Skip to main content
sharethis

28 ต.ค.51   เอฟทีเอ ว็อทช์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการหมกเม็ดผลักดัน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ซึ่งเกี่ยวกับการทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ โดยเฉพาะข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) โดยกลุ่มเอฟทีเอ ว็อทช์ ระบุว่า รัฐบาลไม่ได้เปิดการมีส่วนร่วมในการร่างกฎหมายดังกล่าว แต่กลับผลักดันร่าง พ.ร.บ.ฉบับที่มีปัญหาหลายประการ จึงเรียกร้องให้ยุติการผลักดันกฎหมายดังกล่าวทันที และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ พ.ร.บ.นี้โดยเร็วที่สุด


 


ทั้งนี้ เนื้อหาที่น่าเป็นห่วงในร่างพ.ร.บ.มีหลายประการ เช่น รัฐบาลเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจเองว่าหนังสือสัญญาลักษณะใดบ้างที่จะต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา, สัญญาเงินกู้หรือเงินให้กู้ต่างประเทศ เช่นการกู้เงินจาก ไอ เอ็ม เอฟ หรือ การให้เงินกู้กับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่จำเป็นต้องผ่านรัฐสภา, หน่วยงานภาครัฐยังเป็นผู้ควบคุมและมีอำนาจจัดการและรายงานผลการรับฟังความเห็นประชาชน, จะไม่มีการจัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนแต่อย่างใดภายหลังการเจรจา


 


 


 






 


รัฐบาลหมกเม็ดผลัก พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 190


 


 


มาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันว่าด้วยการจัดทำหนังสือสัญญา ถือว่าเป็นมาตราที่มีความสำคัญ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เนื่องจากได้กำหนดหลักการสำคัญของกระบวนการเจรจาและการผูกพันพันธกรณีของประเทศกับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น การทำเขตการค้าเสรี (FTA) หรือการเจรจาปักปันเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น โดยหลักการสำคัญของมาตรา 190 นั้นประกอบด้วย  1) บทบาทที่ชัดเจนของรัฐสภาในการให้ความเห็นชอบหนังสือสัญญาที่มีความสำคัญ   2) ความโปร่งใสในการจัดทำหนังสือสัญญาเพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน   3) การมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อความรอบคอบและประสิทธิภาพในการเจรจา   4) การเยียวยาแก้ไขผลกระทบที่รวดเร็วและเป็นธรรม


 


อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญนั้นสามารถกำหนดได้เพียงหลักการและเนื้อหาบางส่วนเท่านั้น ส่วนรายละเอียดและขั้นตอนการปฏิบัติจริงจะปรากฏอยู่ในกฎหมายระดับรองลงมา


 


เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่กฎหมายที่ว่าด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม และความโปร่งใส กลับถูกร่างและผลักดันในที่มืด กีดกันผู้ส่วนได้ส่วนเสีย นักวิชาการ และประชาชน ไม่ให้มีส่วนร่วมแต่อย่างใด  ทั้งที่หลายฝ่ายได้พยายามจัดเวทีแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่หน่วยงานที่รัฐผิดชอบกลับไม่เคยเปิดเผยข้อมูลและปฏิเสธการเข้าร่วมมาโดยตลอด นอกจากนี้กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) ยังได้เคยยื่นหนังสือและเรียกร้องให้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการร่างกฏหมายฉบับนี้ ณ กระทรวงการต่างประเทศเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ


 


การกระทำของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแสดงให้เห็นว่าตั้งใจที่จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างหมกเม็ดและมีวาระซ้อนเร้น ดังปรากฏเป็นหลักฐานอยู่ในเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ. กระบวนการจัดทำหนังสือสัญญาฉบับนี้ของรัฐบาล เช่น


 


1) การกำหนดนิยามที่ชัดเจนว่าหนังสือสัญญาลักษณะใดบ้างที่จะต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา กลับมอบอำนาจให้เป็นการใช้ดุลยพินิจของรัฐบาลโดยคำแนะนำของกระทรวงการต่างประเทศ การกำหนดเช่นนี้จะสร้างปัญหาไม่หยุดหย่อน เนื่องจากความคิดเห็นที่แตกต่างระหว่างรัฐบาล และฝ่ายต่างๆ อาจต้องมีการยื่นศาลในทุกกรณีไป


 


2) สัญญาเงินกู้หรือเงินให้กู้ต่างประเทศ เช่นการกู้เงินจาก ไอ เอ็ม เอฟ หรือ การให้เงินกู้กับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่จำเป็นต้องผ่านรัฐสภา


 


3) หน่วยงานภาครัฐยังเป็นผู้ควบคุมและมีอำนาจจัดการและรายงานผลการรับฟังความเห็นประชาชน รวมถึงการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะก่อปัญหาด้านความไม่เป็นกลาง และการไม่ยอมรับจากสาธารณะ ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว


 


4) จะไม่มีการจัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนแต่อย่างใดภายหลังการเจรจาเมื่อได้ร่างหนังสือสัญญาก่อนการเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐสภา อีกทั้งการรับฟังความคิดเห็นในขั้นตอนอื่น จะเป็นการใช้เว็บไซต์ซึ่งประชาชนจำนวนมากไม่อาจเข้าถึง


 


ด้วยเหตุนี้ เอฟ ที เอ ว็อทช์ ขอเรียกร้องให้รัฐบาล


 


1) ยุติการเสนอกฎหมายรองรับมาตรา 190 นี้ในทันที


 


2) จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นประชาชนอย่างกว้างขวางต่อ พ.ร.บ. นี้โดยเร็วที่สุด


 


3) พิจารณาและเผยแพร่คำแนะนำของอนุกรรมการพิจารณากฎหมายว่าด้วยขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญาฯ ที่ตั้งขึ้นตาม รัฐธรรมนูญ


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net