เยาวชนสถานพินิจโคราชก่อจลาจล

 

 

 

 

 

 

ที่มาภาพ: ผู้จัดการออนไลน์

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000143961

 

 

เมื่อเวลาประมาณ 23.10 น. วันที่ 5 ธันวาคม พ.ต.อ.พนันชัย ชื่นใจธรรม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเยาวชนชายจำนวนกว่า 500 คนภายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 101 ถนนคลอส่งน้ำซอยมิตรภาพ 19 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา อาศัยโอกาสช่วงวันพ่อแห่งชาติ ก่อเหตุจลาจลภายในศูนย์ฝึก ด้วยการขว้างปา ทุบ และทำลายสิ่งของเครื่องใช้ พร้อมทั้งจุดไฟเผาอาคารและเรือนนอนจนวอดเสียหาย

 

เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงจากเทศบาลนครนครราชสีมาและเทศบาลใกล้เคียงมาฉีดสกัดเพลิงที่ลุกไหม้จากบริเวณด้านนอกและระดมกำลังตำรวจจาก สภ.โพธิ์กลาง สภ.เมือง ตำรวจชุดปราบจลาจลตำรวจภูธรภาค 3 และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยรวมจำนวนกว่า 200 นายเข้าตรึงพื้นที่โดยรอบศูนย์ฝึก เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามบานปลาย พร้อมทั้งใช้เครื่องขยายเสียงประกาศปรามและขอเจรจากับกลุ่มเยาวชนที่เป็นแกนนำ

 

แต่เหตุการณ์ก็ไม่มีทีท่าจะสงบลงเมื่อเยาวชนภายในศูนย์ฝึกต่างโห่ร้องและไม่พอใจที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุ พร้อมกันนี้เยาวชนที่ก่อเหตุทั้งหมดยังได้หยิบก้อนหินและสิ่งของขว้างปาออกมาข้างนอกจนเจ้าหน้าที่ต้องหาที่กำบังหลบกันจ้าละหวั่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจยิงปืนขึ้นฟ้าและแก๊สน้ำตาเพื่อขู่เยาวชนไม่ให้ก่อเหตุจราจลลุกลามบานปลายไปอีกแต่ก็ไม่เป็นผลและยิ่งทำให้เยาวชนเดือดดาลอาละวาดเผาอาคารและเรือนนอนจนวอดเสียหายจำนวน 4 หลัง

 

ต่อมา พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ,พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน และ พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดวางกำลังโดยรอบศูนย์ฝึก เพื่อไม่ให้เยาวชนพังประตูศูนย์ฝึกหลบหนีออกมาภายนอกพร้อมกับใช้เครื่องกระจายเสียงจากรถตำรวจเกลี้ยกล่อมให้เด็กและเยาวชนสงบสติอารมณ์ยอมวางอาวุธแต่ก็ไม่เป็นผลเช่นกัน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปภายในศูนย์ฝึก ได้เนื่องจากเยาวชนทั้งหมดยังตะโกนโห่ไล่พร้อมกับร้องขว้างปาก้อนหินและสิ่งของออกมาด้านนอกโดยไม่มีทีท่าจะสงบลงแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฝึกที่เข้าเวรดูแลภายในศูนย์ฝึกหลายคนได้อาศัยจังหวะที่เด็กเผลอฉวยโอกาสเปิดประตูหนีออกมาจากศูนย์ฝึกได้ทันทำให้ไม่มีใครได้รับอันตราย และมีรายงานว่าช่วงเกิดเหตุจลาจลได้มีเยาวชนชายหลายคนทุบกำแพงของศูนย์ฝึกบริเวณข้างโรงยิมฯ หลบหนีออกมาภายนอกได้หลายสิบคนซึ่งยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวกลับมาอย่างเร่งด่วน

 

เมื่อเวลา 02.15 น. วันที่ 6 ธันวาคม สามารถจับกุมตัวกลับมาได้แล้ว 2 คน โดยจากการสอบปากคำเยาวชนที่ถูกจับกุมตัวกลับมาได้รับสารภาพว่าแกนนำที่ก่อเหตุเป็นหัวโจกที่ถูกส่งตัวมาจากสระบุรี โดยสาเหตุของการก่อเหตุจลาจลครั้งนี้เนื่องจากเยาวชนไม่พอใจการเข้มงวดเรื่องระเบียบวินัยของผู้อำนวยการศูนย์ฝึก คนใหม่และบรรดาหัวโจกที่เคยก่อเหตุหลบหนีบางคนที่อายุเกิน 18 ปี ทราบข่าวว่าทางศูนย์ฝึกกำลังจะส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำกลางจังหวัดนครราชสีมา

 

ล่าสุด เวลา 04.00 น. วันนี้ (6 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์และระงับการก่อเหตุได้ เด็กและเยาวชนยังดำเนินการเผาอาคารที่เหลืออยู่ภายในบริเวณศูนย์ฯ เพิ่มมากขึ้น พร้อมโห่ร้อง ขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณด้านนอก เป็นระยะๆ และล่าสุดยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

 

ในเบื้องต้นผู้สื่อข่าวรายงานว่าสาเหตุของการจลาจลครั้งนี้เกิดจากที่เยาวชนในสถานพินิจเกิดความไม่พอใจหลังจากที่มีคำสั่งย้าย นายสุรกิจ อังกุรรัต ผอ.ศูนย์ฝึก และอบรม เด็ก และเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา ไป แล้วได้ผู้อำนวยการคนใหม่ ที่ลุแก่อำนาจมีมาตรการข้อบังคับที่เข้มงวด และกดดันเด็ก เยาวชนที่อยู่ภายในเป็นอย่างมาก โดยมีคำสั่งห้ามนำสิ่งของอื่นใดของมาในศูนย์ฝึกนอกจากเสื้อผ้าเท่านั้น

 

ปัจจุบันศูนย์ฝึกแห่งนี้มีนางทัศนวิไล ไกรนรา เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฝึก เพิ่งย้ายมารับตำแหน่งแทนนายสุรกิจ อังกุรรัต ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกคนเก่าเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ศูนย์ฝึกนครราชสีมา เคยถูกเยาวชนก่อเหตุจลาจลเผาเรือนนอนเพราะต้องการจะดูการถ่ายทอดฟุตบอลโลกปี พ.ศ.2542 ทางทีวี

 

นอกจากนี้เด็กและเยาวชนแหกศูนย์ฝึกฯแห่งนี้เคยก่อเหตุหลบหนีออกมาแล้วหลายครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมาเด็กและเยาวชนชายจำนวน 24 คนใช้ไม้แอบขุดดินทำเป็นรูอุโมงค์บริเวณใต้กำแพงของศูนย์ฝึกฯแล้วใช้ตัวมุดลอดหลบหนีออกมาจนเป็นข่าวดังมาแล้ว ปัจจุบันศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมามีเด็กที่ต้องคดีและถูกศาลเด็กและเยาวชนฯพิพากษาให้เข้ามาประจำอยู่จำนวน 564 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชนจาก จ.นครราชสีมา สระบุรี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์

 


 

 

ที่มาข่าวเรียบเรียงมาจาก: เวบไซต์คมชัดลึก, ผู้จัดการออนไลน์

ที่มาภาพประกอบหน้าพาดหัวและเนื้อในข่าวจาก: ผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท