเสวนาที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ เพราะความรุนแรงยังคงมีอยู่จนบัดนี้ นอกจากนี้ นายโคทม ยังจับตัวละครผิด เพราะไปจับเอา นปช. กับพันธมิตรฯ มาเกี่ยวโยงกัน ทั้งๆ ที่พันธมิตรฯ ไม่เคยมอง นปช.อยู่ในสายตาเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นคือเหตุผลที่นายโคทม ล้มเหลวทางสันติวิธีมาโดยตลอด เพราะแยกแยะไม่ออกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และระบอบทักษิณ เป็นต้นเหตุของปัญหา ส่วน นปช.กับรัฐบาลนั้นเป็นเครื่องมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วจะให้เราไปคุยกับเครื่องมือได้อย่างไรแค่นี้ก็ไม่เข้าใจ" นายพิภพ ระบุ


 


นายพิภพ กล่าวอีกว่า ที่พันธมิตรฯ สู้อยู่นั้น สู้อยู่กับความถูกต้องคือ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ คอร์รัปชั่น ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และไม่ต้องเสวนากัน ที่สำคัญ อยากถามว่าทำไมนายโคทม และกระบวนการสันติวิธี ถึงไม่ประณามเรื่องนี้ว่า กระบวนการยุติธรรม เป็นเครื่องมือหนึ่งของกระบวนการสันติวิธีที่จะยุติปัญหาได้ ส่วนการยุติปัญหานั้น ไม่ใช่การยุติข้อขัดแย้ง เพราะปัญหายังไม่ตกไป ทำให้ความขัดแย้งในสังคมไทยจึงเกิดขึ้น แค่นี้ก็ไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของปัญหา


 


 


"สมเกียรติ" เย้ย "ขบวนการอึ่งอ่าง" ต้นตอทฤษฎีสานเสวนา


วานนี้ (27 ต.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ขึ้นปราศรัยบนเวที ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงกรณีที่วันอาทิตย์ (26) ที่ผ่านมา ณ หอประชุมใหญ่ กรมประชาสัมพันธ์ องค์กรภาคประชาชนประมาณ 170 องค์กร ได้จัดให้มีการอภิปราย "ยุติความรุนแรง แสวงสันติ ด้วยการสานเสวนา" โดยเรียกร้องให้มีการเจรจา 4 ฝ่ายระหว่าง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กลุ่มพันธมิตรฯ ฝ่ายค้าน และรัฐบาล


 


นายสมเกียรติ กล่าวว่า ตนในฐานะที่เคยเคลื่อนไหวร่วมกับองค์กรภาคประชาชนมานานนับสิบปี ไม่ว่าจะเป็นในฐานะที่ปรึกษาของสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ เครือข่ายเหล้าพื้นบ้าน สมาพันธ์ประมงพื้นบ้านภาคใต้ และอีกหลายองค์กร ได้มีการส่งคนมาพูดคุยกับตนถึงกรณีดังกล่าวเช่นกัน แต่ตนไม่เห็นว่าจะมีหนทางใดที่พันธมิตรฯ จะพูดคุยกับฝ่ายระบอบทักษิณได้


 


"เขาบอกว่าเขาต้องการให้เราไปสานเสวนากับทักษิณ ชินวัตร สมชาย เราก็บอกว่าเรายินดีส่งสารวัตรจ๊าบไป ... คนกลุ่มนี้ผมรู้จักทุกคน เบื้องหน้าเบื้องหลัง ไม่อยากจะพูดถึง แต่ถ้ายังเป็นขบวนการอึ่งอ่างคางคก เวลาไม่มีฝนก็อยู่ในรู พอฝนตกทั่วฟ้าแล้วก็ออกจากรูมาร้อง อึ่งอ่าง อึ่งอ่าง อึ่งอ่าง ปกติไม่รู้ร้อนรู้หนาว พอเขาตีกันก็วิ่งมุดอยู่ในรู พอเขาจะชนะ ก็ออกมาร้อง อึ่งอ่าง อึ่งอ่าง อึ่งอ่าง ขอเจรจาด้วย" นายสมเกียรติ กล่าว พร้อมเปิดเผยด้วยว่า ในเดือนมีนาคม 2549 คนกลุ่มนี้นี่เองที่รับงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ให้มาพูดคุยกับพันธมิตรฯ แต่พอพันธมิตรฯ เสนอบุคคลที่จะเจรจาด้วยกลับบอกปัดไป


 


"ตอนที่ตั้งพันธมิตรฯ มาหนึ่งเดือนแล้ว ไอ้คนกลุ่มนี้แหละไปขอเราเจรจาที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ บอกว่าอยากให้คุณทักษิณมาพบ พวกเราก็บอกว่าไม่มีปัญหา โดยเราขอส่ง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ไปพบ แต่พวกเขาบอก โอ้ย ... ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา คนกลุ่มนี้นี่แหละ มีอธิการบดีประมาณ 4 มหาวิทยาลัย และมีนักสันติวิธีหนึ่งคนที่พี่พิภพ พูดถึงเมื่อสักครู่ ซึ่งตอนรัฐประหารออกมาแถลงใหญ่ว่าไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร แต่พอมีการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติกลับรับตำแหน่งเฉย"


 


"เราเรียกพวกนี้ว่า กลุ่มนักวิชาการสัมภเวสี บางคนก็เป็นเอ็นจีโอ นักพัฒนา ที่หาเงินต่างประเทศไปบำรุงบำเรอตัวเอง กู้เงินจากต่างประเทศมาทำแหนมวัว เจ๊งแล้วไม่ใช้คืน พอเราต่อต้านเงินกู้จากต่างประเทศ ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย พวกนี้ก็เอาเงินไปสร้างอะไรมากมาย สิบล้าน สามล้าน ห้าล้าน แล้วดันดัดจริตออกมาพูดว่า "ต้องสานเสวนา" แล้วพอเป็นกรรมการระดับชาติสององค์กรก็เบิกค่าเครื่องบินซ้อนกันในวันเดียวกันครับ" นายสมเกียรติเปิดโปง


 


 


แฉต้นตอสานเสวนา "พวกกลางกลวง"


ต่อมา นายสมเกียรติได้กล่าวว่า การสานเสวนา คือการเอาหลายๆ ฝ่ายมาสานใจกันแล้วก็เสวนา โดยที่มาของทฤษฎีสานเสวนานั้นเกิดจาก นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้และจัดงานสัมมนาด้วย ซึ่งตนก็เคยไปเข้าร่วมและตั้งคำถามต่อ นพ.วันชัย ในปัญหาหลายๆ ประเด็นถึงวิธีแก้ไขปัญหาของการสานเสวนา


 


"พอผมถามว่า เรื่องเขาพระวิหาร ปัญหาไทยกับเขมร เราจะเอายังไง เขาก็บอกว่าไม่มีปัญหาแบ่งกันคนละครึ่ง ที่เขมรรุกเราเข้ามา 4.6 ตารางกิโลเมตร ก็แบ่งกันคนละ 2.3 ตารางกิโลเมตร" นายสมเกียรติกล่าวติดตลก พร้อมระบุว่า กรณีอื่นๆ ที่เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน เช่น การคอร์รัปชันในเมกะโปรเจกต์ การจาบจ้วงเบื้องสูง การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กรณีม็อบ นปก. บุกบ้านป๋าเปรม กรณีรัฐบาลสั่งฆ่าประชาชน 7 ตุลาคม รวมถึงกรณีศาลตัดสินให้ พ.ต.ท.ทักษิณจำคุก 2 ปี ที่ผ่านมานั้นไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยการพูดคุยหรือเจรจากัน แต่ต้องแก้ด้วยการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใส ซึ่งพันธมิตรฯ ไม่เห็นหนทางว่าการสานเสวนาจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร ตราบใดที่บ้านเมืองยังปราศจากความยุติธรรม


 


พร้อมยังย้ำด้วยว่า กรณีที่ตนยกตัวอย่างเหล่านี้ไม่สามารถใช้วิธีการเสวนาเพื่อแบ่งผลประโยชน์ ดังเช่นการเจรจาแบ่งผลประโยชน์ทางธุรกิจ


 


 


เตือน "ดร.สุเมธ" เคยยกพระราชดำรัสแช่งคนทุจริต


นายสมเกียรติ กล่าวต่อถึงกรณีที่ นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวปาฐกถาในงาน สานเสวนาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าไม่อยากเห็นความรุนแรง และระบุว่าการที่ในสังคมจะมีความคิดความเชื่อที่แตกต่างกันไม่สำคัญ แต่จะต้องมีการพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาและหาทางออกร่วมกันไม่ใช่ใช้กำลังเพื่อชัยชนะ โดยระบุว่า


 


"ท่าน ดร.สุเมธ ท่านจำเรื่องโครงการขยะของ กทม.ได้ไหมว่า ท่านคิดต่อโครงการอย่างไร ท่านปฏิบัติการอย่างไร เราจำเป็นต้องเปิดเผยให้ท่านไหม ท่านลองพิจารณาดู ท่าน ดร.สุเมธ" แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว


 


พร้อมยกบทสัมภาษณ์ของนายสุเมธที่ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เมื่อเดือนตุลาคม 2546 ที่เปิดเผยถึงพระราชดำรัสกรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสาปแช่งผู้ทุจริตให้มีอันเป็นไป


 


"ดร.สุเมธ เคยกล่าวไว้ว่า ตั้งแต่รับใช้เบื้องพระยุคลบาท ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทรับใช้เรื่องการพัฒนามานาน อยู่ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมานาน มากกว่ายี่สิบปีไม่เคยมีครั้งใดที่พระองค์ทรงสาปแช่งให้คนทุจริตให้มีอันเป็นไป ดร.สุเมธ ท่านจำได้ไหม" นายสมเกียรติกล่าวพร้อมอัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อผู้ว่าฯ ซีอีโอเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2546 อันมีใจความว่า


 


"ถ้าทุจริตแม้แต่นิดเดียวก็ขอแช่งให้มีอันเป็นไป พูดอย่างนี้หยาบคาย แต่ว่าต้องให้มีอันเป็นไป แต่ถ้าไม่ทุจริต สุจริต และมีความตั้งใจมุ่งมั่น สร้างความเจริญ ก็ขอต่ออายุให้ถึง 100 ปี ใครมีอายุมากอยู่แล้ว ก็ขอให้แข็งแรง ความสุจริตจะทำให้ประเทศไทยรอดพ้นอันตรายภายใน 10 ปี เมืองไทยน่าจะเจริญ ข้อสำคัญต้องยึดความสุจริตให้สำเร็จ และไม่ทุจริตเสียเอง"


 


จากนั้น นายสมเกียรติกล่าวเตือนด้วยว่าเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลอาญาได้พิพากษาให้นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำคุกจากการทุจริตกรณีหลีกเลี่ยงภาษีการซื้อขายหุ้น บ.ชินวัตร คอมพิวเตอร์ และเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา ศาลฎีกาก็เพิ่งตัดสินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ จำคุกเป็นเวลา 2 ปี จากกรณีทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100 ซึ่ง ดร.สุเมธ ต้องตอบด้วยว่า จะให้พันธมิตรฯ ไปเจรจากับผู้ที่ทุจริตตามคำสาปแช่งของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ


 


"แม้น้องบอลจะมาเป็นแกนนำพันธมิตรฯ ในอีก 15 ปีข้างหน้า น้องบอลก็กระซิบบอกว่าจะไม่เจรจา และเราจะไม่เจรจากับคนบ้าครับ" ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวติดตลก


 


 


แฉใช้ภาษี ปชช.เกณฑ์คนร่วม 1 พ.ย.


นายสมเกียรติ กล่าวต่อถึงกรณีที่เมื่อปี 2549 ก่อนหน้าการรัฐประหารในเดือนกันยายน 2549 รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จัดให้มีการสัมมนาโดยเชิญองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 8,000 องค์กร สมาชิกประมาณ 80,000 คน มาที่วัดธรรมกาย โดยใช้เงินภาษีของประชาชนทั่วประเทศ เพื่อจัดให้ตัวเองขึ้นบรรยาย โดยระบุว่า กรณีวันที่ 1 พ.ย.ที่จะมีการจัดรายการความจริงวันนี้ ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานนั้นก็มีวิธีการจัดการที่คล้ายคลึง โดยจะมีการใช้เงินภาษีของประชาชนจ่ายค่าเสื้อแดง ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเกณฑ์คนเข้ามาในกรุงเทพมหานครเช่นเดียวกัน


