ผู้ชุมนุมเปิดทางให้ "อภิสิทธิ์" เข้าทำงานทำเนียบตามปกติ

กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ได้ชุมนุมอยู่โดยรอบทำเนียบรัฐบาลเป็นวันที่ 2 วานนี้ (25 ก.พ.) แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังคงเดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบฯ ตามปกติ โดยนายกรัฐมนตรีได้ออกจากบ้านพักซอยสวัสดี ถ.สุขุมวิท ตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดยขึ้นทางด่วนมาลงที่ยมราช แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านบ้านมนังคศิลา เลี้ยวเข้าถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษมเข้าทำเนียบฯ ด้านประตู 7 บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยจำนวนมากตลอดเส้นทาง ขณะเดียวกันนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็เดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบฯ ด้านประตู 7 เช่นกัน

 

ส่วนคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่ต้องเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ได้นำรถมาจอดไว้ที่บริเวณถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม แล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเข้าภายในทำเนียบฯก่อนจะขึ้นไปบนตึกไทยคู่ฟ้า

 

จากนั้นเวลา 07.55 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามาในทำเนียบฯ และขึ้นไปยังห้องทำงานบนตึกบัญชาการ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากคณะของ กทช.ประชุมหารือกับนายกรัฐมนตรีเสร็จแล้ว นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายสาทิตย์ ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ ด้านประตู 7 เพื่อเป็นประธานเปิดงานครบรอบ 79 ปี สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ที่สถานีโทรทัศน์ NBT ถ.วิภาวดีรังสิต

 

 

นายกรัฐมนตรีขอบคุณเจ้าหน้าที่-ผู้ชุมนุมไม่ทำให้เกิดปัญหา

สำนักโฆษก สำนักนายกรัฐมนตรี รายงานว่า วานนี้ (25 ก.พ.) ระหว่างเดินทางไปเปิดงานอัญมณีและเครื่องประดับ ที่เมืองทองธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเข้าไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่า การชุมนุมก็สงบเรียบร้อยดี ต้องขอขอบคุณทั้งทางเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมที่ไม่ทำให้เกิดปัญหาหรือกระทบกระทั่งกัน ตนก็ได้เข้าไปทำงานตามปกติ ส่วนกำหนดการอื่นๆ ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงยกเว้นกำหนดการที่รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนจะเข้าพบก็จะมีการหารือว่าจะสะดวกมากน้อยแค่ไหนที่จะพบกันที่ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากมีจำนวนค่อนข้างมาก

 

ผู้สื่อข่าวถามตั้งใจที่จะพบกับรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนที่ทำเนียบรัฐบาลใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำหนดการเป็นอย่างนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำให้เห็นภาพลักษณ์อะไรหรือไม่ เพราะการชุมนุมก็ยังคงอยู่รอบทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าการชุมนุมสงบเรียบร้อย ทุกคนก็เข้าใจว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในสังคมประชาธิปไตย ต่อข้อถามว่าคิดว่าจะถูกถามในเรื่องการชุมนุมและจะมีการชี้แจงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่น่าจะมีประเด็นอะไรมากเพราะทุกอย่างก็ปกติ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าการชุมนุมที่ยังยืดเยื้อจะเป็นการรบกวนการทำงานของนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เมื่อเช้านี้ก็ทำงานได้เรียบร้อยดี และได้พบกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ก็ได้คุยเกี่ยวกับเรื่องของงานที่ กทช. ที่ทำงานอยู่ ถึงแม้การชุมนุมจะมีเสียงดังบ้าง ก็ไม่เป็นปัญหาการทำงานก็ปกติดี

 

 

ขอให้ทุกฝ่ายระมัดระวังอย่าให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ยันเปิดกว้างความเห็นต่าง

ต่อข้อถามว่า ดูจากการชุมนุมที่ผ่านมายังมีความเป็นห่วงเรื่องความรุนแรงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราไม่ประมาท เพราะต้องเข้าใจว่าเมื่อมีการชุมนุมและเกิดเหตุการณ์เล็กๆ ที่ไม่เข้าใจกันก็อาจเกิดปัญหาได้ จึงขอให้ทุกฝ่ายระมัดระวัง ส่วนการเจรจากับทางแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นั้น เข้าใจว่าในส่วนการปฏิบัติทางเจ้าหน้าที่ก็มีการเจรจากับทางกลุ่มผู้ชุมนุมตลอดเวลาอยู่แล้ว ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะดาวกระจายไปที่กระทรวงการต่างประเทศนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นการไปแสดงออก เพราะเขามีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าการชุมนุมครั้งนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่คิดอะไร ถือว่าเป็นการมาชุมนุมและแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ ส่วนที่มีการขู่ว่าถ้ารัฐบาลไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องก็จะเดินทางไปชุมนุมที่หัวหินระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็อยากให้ทุกคนช่วยกันรักษาบรรยากาศของบ้านเมือง ที่ผ่านมาคิดว่าก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม "ผมยอมรับว่ามีคนที่ไม่เห็นด้วยกับผมและรัฐบาล แต่ก็ขอให้แสดงออกในขอบเขตที่พอเหมาะ ก็จะช่วยให้การทำงานเดินไปได้ เราก็เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน และอยากให้เขานึกถึงด้วยว่าผมเองก็พยายามทำหน้าที่และงานที่ทำก็ทำให้กับพวกเขาด้วย"

 

ผู้สื่อข่าวว่า เห็นด้วยกับกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทยเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้ และแม้แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้เสนอเรื่องนี้ ต่อข้อถามว่าเห็นด้วยกับแนวคิดตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาเวลานี้ตนไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องของฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล และกลไกการตรวจสอบก็จำเป็นต้องมี ฝ่ายค้านก็ยังทำหน้าที่ตรวจสอบในเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เป็นปกติของระบอบประชาธิปไตย

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมของ นปช. ครั้งนี้ประเมินได้หรือไม่ว่าสถานการณ์ในอนาคตยังจะมีความเคลื่อนไหวมากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงยังตอบไม่ได้เพราะการชุมนุมยังไม่ยุติ และยังไม่ทราบว่าท่าทีในการเคลื่อนไหวจะเป็นอย่างไร แต่คิดว่าไม่น่าส่งผลกระทบต่อการประชุมสุดยอดอาเซียน ซึ่งขณะนี้หน่วยงานด้านการข่าวก็มีการประเมินสถานการณ์กันตลอดเวลา คงต้องรอฟังท่าทีของแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมมากกว่าว่าจะตัดสินใจอย่างไร

 

ต่อข้อถามว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเตือนว่า อย่าประมาทเงินของพ.ต.ท.ทักษิณฯ ซึ่งอยู่เบื้องหลังการชุมนุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่เคยประมาทใครทั้งนั้น และพยายามระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา คำเตือนของนายชวนฯ ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ เพราะคิดว่าหลายคนอาจจะไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่รัฐบาลก็อยากให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลถือหลักการทำงานที่ไม่ตั้งอยู่บนความประมาท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจหรือการเมือง เพราะฉะนั้น เราพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาและแก้ปัญหาให้ดีที่สุด

 

 

เทพเทือกขอบคุณผู้ชุมนุมไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย-เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างอดทน

ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ในฐานะผบ.เหตุการณ์ การชุมนุมของกลุ่มกลุ่มคนเสื้อแดง และพล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. ในฐานะ ผบ.เหตุการณ์ดูแลความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาล ได้ออกเดินตรวจความเรียบร้อย และเตรียมความพร้อมรองรับ รมว.กลาโหมอาเซียนเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี และให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารในการรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล

 

นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องขอบคุณกลุ่มผู้ชุมนุมที่ชุมนุมโดยสงบ ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้งต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วยความอดทน ส่วนตัวมองว่าไม่น่าเป็นปัญหา เพราะนายกรัฐมนตรีและตนเองก็สามารถเดินทาง เข้ามาทำงานภายในทำเนียบรัฐบาลได้ตามปกติ

 

อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลยังไม่ได้ประเมินการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เพราะเรายังสามารถทำงานได้ตามปกติ โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลก็ได้เจรจากับแกนนำกลุ่ม นปช.แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ขณะที่นายสุเทพ ออกมาเดินตรวจดูแล ความเรียบร้อยในการรักษาพื้นที่ทำเนียบฯ ของทหารและตำรวจ บริเวณหน้าตึกบัญชาการ ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันโดยผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้ขว้างปาลูกมะพร้าวและสิ่งของ เข้าไปในทำเนียบฯ ทำให้แกนนำต้องกำชับการ์ดอาสาให้ควบคุมผู้ชุมนุมไม่ให้เข้าใกล้ รั้วทำเนียบฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่ง แต่สภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนเดินเข้าไปด่าทอต่อว่าตำหนิทหาร ที่ให้ความช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลเป็นระยะ ทำให้การ์ดอาสาต้องนำตัวออกไปสงบสติอารมณ์

 

 

สนธิเย้ย นปช. ของปลอม ส่วนพันธมิตรเป็นสุดยอดของการชุมนุมทำเพื่อชาติบ้านเมือง

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวกับ "ผู้จัดการออนไลน์" ว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ไม่ได้สู้เพื่อส่วนรวม แต่สู้เพื่อผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่มหรือคนบางคน จึงไม่มีความอดทน ไม่สามารถชุมนุม ยืดเยื้อได้นาน ต่างจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมได้นานถึง 193 วัน ถือว่าเป็นสุดยอดของการชุมนุม ที่ทำได้นาน เนื่องจากมีจิตใจบริสุทธิ์ มีความเสียสละทำเพื่อชาติบ้านเมือง

 

นายสนธิ กล่าวว่า คนไทยทั่วประเทศไทยต้องตาสว่างเสียที เพราะคนเสื้อเหลืองมาเพราะความรักบ้านรักเมือง แต่คนเสื้อแดงมาชุมนุมเพื่อต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา

 

การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ยังไม่ทันไรก็บอกว่า 2-3 วัน ผมเชื่อว่า พออากาศร้อนเดี๋ยวก็หายไปหมด ถึงเวลารวบรวมเงินได้ก็ขนกันขึ้นมา ถ้าอยู่จริง ทำไมนายขวัญชัย ไพรพนา จึงต้องพาคนกลับ จ.อุดรธานี ยังไม่ทันข้ามคืน ตกเย็นก็กลับแล้ว ฉะนั้นดูเจตนาเห็นชัดแล้วว่าเป็นของปลอม

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมดังกล่าวจะสามารถพา พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาได้หรือไม่ นายสนธิกล่าวว่า ลำบาก พ.ต.ท.ทักษิณอยากใช้ความรุนแรง แต่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยึดมั่นในหลักการ เชื่อว่าแม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะล้อมทำเนียบฯ อย่างไรก็ตามแต่ นายกฯ คงไม่ปราบ ปล่อยให้ทำไป แต่อย่ามาทำอะไรให้เสียหาย เพราะฉะนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงจึงเสียเปรียบ

 

 

สุริยะใสแนะเสื้อแดงทบทวนการเคลื่อนไหว

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เชื่อว่าแกนนำ นปช.คงต้องทบทวนการเคลื่อนไหว เพราะการกำหนด เป้าหมายแตกหักกับรัฐบาลในการชุมนุมครั้งนี้ สถานการณ์ยังไม่สุกงอมพอ มวลชนไม่พร้อม ที่สำคัญสังคมยังไม่รู้สึกว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นจำเลยหรือตกเป็นผู้ต้องหา เว้นเสียแต่ว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านสามารถเปิดแผลรัฐบาลได้ การเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลถึงจะมีความชอบธรรมมากกว่านี้

 

ปัจจัยชี้แพ้ชี้ชนะระหว่างรัฐบาลกับ นปช.จะอยู่ที่หลังการอภิปรายฯ ถ้าฝ่ายค้านมีหลักฐานเด็ดๆ อาจปลุกมวลชนออกมาร่วมมากขึ้น แต่ถ้าไม่อะไรไม่สมราคาคุยฝ่ายค้านก็จบเห่ และส่งผลต่อนายใหญ่คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะอยู่ลำบากมากขึ้น เพราะความชอบธรรมจะตกเป็นของรัฐบาลในที่สุด

 

นายสุริยะใส เตือนว่าถ้าขืนยังปักหลักยืดเยื้อในช่วงนี้จะเป็นการทำลายตัวเองทั้งขวัญกำลังใจและความฮึกเหิมของมวลชน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าวันนี้คนหายไป มากกว่าครึ่งหนึ่ง และถ้าแกนนำยังดื้อดึงไม่ทบทวนการเคลื่อนไหวจะถูกแรงกดดัน หรือถูกต่อต้านจากสังคมมากกว่านี้ แทนที่การชุมนุมจะกดดันรัฐบาลแต่กลุ่มผู้ชุมนุมจะถูกกดดันจากสังคมเสียเอง

 

 

