Skip to main content
sharethis


พสกนิกรทั่วประเทศจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สำนักโฆษก :  5 ธ.ค. เวลา 19.29 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางทัศนีย์ ชาญวีรกูล ภริยา เป็นประธานเนื่องในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพร และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ในงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา "5 ธันวามหาราช" โดยมี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการทั้งตำรวจ ทหาร และพลเรือน นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมในพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน


 


"กรมศิลป์" ตรวจความเสียหายทำเนียบ พรุ่งนี้


เว็บไซต์แนวหน้า : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้(6ธ.ค.)เวลา 13.00น.จะมีเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากร เข้ามาตรวจสอบตึกที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน อาทิเช่น อาคารไทยคู่ฟ้า อาคารสันติไมตรี และอาคารนารีสโมสร เพื่อทำการบูรณะให้กลับมาสภาพดังเดิมและประเมินความเสียหาย


 


 "สุริยะใส"แจงหากพันธมิตรฯจะทำลายข้าวของจริง ตึกไทยคู่ฟ้าไม่พ้นแน่ เพราะสะใจกว่า


เว็บไซต์แนวหน้า : นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าว ถึงรายละเอียดกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในตึกกองบัญชาการ 1-2ว่า ในวันที่ ผ.อ.กองสถานที่ทำเนียบ และคณะกรรมการผู้ทรงคูณวุฒิ 8 องค์กร เข้าไปตรวจสอบสภาพภายในทำเนียบรัฐบาลนั้น เป็นเพียงการเข้าไปตรวจสอบในตึก 3ตึกเท่านั้น คือตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี และตึกนารีสโมสร แต่ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบสภาพความเรียบร้อยของตึกอื่นๆเนื่องจากเจ้าหน้าที่ของทำเนียบรัฐบาลเร่งรัดด่วนเรื่องการขอคืนสถานที่ราชการ


 



ผู้สื่อข่าวถามว่าตลอดระยะเวลาของการชุมนุมภายในทำเนียบรัฐบาลสังเกตว่ามีการขึ้นไปบนตึกบัญชาการ 1-2 อยู่ตลอดนายสุริยะใส กล่าวว่ามีการขึ้นไปบนตึกจริงแต่เป็นการขึ้นไปเพื่อตรวจตราเพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของการ์ดศรีวิชัย ซึ่งอาจจะได้ยิงเสียงคนเข้าไปภายในตึกหรือเสียงการงัดแงะประตูจึงเป็นเพียงการขึ้นไปเพื่อตรวจตราเท่านั้น และตนก็เคยขึ้นไปเช่นกันในช่วงที่มีการประชุมเรื่องการเมืองใหม่แต่ก็ไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด


 



ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ความเสียหายนั้นเกิดจากการที่การ์ดของพันธมิตรฯเองมีคาวมโกรธแค้นรัฐบาลจึงทำลายทรัพย์สินนายสุริยะใส กล่าวว่าอาจเป็นได้ที่การ์ดจะมีความโดกรธแค้นเนื่องจากการที่รัฐใช้อำนาจในการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7ต.ค.51 และการที่มีเหตุระเบิดที่ทำเนียบรัฐบาลอยู่ตลอดเวลาซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้ และตนขอตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกิดจากสายข่าว ,พวกมิจฉาชีพ เข้ามาฉวยโอกาสสร้างความเสียหายและโยนความผิดให้กับพันธมิตรฯเพราะในคืนวันที่ 1-3ธ.ค.51 ที่ผ่านมาทำเนียบรัฐบาลไม่มีการ์ดพันธมิตรฯอยู่เลย


 



ส่วนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นอย่างไรนั้นก็ตั้งว่ากันตามข้อเท็จจริงและยินดีที่จะร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบ เพราะเราสามารถจับคนร้ายที่พยายามขโมยของในทำเนียบได้อยู่ตลอดเวลาของการชุมนุมและส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตรวจสอบได้จากบันทึกของสน.นางเลิ้ง


 



 "ผมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นฝีมือของพวกฉวยโอกาส หากพันธมิตรฯจะทำก็ต้องเป็นตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี เพราะสามารถสร้างความเสียหายมากกว่า ได้ผลมากกว่า และสะใจมากกว่า ไม่อย่างนั้นจะเก็บไว้อย่างดีทำไม"นายสุริยะใส กล่าว


 


สนามบินอู่ตะเภาปิดฉากความวุ่นวายลงแล้ว เหลือเพียงความประทับใจ


เว็บไซต์แนวหน้า : ผู้สื่อข่าวเปิดเผยว่า ที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เริ่มเงียบเหงา เนื่องจากมีเพียงสายการบินภายในประเทศที่ขึ้น-ลงประจำสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ของสายการบินบางกอกแอร์ไลน์ ไป-กลับ เพียง  4 เที่ยวบิน  โดยลงในเวลา 15.00 น. ขึ้นเวลา 16.30 น. และลงในเวลา 16.00 น.ขึ้นในเวลา 20.00 น. ส่วนเรื่องทำความสะอาดภายในสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา


 



นางพัทธนันท์ ขันติสุข ผู้จัดการทั่วไปสวนนงนุชพัทยา ได้ให้เจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ช่วยกันทำความสะอาดแม้กระทั่งในห้องน้ำ และมื่อเวลา 13.00 น.ของวันนี้ ได้เคลื่อนย้ายอุปกรณ์การแสดง เต็นท์ ร้านค้า ยวดยานพาหนะ ออกจากสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ยุติการดำเนินการต่างๆ ลงเรียบร้อยแล้ว



 


เลขาฯ สภาระบุประธานสภาผู้แทนฯ ไม่มีหน้าที่ขอเปิดประชุม


เว็บไซต์แนวหน้า : นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ ครม.ชุดรักษาการมีมติให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ วันที่ 8-9 ธันวาคม ที่จะพิจารณาวาระเกี่ยวกับข้อตกลงและบันทึกความเข้าใจที่จะใช้ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ซึ่งเลื่อนไปจัดในเดือนมี.ค.52 ว่า เมื่อ ครม.มีมติดังกล่าวในวันที่ 8-9 ธันวาคม ก็จะไม่มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา หรือการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ไปด้วย ส่วนที่ครม.ระบุว่าการกำหนดวันเลือกส.ส.ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร นายพิทูรกล่าวว่า เมื่อไม่มีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสภาสมัยสามัญแล้ว ในกระบวนการเรียกประชุมไม่ใช่หน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้เริ่ม แต่สามารถทำได้ 2 วิธีคือ ครม.ขอให้ทรงมีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมใหม่ และสมาชิกของทั้งสองสภารวมกัน หรือส.ส.เข้าชื่อจำนวนไม่น้อยกว่า  1 ใน 3 ตามรัฐธรรมูญ มาตรา 129 เพื่อมีพระบรมราชโองการประกาศเรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญได้  ทราบว่าขณะนี้ประธานวิปรัฐบาลกำลังให้สมาชิกเข้าชื่อกันอยู่


 



"เพื่อนเนวิน"ประสานเสียงนายกฯต้องไม่ใช่"เพื่อไทย"


เว็บไซต์คมชัดลึก : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวิน เดินทางมาที่เซฟเฮ้าส์ย่านโรงแรมสยามซีตี้ เพื่อร่วมหารือกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินถึงทิศทางและสถานการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะแนวทางการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่


 



นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า จุดยืนพวกเรายังเหมือนเดิม เพื่อหาทางออกของประเทศ ไม่ใช่ดันทุรัง ที่จะทำให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะตัวนายกฯต้องมีความสามารถแก้ปัญหาประเทศชาติได้ แต่สร้างความสมานสามัคคีและเข้ากับทุกฝ่าย โดยไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าซึ่งสามารถนำพาประเทศเดินหน้าไปได้


 



"ถึงวันนี้การคุยกันไปไกลกว่านั้นแล้วซึ่งตัวนายกฯคงไม่ใช่จากพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ใช่พวกเราจะสลับขั้วไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตามตอนนี้ก็มี ส.ส.เดินออกจากพรรคเพื่อไทยมารวมกับกลุ่มเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเห็นด้วยในแนวทางเราที่อยากให้บ้านเมืองสงบสุข อีกทั้งจะต้องรอดูการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ จะเป็นใครจึงเชื่อว่าในวันสองวันนี้เรื่องการเลือกนายกฯจบ เพราะประเทศจะปล่อยให้ฝ่ายบริหารว่างเว้นไม่ได้" นายปัญญากล่าว


 



นายปัญญา ยังกล่าวอีกว่า จากที่ลงในพื้นที่คนในอีสานเริ่มเข้าใจสถานการณ์และเห็นว่าในการเลือกนายกฯต้องเอาคนมาแก้ปัญหาประเทศได้ ไม่ใช่เลือกแล้วทำให้เกิดการทะเลาะของคนในชาติอีก สิ่งสำคัญต้องทำให้บ้านเมืองสงบก่อนเพื่อให้รัฐบาลบริหารประเทศได้