 


"กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมามีการโยกย้ายอธิบดีกรมนี้ แล้วเอาคนของเจ๊แดงมาแทนเพื่อมารองรับการโอนเงินงบประมาณดังกล่าว" นายสมเกียรติ กล่าว พร้อมระบุว่า ทางพันธมิตรฯ จะปรึกษาคณะทนายเพื่อจัดการนำเรื่องนี้ฟ้องศาลปกครอง โดยนำหลักฐานทั้งหมดไม่ว่าจะหลักฐานทางการเงิน หลักฐานทางวัตถุ เอกสารสั่งให้มีการอบรม เพื่อให้ระงับการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการใช้เงินภาษีของประชาชนโดยมิชอบ


 


 


อมร ระบุถ้ามีผู้ใหญ่เสนอหน้าออกมาไกล่เกลี่ยแสดงว่าประชาชนใกล้ชนะแล้ว


หลังนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัยจบ นายอมร อมรรัตนานนท์ โฆษกพันธมิตรได้กล่าวว่าช่วงนี้มีขบวนการบิดเบือนเป้าหมายการชุมุมของพันธมิตร รวมทั้งเอาจุดเล็กๆ มาขยายวงแบบกำกวม เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง


 


ในขณะเดียวกันแกนนำของเราหลายคนได้ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ว่า ในขณะที่สถานการณ์ใกล้สู่จุดจบ การเมืองบ้านเรามักมีพวกที่เสนอหน้าออกมา ทำตัวเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นผู้ที่มีองค์ความรู้ มาพยายามไกล่เกลี่ย แต่พี่น้องครับทุกครั้งที่มีบรรยากาศแบบนี้ นั่นหมายถึงปัญหาใกล้จะจบแล้ว พี่น้องจำปี 2549 ได้ไหม กลุ่มคนพวกนี้ กลุ่มคนหน้าเดิมๆ ไม่ว่า อ.โคทม หรือนักสันติวิธีทั้งหลาย ก็จะออกมาในช่วงท้ายๆ พอออกมาได้ไม่เกินอาทิตย์หนึ่ง จบเกมเลย ประชาชนชนะอีกแล้วครับพี่น้อง


 


 


ชี้อย่าให้ราคา ท้านักวิชาการไม่ร่วมพันธมิตร ให้ไปร่วมกับ นปก.


ฉะนั้นอย่าไปสนใจให้ราคามาก ครั้งนี้ก็แค่มาเปิดโปงให้รู้ ใครยืนอยู่ตรงไหน คิดอะไร สิ่งที่พวกเขาพูดไป พูดแต่หลักการแต่ไม่มองข้อเท็จจริงว่าใครผิดใครถูก ข้อเท็จจริงแบบนี้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ถือเป็นการสร้างราคาขึ้นมาเพื่อที่จะแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวเอง


 


"ถ้าคุณไม่อยากมาชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล ผมขออนุญาตเชิญไปชุมนุมกับ นปก. เลย ลองเข้าไปนั่งดูสัก 15 นาทีสิ คุณจะเห็นบรรยากาศว่าแบบไหนว่าอะไรคือข้อเท็จจริง ถ้าคุณทนได้ 1 ชั่วโมง คุณก็แปรรูปเป็น นปก. ไปเลย แล้วอย่ามาอ้างความเป็นกลาง นี่กล้าท้าเลยอาจารย์โคทม ก็รู้จักกันอยู่ รักเคารพอาจารย์ แต่ทุกครั้งที่อาจารย์แสดงอะไรออกมา รู้ไหมครับอาจารย์มันกลายเป็นการขายของเก่า แล้วมันมีคำผวนซึ่งผมไม่สามารถพูดบนเวทีได้ น้องๆ เอ็นจีโอที่เคยเคารพอาจารย์เขาให้ฉายาอาจารย์ว่าอะไร อาจารย์ลองเอาไปคิดเอง ส่วนผมพูดไม่ได้ พูดแล้วโดนใบแดงแน่นอนครับ ฮ่าๆๆ" นายอมรกล่าว


 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


สนธิ" เจ็บใจ "ดร.สุเมธ" ทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง ลั่นถ้าสวนอีกพร้อมขุดอดีตมาแฉกลับ, 28/10/2551

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net