เย้ยโจมตีพันธมิตรฯ มากกว่ารัฐบาลเป็นความผิดพลาด

นายสุริยะใส กล่าวว่าจุดผิดพลาดประการหนึ่งของการชุมนุมรอบนี้ก็คือ การโจมตีพันธมิตรฯมากเป็นพิเศษ ซึ่งถูกโจมตีมากกว่ารัฐบาลด้วยซ้ำ แกนนำ ไม่ให้ความสำคัญกับการเปิดแผลหรือตรวจสอบรัฐบาลเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่พันธมิตรฯ ไม่ใช่รัฐบาลไม่มีอำนาจอะไร ยังถูกดำเนินคดีด้วยซ้ำ อาจเป็นเหตุให้สังคมรู้สึกได้ว่า การชุมนุมครั้งนี้ระบายแค้นมากกว่าเรียกร้องทางการเมือง

 

อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะประเมินการเคลื่อนไหวของ นปช.ต่ำไม่ได้ เพราะอาจได้แนวร่วมจากกลุ่มประชาชนผู้เดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ เช่น ปัญหา คนตกงาน และปัญหาจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลที่เริ่มมีการชุมนุม เรียกร้องถี่ขึ้น รัฐบาลจะต้องมีกลไกที่ไวต่อการแก้ปัญหาปากท้อง หรือความเดือดร้อนของชาวบ้าน ไม่ใช่รอให้เขามาเดินขบวนค่อยไปเจรจา

 

 

นปช. เคลื่อนไปกระทรวงการต่างประเทศ ขับกษิต

ส่วนความเคลื่อนไหวของ นปช. เมื่อเวลา 14.00 น.นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำนปช.ขึ้นเวทีปราศรัยเชิญชวนให้ผู้ชุมนุมเสื้อแดงร่วมเดินขบวนไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขับไล่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ พ้นตำแหน่ง และขอให้ผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งปักหลักอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรอต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จาก 9 ประเทศ ในอาเซียน ที่จะเดินทางมายังตึกไทยคู่ฟ้า ตามคำเชิญของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

 

จากนั้น 14.20 น.นายสุพร อัตถาวงศ์ หนึ่งในแกนนำ ได้นำผู้ชุมนุมตั้งแถวบนถนนพิษณุโลก เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อสมทบกับการชุมนุมของเสื้อแดงที่เดินทางไปล่วงหน้าตั้งแต่เช้า

 

ต่อมา ผู้ชุมนุมได้เดินทางมาถึงบริเวณหน้ากระทรวงการต่างประเทศ เวลา 14.45 น. โดยเมื่อเดินทางมาถึงกลุ่มเสื้อแดงได้แบ่งเวทีออกเป็น 2 ด้าน คือ ด้านประตูทางเข้าฝั่ง ถ.พระราม 6 และเวทีด้าน ถ.ศรีอยุธยา บริเวณหน้ากรมทางหลวง ซึ่งได้มีการปิดเส้นทางจราจรบริเวณถนนฝั่งพระราม 6 ตั้งแต่บริเวณแยกศรีอยุธยา โดยเวทีปราศรัยหลักด้าน ถ.ศรีอยุธยา ได้มีการโจมตีการปฏิบัติหน้าที่ของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ว่า มาจากรัฐบาลที่ถูกตั้งมาโดยไม่ชอบธรรม โดยมีนายชินวัตร หาบุญพาด นายกสมาคมพิทักษ์ผลประโยชน์แท็กซี่และแกนนำวิทยุชุมชุน ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำ นปช. เป็นผู้รับผิดชอบเวทีหลักดังกล่าว ส่วนเวที ถ.ศรีอยุธยา มีนายสุพร อัตถาวงศ์ เป็นผู้รับผิดชอบ ขณะที่การดูแลรักษาความปลอดภัยมีกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เทศกิจกทม.ทั้งในและนอกเครื่องแบบ กระจายกำลังอยู่จำนวนมาก ขณะที่ด้านในกระทรวงการต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัยได้กระจายกำลังเฝ้าบริเวณประตูทางเข้าออกอย่างแน่นหนา

 

 

นายกฯ ออกจากรัฐสภาไปทำเนียบต้อนรับ รมต.กลาโหมอาเซียน

เมื่อเวลา 14.55 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากรัฐสภา เพื่อมาต้อนรับรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอาเซียนที่มาเข้าพบที่ทำเนียบฯ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อเห็นขบวนของนายกรัฐมนตรีกลับเข้ามาอีกครั้ง ก็ได้ยกตีนตบขึ้นตบและตะโกนด่าทอเสียงดัง แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น

 

 

