Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


ผุดDTVต้านรบ.เสื้อแดงตั้งเป้าล้มมาร์ค


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - แหล่งข่าวพรรคเพื่อไทยเผยว่า นายวีระ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายจักรภพ เพ็ญแข และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ร่วมกันดำเนินการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องใหม่มาได้ 1-2 เดือนแล้ว เบื้องต้นจะใช้ชื่อว่า DTV โดยมีแนวคิดที่จะจัดตั้งเป็นรูปแบบทีวีดาวเทียม 2 ระบบ คือ ระบบจานใหญ่กับระบบจานเล็กซึ่งจะทำให้ผู้รับชมที่มีจานดาวเทียมทุกประเภทนั้นสามารถดูได้ทันที ซึ่งแตกต่างจากระบบของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ที่ผู้รับชมจะต้องบอกรับเป็นสมาชิกโดยซื้อจานดาวเทียมของเอเอสทีวีเท่านั้น


 


สำหรับรูปแบบของรายการจะเป็นสถานีข่าว 24 ชั่วโมง สัดส่วนของรายการนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการเมืองเป็นหลัก และแทบจะไม่มีรายการบันเทิงเลย โดยอ้างว่าจะคล้ายกับรูปแบบของสถานีโทรทัศน์อัลญะซีเราะห์


 


แหล่งข่าวบอกว่า สำหรับทีมงานนั้นจะเป็นทีมงานมืออาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากสถานีโทรทัศน์ไอทีวีเดิม ทั้งในส่วนของทีมโปรดิวเซอร์ กองบรรณาธิการ รวมทั้งผู้ประกาศข่าวบางคน ที่จะเข้ามาร่วมฟอร์มทีมเพื่อสร้างภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพและความน่าเชื่อถือ โดยจะทำให้แตกต่างจากครั้งเป็นสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีทีวีที่ใช้ทีมงานหน้าใหม่เป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดี การดำเนินการครั้งนี้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายอดิศร เพียงเกษ และ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ช่วยเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวด้วย


 



สำหรับเงินทุนในการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องดังกล่าวในครั้งนี้นั้น ได้รับการสนับสนุนจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงเกือบ 50 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการวางระบบเครือข่ายดาวเทียม รวมถึงการจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ของสถานีด้วย


 



นายจตุพรให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการทดสอบสัญญาณและการดำเนินการทางเทคนิค โดยได้มอบหมายให้ผู้ชำนาญการเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ขณะที่ตน นายณัฐวุฒิ และนายจักรภพนั้น จะคอยช่วยดูแล ทั้งนี้ หลักการเบื้องต้นนั้นจะเป็นทีวีดาวเทียมที่รับชมได้ทั่วโลก เพียงแค่มีจานดาวเทียม


 



ด้านนายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยทีมงานซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางนั้น ขณะนี้กำลังทดสอบด้านเทคนิค เช่น การออนไลน์สัญญาณต่างๆ ซึ่งจะสามารถออกอากาศได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ แต่จะเปิดตัวได้ภายในเดือนนี้ ดังนั้นขณะนี้จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอะไรได้มาก แต่ยืนยันว่าสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวจะเป็นของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย มีเนื้อหาและข่าวสารด้านการเมืองเป็นหลัก โดยมีจุดยืนคือส่งเสริมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ


 



เมื่อถามถึงกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณให้เงินทุนก้อนหนึ่งเพื่อจัดตั้งสถานีนั้น เขาปฏิเสธว่าไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน แต่ถ้าหากมาจาก ASTV เมื่อสถานีช่องดังกล่าวออกอากาศแล้วก็จะให้ประชาชนวัดว่าจะเลือกสนับสนุนช่องไหน


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ DTV นั้น เป็นของบริษัท ดีทีวีเซอร์วิส หรือชื่อเดิมคือ บริษัท ชิน บรอดแบนด์ อินเตอร์เนต (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) โดยมีบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมถือหุ้นอยู่ด้วย



 


"สุเทพ" โยนไอซีที-ยธ.จัดการเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน แจงไม่ขวางเสื้อแดงเคลื่อนไหว