 



ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวิน ยืนยันว่า 37 ส.ส.ในกลุ่มยังไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรคใดทั้งสิ้น เพราะยังมีเวลาและวันนี้อาจมีเพิ่มเป็น 40 ส.ส.ส่วนการเลือกนายกรัฐมนตรี เรายังรอดูความชัดเจนในตัวของผู้ที่จะมาเป็นนายกฯซึ่งต้องเป็นบุคคลที่สังคมยอมรับได้และสามารถประสานทุกฝ่ายได้ สิ่งสำคัญจะต้องลดปัญหาความขัดแย้งแล้วรัฐบาลสามารบริหารแก้ปัญหาประเทศได้รวมทั้งทำให้สภามีอายุยืนยาวต่อไป


 



ส่วนกรณีที่ ส.ส.จากอดีตพรรคพลังประชาชนยืนยันว่านายกฯต้องมาจากพรรคเพื่อไทยนั้น นายศุภชัย ตอบว่า เรื่องนี้เราต้องการให้มีความชัดเจน ทุกคนมีส่วนรับรู้ร่วมกันให้เป็นกระบวนการของพรรคเพื่อหารือ จุดอ่อน จุดแข็งจะแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งไม่ใช่ให้ใครมาสั่ง เมื่อเกิดปัญหาขึ้น พวกเราต้องรับชะตากรรม อย่างในครั้งที่ผ่านมาทางกลุ่มเคยเตือนแล้วไม่ควรเลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นเกรงเกิดปัญหาแล้ววันนี้ก็เกิดปัญหาตามที่เราได้คาดการณ์ไว้


 



นายวิเชียร อุดมศักดิ์ ส.ส.หนองบัวลำภู กลุ่มเพื่อนเนวิน ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใด เพราะยังมีเวลาถึง60วัน แต่จุดยืนของทางกลุ่มนั้นชัดเจนว่าประเทศชาติต้องมาก่อนเพราะที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำมามาก และที่ยังไม่ไปพรรคเพื่อไทยไม่ใช่เป็นการต่อรองอะไรทั้งสิ้น


 



นายวิเชียร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่4ธ.ค.ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินหารือถึงสถานการณ์การเมืองรวมถึงว่าที่นายกฯคนใหม่ นายเนวิน บอกว่าทางไหนที่ช่วยประเทศชาติ ศาสนา และสถาบัน ไว้ได้เราก็จะไปทางนั้น นอกจากนี้ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินยังได้พูดถึงแคนดิเดตนายกฯที่พรรคเพื่อไทยเสนอมาทั้งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นั้นทางกลุ่มเรารับไม่ได้เพราะปัญหาจะไม่จบ ก่อนหน้านี้พันธมิตรฯได้บอกแล้วว่าหากเป็น2คนนี้จะชุมนุมแน่นอน แต่ถ้าเป็นคนอื่นเราค่อยมาพิจารณาอีกครั้งแต่นายกฯต้องเป็นส.ส.มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น


 




เมื่อ ถามว่าพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หรือนายเสนาะ เทียนทอง รับได้หรือไม่ นายวิเชียร ตอบว่า พล.อ.เชษฐา รับได้ เรารับได้เพราะดูแล้วเป็นคนกลางๆ เป็นอดีตผบ.สส.ยังไม่มีตำหนิอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูอีกฝ่ายหนึ่งว่าเขาจะเสนอใครเป็นนายกฯ ส่วนนายเสนาะนั้นถ้าจะให้เลือกขอเลือกพล.อ.เชษฐาดีกว่า เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์อาจเสนอนายชวนเป็นนายกฯ นายวิเชียร กล่าวว่า นายชวนก็พอรับได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราขอให้แต่ละฝ่ายเสนอชื่อนายกฯออกมาก่อน แล้วเราก็จะมาประชุมและชั่งน้ำหน้กว่ารับได้หรือไม่ ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร


 



