Skip to main content
sharethis

กม.เอื้อมไม่ถึงยกคำร้อง"วิฑูรย์"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติยกคำร้องเรียนนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่นายสมบัติ รัตโน อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคพลังประชาชน (พปช.) ยื่นร้องคัดค้านผลการเลือกตั้ง ส.ส.อุบลราชธานี เขต 1 โดยกล่าวหานายวิฑูรย์ และพวกกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยแจกตั๋วเข้าชมภาพยนตร์ ที่โรงภาพยนตร์เนวาด้า ขณะที่มีมติให้ใบเหลือง 2 ส.ส.อุบลราชธานี เขต 1 พรรค ปชป.และใบแดงอดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 1 พรรค ปชป.


 


ทั้งนี้ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.แถลงผลการประชุม กกต.ว่า กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกคำร้องสำนวนคดีทุจริตเลือกตั้งของนายวิฑูรย์ เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานไม่สามารถเชื่อมโยงมาถึง แม้ว่าจะมีการแจกบัตรชมภาพยนตร์ ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้ผู้สมัครก็ตาม ประกอบกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 ไม่ได้เอื้อให้มีการให้ใบเหลืองแก่ ส.ส.ระบบสัดส่วน


 


2 ใบเหลืองส.ส.-1อดีตผู้สมัครปชป.


"กกต.ยังมีมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 1 ให้ใบเหลืองแก่นายศุภชัย ศรีหล้า และนายวุฒิพงศ์ นามบุตร ส.ส. อุบลราชธานี เขต 1 และให้มีการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากแม้จะได้ประโยชน์จากการแจกตั๋วชมภาพยนตร์ ซึ่งเชื่อได้ว่าทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่สุจริต แต่ทั้ง 2  คนไม่ได้เป็นตัวการในการกระทำความผิด ส่วนนายวิทวัส พันธ์นิกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรค ปชป.ได้รับใบแดง เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 5 ปี เนื่องจากนายวิทวัส เป็นบุตรชายเจ้าของโรงภาพยนตร์เนวาด้า ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ที่แจกตั๋วหนังฟรี จึงทำให้พฤติการณ์การกระทำผิดเข้าข่ายให้ทรัพย์สินและสิ่งของ รวมทั้งเป็นผู้จัดให้มีมหรสพ"นายสุทธิพล กล่าว


 


นายสุทธิพล กล่าวว่า กกต.จะขอให้สำนักวินิจฉัยและคดี ยกร่างสำนวนความเห็นของ กกต.ส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งภายใน 15 วัน เป็นผู้ชี้ขาดอีกครั้ง เนื่องจากเป็นสำนวนการกระทำผิดหลังจากที่มีการรับรองผลการเลือกตั้งไปแล้ว ว่าจะวินิจฉัยตามความเห็นที่ กกต.เสนอไปหรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการที่ กกต.ยกคำร้องคดีนายวิฑูรย์เป็นไปตามขั้นตอน และให้ความเป็นธรรมทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง แต่การพิจารณารายละเอียดในสำนวนแตกต่างจากคดีนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้า พปช. ตรงที่ความผิดไม่ได้เชื่อมโยงไปถึงนายวิฑูรย์ แต่กรณีนายยงยุทธ มีทั้งพยานและหลักฐานการกระทำผิดเชื่อมโยงไปถึง


 


"สดศรี"รับแจกใบแดงทั้ง4คน


ด้านนายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวว่า กกต.เห็นว่านายศุภชัย นายวุฒิพงษ์ และนายวิฑูรย์เป็นผู้ได้รับประโยชน์ในการแจกบัตรชมภาพยนตร์ เพราะการสอบสวนพบว่า พยาน 2 - 3 คนให้ปากคำว่าสามารถที่จะนำบัตรดังกล่าวไปแลกบัตรชมภาพยนตร์ได้อยู่ ดังนั้นทั้ง 3 คนได้รับประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว และทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต กกต.จึงสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตดังกล่าว 2 คน ในขณะที่นายวิฑูรย์ ซึ่งเป็นส.ส.สัดส่วน กฎหมายไม่เปิดช่องให้สามารถที่จะสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ ที่ประชุมจึงมติเอกฉันท์ยกคำร้องกรณีนายวิฑูรย์


 


"หากนายวิฑูรย์ เป็นส.ส.เขตก็จะได้ใบเหลือง แต่เมื่อไปดูรัฐธรรมนูญมาตรา 109 หรือกฎหมายการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2550 ในมาตรา 110 และมาตรา 111 ที่ระบุว่าก่อน กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง หากพบว่าการเลือกตั้งไม่สุจริตในกรณี ส.ส.สัดส่วน ให้ กกต.นำคะแนนเฉพาะในเขตเลือกตั้งนั้นมาหักได้ แต่หลังจากกกต.รับรองผลไปแล้วหากพบการกระทำผิด กรณีของส.ส.สัดส่วนไม่ได้มีการบัญญัติในกฎหมายไว้"นายสุเมธ กล่าว


 


นางสดศรี สัตยธรรม กกต.กล่าวว่า ได้ลงมติให้ใบแดงส.ส.ทั้ง 3 คน และ 1 อดีตผู้สมัครส.ส.พรรค ปชป. เนื่องจากเห็นว่าเป็นการหาเสียงคราวเดียวกันและวาระเดียวกัน เมื่อผิดแล้วก็ต้องรับผิดเหมือนกัน หากนายวิฑูรย์ไม่ถูกยกคำร้องก็ต้องได้รับใบแดงเท่านั้น จะให้ใบเหลืองแก่นายวิฑูรย์ไม่ได้ เพราะเป็นส.ส.สัดส่วน ทั้งนี้ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้ลงมติให้ยกคำร้องแก่อดีตผู้สมัครและ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 4 คน


 


 


"ปชป.-พปช."ส่งหน้าเดิมสู้ต่อ


ขณะที่นายวิฑูรย์ นายศุภชัย และนายวุฒิพงษ์ ร่วมกันแถลงข่าวหลังทราบมติ กกต. โดยนายวิฑูรย์ กล่าวว่า พรรคพร้อมรับคำวินิจฉัยของ กกต. และพร้อมนำพยานหลักฐานไปต่อสู้ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งต่อไป หากศาลฎีกาฯยืนตามมติ กกต. พรรคก็จะส่งนายศุภชัย และนายวุฒิพงษ์ ลงรับสมัครเลือกตั้งอีกครั้ง


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ กกต.ให้ใบแดงนายวิทวัส เท่ากับว่าเป็นการตอกย้ำความผิดของพรรค ปชป.หรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบการวินิฉัยของ กกต. ไม่ได้ระบุว่า นายวิทวัสผิดในฐานะผู้แจกตั๋วหนัง แต่เกิดจากบิดาของนายวิทวัส ซึ่งเป็นกรรมการบริหารโรงภาพยนต์เนวาด้าที่มีการแจกตั๋วหนัง เมื่อบิดาเป็นผู้แจกและลูกชายเป็นผู้สมัครจึงน่าจะมีส่วนได้เสีย


 


นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พปช. กล่าวว่า พรรคมีความพร้อมที่จะส่งนายโกวิทย์ ธรรมานุชิต และนายสมบัติ รัตโน ที่เป็นผู้สมัครเดิมลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.อุบลราชธานี เขต 1 โดยมีนายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบและดูแลการเลือกตั้ง ซึ่งมั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคทั้ง 2 คนจะสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน


 


ที่มา www.matichon.co.th

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net