เว็บไซต์แนวหน้า - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า ที่ประชุมฝ่ายความมั่นคง วันนี้ ได้หารือเรื่องเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน ซึ่งกำชับให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที และกระทรวงยุติธรรม ไปหารือว่าต้องดำเนินการอย่างไร รวมถึงให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ส่วนกรณีเหตุระเบิดในทำเนียบรัฐบาล มองว่าเป็นเหมือนเสียงระเบิด ซึ่งไม่น่ามีปัญหา และให้ความมั่นใจได้ว่าสามารถจัดงานวันเด็กได้ พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ตนยังรอสัญญาณการเจรจาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมองว่าไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่เจรจา ส่วนกรณี การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นยืนยันว่าจะไม่มีการขัดขวาง แต่ต้องไม่สร้างความเสียหาย และไม่ทำร้ายประชาชน ขณะเดียวกันรัฐบาลจะไม่ยอมให้เกิดสงครามประชาชนอย่างแน่นอน


 


เลขาฯ อาเซียน เผยชาติสมาชิกตอบรับย้ายที่ประชุมไปหัวหิน


เว็บไซต์แนว- นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน เปิดเผยว่า ได้รับการยืนยันจากผู้นำชาติสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ และผู้นำจากประเทศคู่เจรจา ซึ่งประกอบด้วย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แล้วว่าจะเดินทางมาร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรือ อาเซียนซัมมิท ที่จะมีขึ้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธุ์ 1 มีนาคม นี้แน่นอน ส่วนความตึงเครียดทางการเมือง เท่าที่ได้สอบถามผู้นำประเทศเหล่านั้น ส่วนใหญ่ต่างเฝ้ามองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความสนใจ แต่เชื่อมั่นว่า ทางรัฐบาลไทย จะสามารถจัดการประชุมอาเซียนซัมมิทในครั้งนี้ไปได้ด้วยดี


 


"วิฑูรย์" เล็งขอพระราชทานเพลิงศพ "ยายเนียม" 14 ม.ค.
มติชนออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 3 ต.ม่วงสามสิบ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ชาวบ้านจำนวนมาก รวมทั้งตัวแทนส่วนราชการ และส.ส.พื้นที่เขต 1 เช่น นายศุภชัย ศรีหล้าและนายวุฒิพงษ์ นามบุตร มารออำนวยความสะดวกและแสดงความเสียใจ แก่ครอบครัว นางเนียม พันธุ์มณี อายุ 84 ปี ผู้มอบแหวนทองเหลืองให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในท่อถุงน้ำดี



นายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จะเสนอขอพระราชทานเพลิงศพนางเนียม เป็นกรณีพิเศษในวันพุธที่ 14 มกราคมนี้


 


"แก้วสรร" ปฏิเสธฮั้ว "สุขุมพันธุ์" ปชป.


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - การหาเสียงโค้งสุดท้ายของผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยวานนี้ (8 ม.ค.) นายแก้วสรร อติโพธิ กลุ่มกรุงเทพใหม่ ลงพื้นที่หาเสียงกับพนักงานบริษัทการบินไทย ที่ตลาดลุงเพิ่ม โดยนายแก้วสรร กล่าวว่า อยากชี้แจงกรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่าหากชนะการเลือกตั้งจะเชิญไปเป็นทีมงานให้ร่วมตรวจสอบ นั้น ยืนยันว่าไม่มีการสมคบคิดระหว่างเขา และพรรคประชาธิปัตย์ และหากเขาจะจะตรวจสอบ กทม. จะตรวจสอบเหมือนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงขอให้เลือกผู้สมัครด้วยดุลพินิจของคุณเอง และขอตำหนิ และขอให้ยุติการเสนอข่าวแบบนี้ เพราะจะไม่อยู่ใต้อาณัติของใครทั้งสิ้น


 



วันเดียวกันนี้ (8 ม.ค.) ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงกับข้าราชการ และลูกจ้างของ กทม. ที่บริเวณศาลาว่าการ กทม. 2 ดินแดง พร้อมกับแจกจดหมายเปิดผนึกถึงข้าราชการและลูกจ้าง กทม. ส่วนคณะทำงานที่จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษานั้น ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ระบุว่า ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ อดีตปลัด กทม. ได้ตอบรับที่จะเข้ามาเป็นประธานคณะที่ปรึกษา และยังมีนายปราโมช ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน และอดีต ส.ว.กทม. ได้ตอบรับที่จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิด้านการควบคุมปริมาณน้ำ


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เดินหาเสียงและอยู่ระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนบริเวณหน้าศูนย์เยาวชน กทม. กีฬาไทย - ญี่ปุ่น ดินแดง เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของ กทม.ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงถึงการดำเนินการจัดงานคนรักกรุงเทพฯ รวมพลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทำให้รบกวนการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวได้ขอเวลาเพื่อให้การสัมภาษณ์เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงว่า "ที่จริงไม่ควรเข้ามาสัมภาษณ์ในบริเวณนี้" ทำให้ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวว่า "สงสัยจะคุมข้าราชการ กทม.ยาก"


 



ขณะที่ นายเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ ผู้สมัครอิสระ ลงพื้นที่ดูความเสียหายเหตุเพลิงไหม้อาคารเสือป่า พลาซ่า โดยระบุว่า จะเข้ามาทำให้เกิดความถูกต้องในการใช้อาคาร โดยจะลงตรวจสอบด้วยตนเองแบบไม่ให้รู้ตัว โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า เนื่องจากเห็นว่าบันไดหนีไฟบางแห่ง กลายเป็นห้องเก็บของ


 



ด้านนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ได้ชูนโยบายจับคู่ผู้ว่างงานกับสถานประกอบการเข้าด้วยกัน เสริมด้วยการฝึกอาชีพ พร้อมส่งผลผลิตออกต่างประเทศ และจัดทำอุโมงค์ระบายน้ำลอดคลองแสนแสบ เพื่อบำบัดน้ำเสีย และทำให้สภาพแวดล้อมริมคลองดีขึ้น


 


เศรษฐกิจ


 


ทีดีอาร์ไอเสนอนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศต่อรัฐบาล


สำนักโฆษก - วันนี้ เวลา 10.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ดร. อัมมาร สยามวาลา นักวิชาเกียรติคุณจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และคณะจำนวน 3 คน เข้าเยี่ยมคารวะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบข้อเสนอเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อรัฐบาล โดยมี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนายสาวิตต์ โพธิวิหค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เข้าร่วมรับฟังด้วย


 


ดร. อัมมาร สยามวาลา ได้นำเสนอนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแก่นายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้ ทางสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ได้เสนอนโยบายเฉพาะหน้า และนโยบายระยะกลางด้านรายได้ โดยนโยบายเฉพาะหน้านั้น ทาง TDRI ขอให้รัฐบาลพิจารณาใน 4 ประเด็นหลักคือ 1) เรื่องการบริหารการเงินภาครัฐ พร้อมติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และจัดลำดับความสำคัญของโครงการ โดยเลือกโครงการที่ช่วยลดผลกระทบต่อผู้เดือดร้อนก่อน และเลือกโครงการที่จะเกิดผลเร็วที่สุด


 


2) มาตรการแทรกแซงสินค้าเกษตร เพื่อสร้างระบบบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากภาวะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวมทั้งนำระบบประกันภัยราคาข้าวแบบ put option มาใช้แทนการจำนำข้าวในปัจจุบัน ตลอดจนการออกมาตรการขยายกิจกรรมของตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า และคงนโยบายจำนำข้าวเปลือก โดยให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานคณะกรรมการระบายข้าวแทนรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เกิดการคานอำนาจระหว่างฝ่ายนโยบายกับฝ่ายปฏิบัติ


 


3) ควรปลดหนี้สินให้เกษตรกรในโครงการพิเศษของรัฐบาลที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก 4) รัฐบาลไม่ควรมีนโยบายผลักดันให้สถาบันการเงินเพิ่มวงเงินสินเชื่อแก่ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SME และรัฐไม่ควรเข้าไปแทรกแซงการดำเนินงานของสถาบันการเงิน แต่รัฐสามารถใช้เครื่องมือการร่วมประกันความเสี่ยงบางส่วนผ่านสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้


 


สำหรับนโยบายระยะกลางด้านรายได้ นั้น TDRI ได้เสนอให้รัฐบาลพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปภาษี เพื่อศึกษาโครงสร้างภาษีทั้งระบบ และให้ข้อเสนอแนะเรื่องการปฏิรูปภาษี ส่วนการเพิ่มรายได้ภาษีนั้น ทาง TDRI เสนอว่า ในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า รัฐสามารถเพิ่มรายได้ภาษี อาทิ การปรับปรุงระบบภาษีบำรุงท้องที่ การปรับปรุงระบบสุราทุกชนิด เพื่อลดการบริโภคสุราที่มีแอลกอฮอล์สูง เป็นต้น


 


โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เปลี่ยนแปลงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยความสนใจ พร้อมกล่าวขอบคุณทางสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยที่ให้คำแนะนำและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีรับว่าจะนำข้อเสนอทั้งหมดไปหารือกับทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและสอดคล้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง


 


ตลาดหุ้นเอเชีย-ออสเตรเลียกอดคอดิ่ง เข้าสู่ศก.ถดถอย


มติชนออนไลน์ - สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ว่า จากความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนลดลง 693,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนที่ลดลง 476,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 362.82 จุด หรือ 3.93 เปอร์เซนต์ แตะ 8,876.42 จุด ซึ่งร่วงลงต่ำกว่าระดับ 9,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ


 


ด้านดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดดิ่งลง 254.05 จุด หรือ 5.3 เปอร์เซนต์ อยู่ที่ 4,535.79 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดในวันเดียวนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 และเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2551 เนื่องจากยอดส่งออกเดือนธันวาคมทรุดเป็นประวัติการณ์ถึง 42 เปอร์เซนต์ ส่งผลให้เกิดความวิกตกว่าเศรษฐกิจของไต้หวันจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่ธนาคารกลางไต้หวันประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.5 เปอร์เซนต์ สู่ 1.5 เปอร์เซนต์ ซึ่งเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากยอดส่งออกที่ร่วงลงมากเป็นประวัติการณ์


 


ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ร่วงลง 85.40 จุด อยู่ที่ 3,694.30 จุด เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยลบทั้งในและนอกประเทศ โดยปัจจัยลบจากต่างประเทศคือ ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดอ่อนตัวลง ส่วนปัจจัยลบภายในประเทศคือ ยอดการอนุมัติสร้างอาคารใหม่เดือนพ.ย.ที่ดิ่งลงไป 13% รวมทั้งหุ้นกลุ่มพลังงานที่ตกลง


 


เอทานอลตื่นราคารูดอีก


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย เปิดเผยว่า การใช้แก๊สโซฮอล์อาจชะลอตัวหลังรัฐบาลไม่ต่ออายุลดภาษีแก๊สโซฮอล์ และอาจเกิดปัญหาราคาตกต่ำอีก



โดยล่าสุดราคาเอทานอลไตรมาสแรกปีนี้ลดลงมาอยู่ที่ลิตรละ 17.18 บาท จากช่วงปลายปี 22 บาท ซึ่งภาครัฐควรหามาตรการส่งเสริมก่อนราคาตกต่ำมากกว่านี้


 



ปัจจุบัน ส่วนต่างราคาเบนซินกับแก๊สโซฮอล์อี 10 อยู่ที่ 8-9 บาทต่อลิตร เป็นแรงจูงใจให้เกิดการใช้แก๊สโซฮอล์จำนวนมาก ทำให้ยอดใช้เอทานอลสูงขึ้นอยู่ที่ 1.2 ล้านลิตรต่อวัน แต่หลังครบกำหนด 6 มาตรการในช่วงสิ้นเดือน ม.ค.นี้ ส่วนต่างจะลดเหลือ 3.50-4 บาทต่อลิตร ขณะที่ความแตกต่างระหว่างเบนซิน 91 กับแก๊สโซฮอล์ 91 ลดเหลือ 1.50 บาทต่อลิตร อาจทำให้ผู้ใช้รถยนต์กลับไปใช้เบนซินเพิ่มขึ้น


 



ทั้งนี้ในไตรมาส 1 โรงงานเอทานอลที่ผลิตจากมันสำปะหลังจะเริ่มเดินเครื่องผลิต 3-4 โรง รวมโรงงานเก่าแล้วมีทั้งสิ้น 17 โรง กำลังผลิต 2.5-2.6 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งล้นความต้องการเกินครึ่งหนึ่ง และการส่งออกยังติดขัดปัญหาถูกตีความเป็นการส่งออกสุราทำให้ปีที่แล้วส่งออกได้เพียง 36 ล้านลิตร


 



"ราคาเอทานอลปีนี้คงไม่สูงเท่าไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวทำให้ราคาน้ำมันลดลงส่งผลราคาเอทานอลลดลงด้วย" นายสิริวุทธิ์กล่าว



 


คุณภาพชีวิต


 


มีมติปรับขึ้นค่าไฟเดือน ม.ค.-เม.ย. 92.55 สต.ต่อหน่วย
มติชนออนไลน์ - นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเรเตอร์) กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการกำกับกิจการพลังงานมีมติประกาศปรับขึ้นราคาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่เดือนมกราคม - เมษายนปีนี้ เพิ่มขึ้น 92.55 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งหากรวมค่าไฟฐาน จะทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 3.18 บาทต่อหน่วย นับเป็นการปรับขึ้นค่าเอฟทีที่ไม่สูงมากนัก แม้ว่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าอย่างก๊าซธรรมชาติจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม



นายดิเรก กล่าวต่อว่า เรกกูเรเตอร์เลือกใช้วิธีคำนวณค่าก๊าซธรรมชาติล่วงหน้า ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอมาแทนการคำนวณราคาค่าก๊าซธรรมชาติย้อนหลัง โดยเรกกูเรเตอร์จะเผยแพร่ค่าเอฟทีงวดใหม่ ที่ออกมาประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เป็นระยะเวลา 5 วัน เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อน จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการกำกับกิจการพลังงานอีกครั้งก่อนประกาศใช้ต่อไป

กกมท.ชงห้ามกีฬามหาวิทยาลัยรับสปอนเซอร์เหล้า
มติชนออนไลน์ เมื่อวันที่ 8 มกราคม นายวิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการการกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (กกมท.) ที่มีนายคิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (มร.) เป็นประธาน ในวันที่ 9 มกราคม จะนำวาระเรื่อง "ห้ามไม่ให้การจัดกีฬามหาวิทยาลัยรับการสนับสนุนจากธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นการถาวร" เข้าพิจารณา ซึ่งการผลักดันให้ออกกฎห้ามมหาวิทยาลัยรับสปอนเซอร์จากบริษัทผู้ผลิตแอลกอฮอล์ เป็นมาตรการที่ดีและ มั่นใจว่า ผู้บริหารมหาวิทยาลัยต่างๆ พร้อมให้ความร่วมมือ โดย มศว ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะเป็นสถาบันการศึกษาที่เป็นตัวอย่างของมหาวิทยาลัยปลอดเหล้า


 


พ่อแม่ "ครูจูหลิง" ทำบุญให้ลูกสาวจากไปครบรอบ2ปี
มติชนออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายสุน ปงกันมูล และนางคำมี ปงกันมูล บิดาและมารดา ของ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล หรือครูจูหลิง ซึ่งเสียชีวิตจากการรุมทำร้ายในพื้นที่ชายแดนใต้ ได้มีการร่วมกับบรรดาญาติและข้าราชการ ร่วมทำบุญตักบาตรบริเวณหน้าหอศิลป์ของครูจูหลิง ภายในโรงเรียนอนุบาลดอยหลวง อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อรำลึกและอุทิศส่วนกุศลให้ครูจูหลิงจากการจากไปครบรอบ 2 ปี



นอกจากนี้ในภาคบ่ายทางกลุ่มศิลปินชาว จ.เชียงราย จึงมีการจัดแสดงดนตรีเพื่อไว้อาลัยให้กับครูจูหลิงและมีการรำลึกถึงคุณงามความดีของครูจูหลิง


 


 


ต่างประเทศ


 


"ฮิวแมน ไรท์ส วอทช์" จี้รบ.ไทยเร่งดำเนินคดีทหารฆ่าอิหม่าม
มติชนออนไลน์ - สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 8 มกราคม ว่า กลุ่มฮิวแมน ไรท์ส วอทช์ (เอชอาร์ดับเบิลยู) ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยเร่งดำเนินคดีกับทหารที่ก่อเหตุจับตัวนายยะผา กาเซ็ง โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดบ้านกอตอ จังหวัดนราธิวาส วัย 56 ปี ไปทรมานและฆ่าทิ้งเมื่อปีที่ผ่านมา ระหว่างที่นายยะผาถูกควบคุมตัวอยู่ที่หน่วยเฉพาะกิจ 39 (ฉก.39) จังหวัดนราธิวาส โดยเอชอาร์ดับเบิลยูระบุว่า การดำเนินการกับทหารที่ก่อเหตุจะเป็นบททดสอบการทำงานของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย



ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของโฆษกกองทัพต่อเอเอฟพีระบุว่า ผลการสอบสวนพบว่า นายยะผาเสียชีวิตหลังจากถูกทหารกลุ่มหนึ่งทุบตีระหว่างการสอบปากคำ และเตรียมที่จะดำเนินคดีกับทหารทั้ง 5 นายต่อไป


 


สิงคโปร์เตรียมแผนบังคับบริษัทจ้างพนง.ถึงอายุ 65 ปี
มติชนออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง แห่งสิงคโปร์ แถลงวันนี้ (8 ม.ค.) ว่า สิงคโปร์มีแผนจะบังคับให้บริษัทต่างๆ เสนอว่าจ้างพนักงานที่เกษียณอายุในวัย 62 ปีให้กลับเข้าทำงานได้ต่ออีก 3 ปี จนถึงอายุ 65 ปี โดยไม่จำเป็นต้องเป็นการจ้างกลับเข้ามาทำงานตำแหน่งเดิม หรือจ่ายค่าจ้างในอัตราเดิม อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีลียังไม่ยอมจัดให้มีสวัสดิการด้านสุขภาพ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แม้ชาวสิงคโปร์จำนวนมากจะวิตกกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่พุ่งสูงขึ้น


 


นศ.อินโดฯ บุกถล่มเคเอฟซี ฉุน "มะกัน" ให้ท้ายอิสราเอล
กลุ่มนักศึกษาแดนอิเหนารวมตัวถล่มร้าน "ลุงเคนตักกี้" เนื่องจากไม่พอใจอิสราเอลใช้กำลังทหารโจมตีปาเลสไตน์ พร้อมชี้กินเคเอฟซีเท่ากับสนับสนุนอิสราเอลทำสงคราม

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่า ที่เมืองพาลู ประเทศอินโดนีเซีย มีกลุ่มนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ได้รวมตัวกันประท้วงหน้าร้านอาหารฟาสต์ฟูด "เคนตักกี้ ไฟรด์ ชิกเก้น" โดยชูธงชาติปาเลสไตน์ พร้อมถือป้ายประท้วงระบุข้อความโจมตีอิสราเอลว่า เป็นดินแดนแห่งการก่อการร้าย และอาชญากรรม ก่อนที่จะรวมตัวกันพังเข้าไปในร้าน ล้มโต๊ะและเก้าอี้กระจายระเนระนาด


 


"เคเอฟซี เป็นลิขสิทธิ์ของสหรัฐฯ ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นพันธมิตรของอิสราเอล การที่เราบริโภคสินค้าของอเมริกา ก็เท่ากับว่าเราสนับสนุนด้านการเงินพื่อให้อิสราเอลใช้ในการโจมตีผู้คนปาเลสไตน์" นายมาฟูล ฮารูลนา ผู้ประสานงานกลุ่มประท้วงนักศึกษา กล่าว


 


อินโดนีเซีย ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีประชากรชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก ซึ่งการที่อิสราเอลใช้กำลังทหารโจมตีปาเลสไตน์ ในเขตพื้นที่ฉนวนกาซา ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนอินโดนีเซียเป็นอย่างมาก


 


ติดเครื่องตรวจลมหายใจ จับพบมีกลิ่นเหล้าเครื่อง ยนต์จะไม่ขยับ


เว็บไซต์ไทยรัฐ - รัฐในสหรัฐอเมริกา 4 แห่ง พร้อมใจกันออกกฎหมาย ให้ผู้ที่เคยมีความผิด "เมาแล้วขับ" จะต้องใช้รถที่ติดเครื่องทดสอบลมหายใจกับรถ เมื่อจะออกรถจะต้องให้เครื่องตรวจ หากว่ามีกลิ่นแอลกอฮอล์เครื่องยนต์จะไม่ขยับ


 



รัฐเหล่านั้นได้แก่ รัฐอลาสกา, เนบราสกา, โคโรราโดและวอชิงตัน เริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันขึ้นศกใหม่เป็นต้นไป ประชาชนส่วนใหญ่ของรัฐเหล่านี้ พากันเรียกร้องให้ดำเนินการดังกล่าว โดยเชื่อว่าจะสามารถพิทักษ์รักษาชีวิตผู้คนเอาไว้ได้เป็นเรือนพัน


 



ผู้ที่เคยโดนตราหน้าว่ามีความผิดในเรื่องนี้ จะต้องเสียเงินซื้อเครื่องตรวจลมหายใจ ซึ่งมีขนาดโตเท่ากำปั้น ติดไว้ที่หน้าปัดรถ ในราคาเครื่องละประมาณ 300 บาท และยังต้องเสียค่าธรรมเนียมประจำเดือนให้กับรัฐอีกเดือนละ 1,000 บาท


 



นายเดวิด มอลแฮม แห่งองค์การต่อต้าน "เมาแล้วขับ" กล่าวว่า อุปกรณ์นั้นมันย่อมทำให้เกิดความไม่สะดวก แต่ทำอย่างไรได้ เพราะด้านตรงข้ามของความไม่สะดวก มันคือ "ความตาย" และยังเปิดเผยว่า เครื่องตรวจแอลกอฮอล์รุ่นใหม่ ยิ่งจะก้าวหน้าหนักขึ้น สามารถจะจับกลิ่นอายภายในรถ มองดูหน้าและตาของผู้ขับและแม้แต่ตรวจวัดเหงื่อที่จับอยู่กับพวงมาลัยรถ เพื่อตรวจดูว่าเมาขนาดไหน จึงจะสตาร์ทเครื่องได้


 


อากาศยุโรป-สหรัฐแปรปรวนหนัก


เว็บไซต์คมชัดลึก - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (8 ม.ค.) ว่าสภาพอากาศทั้งในยุโรปและสหรัฐกำลังปั่นป่วนอย่างหนัก โดยเฉพาะในสหรัฐที่เผชิญทั้งน้ำท่วมและไฟป่าในรัฐวอชิงตันและรัฐโคโลราโด โดยทางการได้สั่งอพยพประชาชนกว่า 3 หมื่นคน ออกจากบ้านเรือนทางตะวันตกของรัฐวอชิงตันที่ถูกน้ำท่วมในระดับอันตราย ซึ่งเกิดจากการที่อุณหภูมิอุ่นขึ้น ประกอบกับมีฝนตกหนัก ทำให้หิมะที่ตกหนักบนแถบภูเขาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ละลายอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดน้ำท่วมและโคลนถล่มเป็นบริเวณกว้าง ต้องปิดเส้นทางหลวงหลายสิบเส้นทางทั่วรัฐ ขณะที่สำนักงานพยากรณ์อากาศออกประกาศเตือนว่า มีแม่น้ำ 20 สาย ในเวสต์เทิร์น วอชิงตัน เสี่ยงที่จะเอ่อเข้าท่วม


 



เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถดับเพลิงตระเวนไปตามเมืองออร์ติง และใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ประชาชนออกจากเมืองที่ถูกน้ำท่วมและบริเวณหุบเขา พร้อมส่งเรือกู้ภัยไปอพยพประชาชนและสัตว์เลี้ยงออกจากบ้านเรือน ในขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำพูยัลลัฟ เอ่อขึ้นเกือบถึงระดับสูงสุด ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองทาโคมา ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว


 



ส่วนที่รัฐโคโลราโด เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ทางเหนือของเขตโบล เดอร์ ออกจากบ้านเรือน เพื่อหนีไฟป่าที่กำลังโหมกระหน่ำ เนื่องจากมีกระแสลมแรงกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วท่ามกลางสภาพอากาศแห้งแล้ง แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ


 



ข้ามมาที่ยุโรป ความหนาวเย็นได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่ว โดยที่อิตาลี หิมะตกหนักทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งปิดสนามบินมัลเพงซา และสนามบินลินาเตในเมืองมิลานชั่วคราว เพื่อเก็บกวาดหิมะบนทางวิ่ง หลายเมืองทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศก็ต้องเผชิญหิมะตกหนักและอากาศที่หนาวเย็น ทำให้รถไฟเดินทางถึงจุดหมายล่าช้าไปหลายชั่วโมง โรงเรียนหลายแห่งถูกสั่งปิดไม่มีการเรียนการสอน


 



ส่วนที่ฝรั่งเศส มีรายงานหิมะตกหนักที่แคว้นโกตดาซูร์ ซึ่งปกติมีอากาศแจ่มใสและแดดจ้า ทำให้การเดินรถไฟเส้นทางโพรวองซ์ และเทือกเขาแอลป์ต้องหยุดชะงัก ขณะที่เมืองท่ามาร์กเซย หิมะที่ตกหนักทำให้รถโดยสารหยุดวิ่งเป็นระยะ เช่นเดียวกับที่กรุงเบอร์ลินและโคโลญจน์ของเยอรมนี รวมถึงที่นครร็อตเตอร์ดัมในเนเธอร์แลนด์ ที่อากาศหนาวจัดและหิมะตกหนัก ส่วนหิมะตกในนครบาร์เซโลนามากที่สุดในรอบหลายปี ทำให้ประชาชนออกมาเล่นขว้างปาหิมะอย่างสนุกสนาน


 