"วันนี้ยังแยกไม่ออกว่าพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์จะได้จัดตั้งรัฐบาล แต่การชูบุคคลกลางๆที่ยอมรับที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับดีที่สุด ถ้าสังคมยอมรับเราก็จะไปอยู่กลุ่มนั้น จุดยืนของเราคือนายกฯต้องเป็นส.ส.มาจากการเลือกตั้ง ไม่เอาคนนอกเด็ดขาด เลือกนายกฯแล้วทำให้เสื้อเหลืองเสื้อแดงยุติ หากมีพรรค ไหนเสนอมาอย่างนี้เราก็พร้อมไปทางนั้น ไม่ได้เลือกข้างว่าต้องเป็นเพื่อไทยหรือประชาธิปัตย์"



เมื่อถามว่าที่ผ่านมาได้พูดคุยกับทุกกลุ่มการเมืองไว้หรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า ได้พูดคุยหมด แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะไปกลุ่มไหน เมื่อถามว่าโอกาสที่จะสวิงไปประชาธิปัตย์เลยเป็นไปได้หรือไม่ นายวิเชียรกล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยถึงขนาดนั้น แต่ต้องดูว่าซีกที่เคยอยู่ต้องชั่งน้ำหนักที่เดิมกับที่ใหม่ สังคมรับได้หรือไม่


 



เมื่อถามว่า มีคนในพรรคเพื่อไทยพูดดักทางไว้แล้วหากไปอยู่ที่อื่นการเลือกตั้งครั้งหน้าลำบาก นายวิเชียร กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร ถ้าเราทำถูกต้องก็สามารถไปบอกกับประชาชนได้ ช่วงเวลา60วันนี้เรายังสามารถช่วยประชาชนได้เราจึงไม่รีบ เพราะหากมีผลเสียเราจะเอากลับคืนมาไม่ได้ ทั้งนี้หากจะไปพรรคการเมืองใหม่เราคงต้องนำนโยบายพลังประชาชนบางส่วนไปด้วย แต่ไม่ใช่ทั้งหมด แล้วไปถามกับหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่ เรายกมือให้ในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาให้เอานโยบายเราไปด้วย ทั้งนี้เท่าที่หารือกันในวันโหลตเลือกนายกฯจะปล่อยให้ส.ส.ฟรีโหวต และหลังฟรีโหวตเลือกนายกฯส.ส.แต่ละคนจะไปกรอกใบสมัครพรรคการเมืองที่จะไปอยู่ทันที


 



"เทพเทือก"แบะท่าจับมือเพื่อนเนวินยอมรับเตรียมจับเข่าคุย


เว็บไซต์คมชัดลึก : นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่กลุ่มเพื่อนเนวิน ออกแถลงการณ์จะไม่รับนายกรัฐมนตรี ที่จะสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคมอีกว่า ในสภาวะปัจจุบัน ส.ส.ทุกคน กำลังคิดหาทางออกให้ประเทศชาติ และในโอกาสที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลใหม่อีกครั้ง ถือเป็นโอกาสดีของประเทศ และประชาชน ที่ผู้แทนแต่ละคนจะทำเพื่อชาติ


 



 "ผมไม่ทราบว่า กลุ่มเพื่อนเนวินคิดอย่างไร แต่เท่าที่ติดตามข่าว เห็นว่า มีความชัดเจนที่จะร่วมแก้วิกฤติของประเทศ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี ผมเอาใจช่วย ขอให้เดินแนวทางนี้ต่อไป แต่ยังไม่ได้คุยกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า จะร่วมงานกันหรือไม่ และถ้ากลุ่มเพื่อนเนวิน ยังยืนยันแนวทางนี้ ภายใน 1 - 2 วัน ก็จะหาโอกาสไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ว่าจะทำงานร่วมกันได้อย่างไร"นายสุเทพ กล่าว


 



เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับอดีตพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เท่าที่ได้ฟังความชัดเจนแล้วว่า ยังยืนยันที่จะจับมือกันเองอยู่ต่อไป แต่ละคนถือว่า เป็นผู้ใหญ่ในวงการเมืองมานาน ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข ดังนั้น รอให้คลื่นลมสงบก่อน คงจะได้มีโอกาสพูดคุยเช่นกัน


 



ส่วนโอกาสในการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองนั้น เขาเห็นว่า การเมืองก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ถ้าทุกคนเห็นแก่ประเทศ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้นมี 166 เสียง คงไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองได้ หากจะทำให้เกิดการเปลี่ยนได้ ต้องดูท่าทีของอดีตพรรคร่วมรัฐบาลด้วย


 



ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าว การผลักดันให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หากมีการเปลี่ยนขั้วการเมืองนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า อดีตพรรคร่วมรัฐบาลเป็นนักการเมืองเก่าแก่ ต้องเข้าใจกฎเกณฑ์กติกา ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมีข้อเสนอนี้ เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อรัฐบาลทำงานไม่ได้ ก็ควรเปิดโอกาสให้นายอภิสิทธิ์ทำหน้าที่


 



สำหรับเขา จะไปหารือกับอดีตพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อไรนั้น คงต้องรอให้แต่ละพรรคตกผลึกก่อน ถ้าแต่ละพรรคมีความชัดเจน วันนี้ ก็เริ่มได้ทันที แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยคุยกัน


 


โพลเชียร์อภิสิทธิ์-อานันท์นายกฯอยากได้ผู้นำรัฐบาลจงรักภักดี


ASTV ผู้จัดการรายวัน : นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ แถลงถึงผลสำรวจ สังคมไทย รัฐบาล และคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีที่เด็กและเยาวชนไทยอยากเห็น จากเยาวชนที่มีอายุ 15-18 ปีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,925 คน ระหว่างวันที่ 3-4 ธันวาคม 2551


 


ผลการสำรวจพบว่าสิ่งที่เด็กและเยาวชนอยากเห็นในสังคมไทย ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 89.2 อยากเห็นประชาชนคนไทยร่วมแสดงความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความสุข ร้อยละ 88.4 อยากเห็นผู้ใหญ่ เลิกทะเลาะกัน ร้อยละ 87.5 อยากเห็นคนไทยรักกันตลอดไป ร้อยละ 84.5 อยากเห็นความสงบสุข เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างถาวร


 


นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประการที่เยาวชนกว่าร้อยละ 70 อยากให้เกิดในสังคมไทย อาทิ อยากเห็นปัญหาการเมืองได้ข้อยุติโดยเร็ว อยากเห็นนักการเมืองที่ทำผิดถูกลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม อยากเห็นการเมืองใหม่ การเมืองภาคประชาชนที่เข้มแข็ง ด้วยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง และอยากเห็นนักการเมืองมีจิตสำนึก เสียสละลาออกง่ายๆ เมื่อสังคมเห็นชัดแจ้งว่า ทำผิด


 


ส่วนคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เยาวชนต้องการ พบว่า เยาวชนร้อยละ 98.5 ระบุว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องมีความจงรักภักดีต่อสถาบันด้วยความจริงใจ ในขณะที่มีจำนวนมากเช่นกันคือร้อยละ 97.7 ต้องมีความรับผิดชอบ และต้องกล้าตัดสินใจ ร้อยละ 97.6 ต้องมีความอดทน อดกลั้น ร้อยละ 97.5 มีจิตสำนึก จริยธรรมทางการเมือง


 


ส่วนบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่พบว่า ร้อยละ 47.4 ระบุนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 33.5 ระบุนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 32.4 นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 27.9 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และร้อยละ 27.3 พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา


 


นายนพดล กล่าวต่อไปว่า เมื่อสอบถามความคิดเห็นกรณีการความเคลื่อนไหว ทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 67.1 เห็นด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรหยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองได้แล้ว ในขณะที่ร้อยละ 32.9 ระบุไม่เห็นด้วย ถ้าหากมีสิทธิเลือกตั้งได้ พรรคการเมืองหรือกลุ่ม ส.ส.ที่เยาวชนอยาก ให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ร้อยละ 24.7 อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ ในขณะที่ร้อยละ 19.1 อยากให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ ทั้งนี้ กว่าครึ่งหนึ่งคือร้อยละ 52.1 ยังไม่ระบุพรรคการเมืองที่อยากให้เห็นเป็นแกนนำ


 


'ชวน'ปัดรับนั่งนายกฯ ชี้ตามหลัก หน.พรรค ต้องได้เป็น


เว็บไซต์เดลินิวส์ : นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ได้รับการผลักดันให้เป็นนายกรัฐมนตรี แทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หากมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองว่า เป็นไปได้ยาก หากจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง เพราะมีระบบพรรคการเมืองอยู่ และตามหลักแล้ว หัวหน้าพรรคจะได้เป็นนายกฯ พร้อมทั้งระบุถึงข้อเสนอที่จะให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาบ้านเมือง เหมือนช่วงรัฐบาลของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ว่า เป็นไปไม่ได้


 


"เสนาะ"ย้ำพรรคร่วม5พรรคไม่หนุนนายกฯมาจากพปช.-ปชป.


เว็บไซต์สยามรัฐ : นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคเดิม คือ พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อรวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคประชาราช มีความเห็นพ้องกันว่า จะไม่สนับสนุน ส.ส.จากพรรคพลังประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกัน ก็ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาล เพื่อสนับสนุน ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะอาจทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองอีก แต่จะสนับสนุน ส.ส.ใน 5 พรรครัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเชื่อว่า อดีตแกนนำพรรคพลังประชาชน หรือ พรรคเพื่อไทย คงเห็นด้วย เพราะขณะนี้ ส.ส.หลายคนจากพรรคพลังประชาชน ก็สนับสนุนแนวทางนี้


 



นายเสนาะ  กล่าวต่อไปว่า ผลการพูดคุยกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อคืนนี้ ที่อาคารชินวัตร 3 ว่า ยังไม่ได้หารือถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ แม้จะมีกระแสข่าวว่า ตนเองและพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาเป็นตัวเต็ง ที่อาจถูกได้รับการเสนอชื่อ เพราะเป็นเพียงการหารือถึงแนวทางการจัดหาผู้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. แบบแบ่งเขต


 


เพื่อไทยขู่ยุบสภาหาก "เพื่อนเนวิน"ไม่ร่วม


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ : โฆษกพรรคเพื่อไทย เชื่อ"เพื่อนเนวิน"ร่วมพรรคแน่  ขู่ ยุบสภา หากไม่สามารถพูดคุยกันได้   นายศักดา นพสิทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเพื่อนเนวิน ยังไม่ตัดสินใจเข้าร่วมพรรคเพื่อไทยว่า หลังจากนี้บรรยากาศทางการเมืองต่างๆ จะเริ่มดีขึ้น เพราะเชื่อว่าสุดท้ายกลุ่มเพื่อนเนวินจะเข้ามาอยู่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตอนที่ยังอยู่ร่วมพรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน อยากได้อะไร พวกเราก็พร้อมที่จะให้ตลอด แม้กระทั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหากมาอยู่ร่วมพรรคเพื่อไทยเราก็คิดว่าตำแหน่งต่างๆใน ครม.จะยังคงเดิมและไม่มีการเปลี่ยงแปลง หรือแม้แต่กลุ่มเพื่อนเนวิน ต้องการอะไรก็ขอให้บอกออกมา เราพร้อมที่จะพิจารณาทุกอย่าง แต่หากไม่สารถพูดคุยกันได้ เราก็จำเป็นต้องยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่


 



"สถานการณ์การเมืองแบบนี้ เราทำอะไรไม่ได้นอกจากยุบสภา ซึ่งแกนนำพรรคเพื่อไทยได้พิจารณากฎหมายแล้ว รักษาการนายกรัฐมนตรีนั้นสามารถยุบสภาได้ เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราไหนห้ามเอาไว้ โดยในมาตรา 182 ห้ามรักษาการนายกรัฐมนตรีกระทำอยู่เพียง 4 อย่างคือ 1.โยกย้ายข้าราชการระดับสูง 2. ห้ามก่องบผูกพันข้ามปี  3.ห้ามอนุมัติงานหรือโครงการที่จะผูกพันครม.ชุดต่อไปและ 4.ไม่ใช้ทรัพยากรและบุคลากรของรัฐอันจะมีผลกับการเลือกตั้ง" นายศักดากล่าว


 


สายตรวจสน.ห้วยขวางจับตร.ปดส.ข่มขืนเด็กหญิงวัย15


เว็บไซต์คมชัดลึก : เวลา 07.30 น. ร.ต.อ.บดินทร์ ร้อยพรมมา หัวหน้าสายตรวจ สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุหญิงถูกกักขังอยู่ในอาคารไนท์แมนชั่น 2 ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตห้วยขวาง ตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ห้องเลขที่ 717 ชั้น 7 ของอาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบด.ต.ปฏิภาณ สมะพันธ์ อายุ 44 ปี หรือดาบไวท์ ตำรวจสังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.) นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เดินออกมาเปิดประตูห้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกันพบ น.ส.กิ๊บ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักศึกษา ปวช.ปีที่ 1 นั่งอยู่ในห้อง นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเช่นกัน โดยมีนายออย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เพื่อนกะเทยของ น.ส.กิ๊บ อยู่ในห้องดังกล่าวด้วย


 



จากการสอบปากคำ น.ส.กิ๊บ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา มาเที่ยวกับนายออยที่ร้าน"สแกน" ซอย 6 ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขวาง จากนั้นมีนายโอ๋ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เข้ามาพูดคุยกับด้วย กระทั่งร้านเลิก นายโอ๋สอบถามว่ามีที่พักแล้วหรือยัง ก่อนจะยื่นคีย์การ์ดแมนชั่นแห่งหนึ่งในซอยรามอินทรา 23 ให้ แล้วจึงเข้าไปพักในห้องดังกล่าวกับนายออย


 



น.ส.กิ๊บ ให้การต่อว่า กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 4 ธันวาคม นายโอ๋โทรศัพท์มาบอกว่า ให้ลงมาที่ด้านล่างแมนชั่น จากนั้นนายโอ๋ขับรถมาพาไปกินข้าวที่ร้านอาหารในธารทอง อาบอบนวด เมื่อกินข้าวเสร็จ นายโอ๋พาขึ้นไปที่ห้องพักที่เกิดเหตุในอาคารไนท์แมนชั่น เมื่อไปถึงพบ ด.ต.ไวท์ นั่งรออยู่ภายในห้องแล้ว จากนั้น ด.ต.ไวท์ กับนายโอ๋ ได้นำอุปกรณ์เสพยา ทั้งยาอี ยาเค ออกมาเสพยา แต่ไม่ได้เสพด้วย มีเพียงนายออยที่ร่วมเสพยาเคเข้าไปเท่านั้น ต่อมา ด.ต.ไวท์ เข้ามาข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ กระทั่งในช่วงเช้ามีตำรวจมาเคาะห้องดังกล่าว


 



พ.ต.ท.หญิง ฉัตรแก้ว วรรณฉวี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า หลังสอบปากคำได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี กับผู้ต้องหา ก่อนจะปล่อยตัวชั่วคราวไป โดยหลังจากนี้จะส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนพฤติการณ์ของผู้ต้องหาจะเข้าข่ายความผิดข้อหาอื่นหรือไม่นั้น พนักงานสอบสวนจะนัดผู้เสียหายมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง


 


ทอท.มั่นใจสุวรรณภูมิยังติด1ใน10สนามบินดีที่สุดในโลก


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ : รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ยังมั่นใจสุวรรณภูมิ จะยังเป็น 1 ใน 10 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกได้ แม้โดนม็อบปิด   นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ทอท.ยังยืนยันว่าในปี 2552 ทอท.จะยังส่งสนามบินสุวรรณภูมิเข้าประกวดเป็น 1 ในสนามบินที่ดีที่สุดในโลก โดยมีเป้าหมายให้ติดลำดับ 1 ใน 10 ของโลก เพราะที่ผ่านมาสุวรรณภูมิ ไม่ได้บกพร่องในการให้บริการและดูแลผู้โดยสารและมั่นใจว่าสุวรรณภูมิยังจะเป็นสนามบินที่ติดลำดับ 1 ใน 10 ของสนามบินที่ดีที่สุดในโลกตามเป้าหมายที่ได้ประกาศไว้


 



นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และรักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ กล่าวว่า จากการหารือกับผู้บริหารขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) พบว่า ICAO มีความพอใจในความพร้อมของการเปิดใช้งานของสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านการบินไม่ได้รับผลกระทบใดๆ และจากการตรวจสอบทุกระบบก็สามารถใช้งานได้และได้มาตรฐาน


 



ส่วนความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงเช่นกันเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองถือเป็นครั้งแรกของโลกก็ว่าได้ ซึ่งเรื่องนี้ ทอท. และกรมการขนส่งทางอากาศจะต้องร่วมกันหารือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีก และยอมรับว่าเพื่อป้องกันเหตุการณ์ปิดล้อมและบุกยึดสนามบินไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทอท. และกรมการขนส่งทางอากาศจะต้องปรับเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น


 



ส่วนการส่งสนามบินเข้าประกวดให้เป็นสนามบิน 1 ใน 10 ที่ดีที่สุดในโลกนั้น ยังเชื่อว่า ทอท.ยังทำได้และแม้ว่าเกิดการปิดล้อมสนามบินขึ้นก็ไม่มีทางที่สนามบินของมาเลเซีย หรือสิงคโปร์จะแย่งปริมาณผู้โดยสารจากสุวรรณภูมิไปได้


 


ไฟเขียวลดภาษีก๊าซธรรมชาติรถ


เดลินิวส์ : นายสมชัย สัจจพงษ์ โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ครม.เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ตามที่กระทรวงการคลังเสนอไปแล้ว ซึ่งการดำเนินมาตรการภาษีดังกล่าวนี้จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ในส่วนของภาษีศุลกากรไปบางส่วนก็ตาม แต่ในแง่ผลประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับในภาพรวมคือ ช่วยลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ และประหยัดเงินตราต่างประเทศจากการนำเข้าน้ำมันดิบ ขณะเดียวกันก็จูงใจให้ภาคขนส่งโดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้ในภาคสาธารณะปรับเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงมากขึ้น


 


ที่ผ่านมากระทรวงการคลังมีมาตรการทางด้านภาษี โดยยกเว้นอากรขาเข้าให้ชิ้นส่วน  อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้ก๊าซธรรม ชาติในรถยนต์ เพื่อสนับสนุนการใช้ก๊าซธรรม ชาติสำหรับรถยนต์และส่งเสริมให้ประกอบรถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในประเทศ แต่เนื่องจากมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ดังนั้น เพื่อจูงใจให้ประชาชนและผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ชนิดที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น กระทรวงการคลังจึงเสนอมาตรการภาษีออกไปอีก 3 ปี จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 54 คือ ขยายเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับถังบรรจุก๊าซธรรมชาติอัดประเภทถังคอมโพสิทไฟเบอร์ ตามประเภทย่อย 3923.90.00 และที่นำเข้ามาเพื่อผลิตเป็นยานบกตามตอนที่ 87


 


ขยายเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าชุดอุปกรณ์ควบคุมการใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินโดยอัตโนมัติ และชุดอุปกรณ์ควบคุมการใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลโดยอัตโนมัติ ตามประเภทย่อย 9032.89.39 เป็นต้น


 


กระแส"เลิกจ้าง"ทั่วโลกวิกฤติ  มะกันช้ำหนักยอดตกงานพุ่งสูงสุดรอบ14ปี


เว็บไซต์สยามรัฐ : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า  กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ  แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์วิกฤติการเงินโลก จนส่งผลกระทบอัตราการว่างงานของประชาชนภายในสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการว่างงานในสหรัฐฯ  เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6.5 นับเป็นจำนวนสูงสุดในรอบ 14 ปี เช่นเดียวกับตัวเลขการว่างงานเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ทะยานเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 6.8 หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนก่อนหน้านั้นอีก 320,000 คน


 



ขณะเดียวกัน ทางด้านสถานการณ์ของธุรกิจภาคการเงินก็กำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลกอย่างหนัก  จนส่งผลให้ต้องปรับลดจำนวนพนักงานออกไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการลงทุนจากภาคธุรกิจต่างๆ ประสบภาวะชะงักงัน โดยรายงานข่าวแจ้งว่า เมอร์ริล ลินช์ ธนาคารเพื่อการลงทุนระดับชั้นนำในสหรัฐฯ ที่ถึงแม้ควบรวมกิจการกับธนาคารแห่งอเมริกาหรือแบงก์  ออฟ อเมริกา ก็ยังไม่พ้นวิกฤติ และมีแผนการที่จะปลดพนักงานที่มีอยู่ทั่วโลกออกอีก  20,000  คน หลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้ประกาศปรับลดพนักงานไปแล้ว  10,000  คน ทั้งนี้ ทั้งเมอร์ริล ลินช์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา มีพนักงานรวมกันแล้ว 360,000 คน


 



ขณะเดียวกัน ทางด้านธนาคารเพื่อการลงทุนในประเทศก็ได้เตรียมที่จะปรับลดพนักงานลงด้วยเหมือนกัน เช่น ธนาคารสินเชื่อสวิส ก็ประกาศว่าจะปรับลดพนักงานจำนวน 5,300  คน ธนาคารสวิสแบงก์ พร้อมที่จะปรับลดพนักงาน 1,800 คน ธนาคารลอนดอนปรับลด  2,200  คน  ธนาคารเดรสด์เนอร์  ไคลน์เวิร์ต  ปรับลด 1,200 คน รวมทั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในภูมิภาคเอเชียก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน  อาทิ  ธนาคารโนมูระ ก็กำลังจะปลดพนักงานลง   1,000   ตำแหน่ง  ภายหลังจากเข้าไปซื้อหุ้นจำนวนหนึ่งของธนาคารเลห์แมน บราเธอร์ส ก่อนหน้านั้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net