ยุโรปตะวันออกงัดมาตรการรับมือวิกฤติก๊าซรัสเซีย


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - เวียดนาม - หลายประเทศยุโรปตะวันออก งัดมาตรการรับมือรัสเซียหยุดส่งก๊าซ ทั้งปิดเครื่องทำความร้อนในระบบขนส่งมวลชน ปิดโรงเรียน และควบคุมการใช้ของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แม้บรรดาประเทศในยุโรปตะวันออก มั่นใจว่ามีปริมาณก๊าซสำรองมากพอที่จะชดเชยกับการงดจัดส่งก๊าซจากรัสเซีย แต่ส่วนใหญ่ก็เร่งดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อรับมือเรื่องที่เกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่หลายประเทศอยู่ในฤดูหนาว และบางประเทศมีอุณหภูมิติดลบ 20 องศาเซลเซียส


 


มาตรการข้างต้น รวมถึงการที่ สโลวาเกีย และโรมาเนีย ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน ขณะที่โรงงานผลิตปุ๋ย 2 แห่งของบัลแกเรีย รวมถึงโรงงานผลิตแก้วและงานเหล็กจำนวนมาก นอกเหนือจากโรงงานขนมปัง และเครื่องดื่ม ต่างงดการผลิต หรือเสี่ยงที่จะต้องยุติการผลิต เพื่อรับมือกับภาวะขาดแคลน


 



ส่วนที่ฮังการี ซูซูกิ ค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ประกาศงดการผลิตจนถึงวันที่ 12 ม.ค. ทั้งนายบอยโก บอริซอฟ นายกเทศมนตรีกรุงโซเฟีย บัลแกเรีย ยังสั่งให้ปิดระบบทำความร้อนในระบบขนส่งมวลชนทุกประเภท และงดการใช้งานรถประจำทางที่ใช้ก๊าซชั่วคราว


 



นอกจากนี้ นายแดเนียล วัลเชฟ รัฐมนตรีศึกษาธิการของบัลแกเรีย ยังออกคำสั่ง ให้โรงเรียนต่างๆ งดการเรียนการสอน หากอุณหภูมิในห้องเรียนลดต่ำกว่า 18 องศาเซลเซียส โดยในขณะนี้ ได้มีการขอให้โรงเรียน 8 แห่งปิดไปแล้ว


 



ฮังการี โครเอเชีย และบัลแกเรีย ลดปริมาณการจัดส่งก๊าซให้อุตสาหกรรมหลักต่างๆ เพื่อรับประกันถึงการจัดหาให้ครัวเรือน โรงเรียน และโรงพยาบาล


 



อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในออสเตรีย เห็นพ้องที่จะมีความร่วมมือระหว่างกันในการใช้ก๊าซ ขณะที่โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซในการผลิต มีแผนที่จะหันไปใช้น้ำมันและถ่านหินแทน


 



ทางการฮังการี และโรมาเนีย เรียกร้องให้โรงงานต่างๆ หันไปใช้พลังงานทางเลือกอื่นๆ ด้วย ส่วนนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก แห่งสโลวาเกีย ระบุว่า รัฐบาลอาจเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าที่โรงงานนิวเคลียร์จาสลอฟสกี โบอูนิซ หากสถานการณ์การงดส่งก๊าซของรัสเซีย ที่เกิดจากข้อขัดแย้งกับยูเครน ยังยืดเยื้อต่อไป


 



ทั้งนี้ มีอยู่หลายประเทศ อาทิเช่น ฮังการี โครเอเชีย ออสเตรีย และโรมาเนีย ระบุว่า อาจพึ่งพาการผลิตก๊าซภายในประเทศได้ต่อไป ส่วนสาธารณรัฐเช็ก เผยว่า ยังคงได้รับก๊าซจากรัสเซีย และแหล่งผลิตในแถบนอร์เวย์ ผ่านทางเยอรมนี


 



ล่าสุดประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ แห่งรัสเซีย วางเงื่อนไขสำหรับการส่งออกก๊าซผ่านยูเครนไปยังยุโรป ว่ายูเครนต้องจ่ายค่าก๊าซในราคาตลาด จ่ายหนี้ค่าก๊าซที่ติดอยู่ และอนุญาตให้มีการจัดทำกลไกใหม่เพื่อควบคุมดูแล รวมถึงการให้ผู้สังเกตการณ์ยุโรปไปตรวจสอบการส่งก๊าซผ่านยูเครน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net