"ชวรัตน์" เตรียมสั่งตั้งด่านสกัดเสื้อแดงชุมนุมหัวหิน

ที่การประปานครหลวง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงการชุมนุมโดยเฉพาะภาพลักษณ์ของประเทศ เพราะหากสื่อต่างประเทศนำภาพการชุมนุมไปออกอากาศ อาจทำให้ต่างประเทศเข้าใจผิดได้ เนื่องจากเขาไม่เข้าใจว่าสถานการณ์ในประเทศว่าความจริงแล้วเป็นอย่างไร ตนอยากขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมว่าควรให้เกียรติกับรัฐบาลด้วย อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มเสื้อแดงจะตามไปชุมนุมที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมอาเซียนนั้น เราก็ได้เตรียมตั้งด่านสกัดไว้แล้ว โดยจะเริ่มตั้งแต่ จ.เพชรบุรี

 

นายชวรัตน์ กล่าวถึงกรณีที่ครม. มีมติมอบหมายให้ กระทรวงศึกษาธิการไปหารือร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย ไปหารือเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนมโรงเรียนว่า ทั้งสามกระทรวงจะมาร่วมประชุมกัน ซึ่งขณะนี้ทั้งกระทรวงที่ได้รับมอบหมาย ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อหารือกันแล้ว

 

 

ณัฐวุฒิลั่นอยู่ได้หลายเดือน ยันไม่ยึดทำเนียบซ้ำรอยพันธมิตร

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช. กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุม ว่า การชุมนุมในวันนี้เป็นวันที่ 2  กลุ่มคนเสื้อแดงสามารถที่จะชุมนุมต่อเนื่องได้ถึง 3 เดือนหรือกระทั่ง 4-5เดือนก็สามารถที่จะอยู่ได้ระบบต่างๆ เริ่มเข้าที่เข้าทาง เช่น ระบบการจัดอาหารการกิน สาธารณูปโภค  และในวันนี้การที่เราเดินทางไปยังกระทรวงต่างประเทศเพื่อขับไล่ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่าดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงยังยืนยันที่จะชุมนุมด้วยวิธีที่สันติ และเราเชื่อว่าหากเราเดินต่อไปเช่นนี้  ถือว่าเราเดินมาถูกทางและไม่มีทางแพ้ แม้ว่าคนเสื้อแดงจะมีข้อจำกัดมากมาย หากเราบุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลจะมีความสะดวกมากกว่านี้ เนื่องจากมีทั้งที่พัก ห้องน้ำและกระแสไฟฟ้าเรื่องอาคารสถานที่ แต่เราไม่ทำ เพราะไม่อยากทำซ้ำรอยกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เนื่องจากหนทางนั้นไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย

 

"ขอให้รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มีความสำนึก และได้ทำตามความเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดง 4 ข้อ โดยข้อที่ 1และ2 คือให้ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ปลด นายกษิต ออกจากรัฐบาล ส่วนข้อที่3และ4คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน  โดยทุกอย่างรัฐบาลต้องทำด้วยใจที่บริสุทธิ์  ไม่เช่นนั้นการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง จะทวีความเข้มข้นขึ้น"นายณัฐวุฒิ กล่าว

 

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนอยากถามถึงความจริงใจของนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้มอบหมายให้ตำรวจมมาแถลง คดีออกหมายจับกลุ่มพันธมิตร  21ราย ปรากฏว่าพล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน รองผบ.ชน. จำเป็นที่จะต้องเลื่อนการออกหมายจับออกไปโดย ระบุว่า พล.ต.อ. วันชัย ศรีนวลนัฐ ไม่อยู่ไปราชการต่างประเทศ ทำให้ไม่มีผู้พิจารณาการออกหมายจับ แต่มาวันนี้ พล.ต.อ.วันชัย กับให้สัมภาษณ์ เว็บไซด์  ตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.ยังไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลย และอยู่ในประเทศไทยตลอดเวลาและไม่มีความเกี่ยวข้องต่อการออกหมายจับกลุ่มพันธมิตรแต่อย่างใด ตนอยากตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่าการกระทำอย่างนี้ถือเป็นการแหกตาประชาชนครั้งใหญ่หรือไม่  ตกลงรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรหรือแล้วแต่ความพอใจของ พธม. ดังนั้นนายสุเทพ และ นายอภิสิทธิ์ ต้องมีคำชี้แจงในเรื่องนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย

 

 

จักรภพเผยเตรียมขึงผ้าขาวรอบทำเนียบให้คนแสดงความเห็น

ส่วนนายจักรภพ เพ็ญแข กล่าวถึงการชุมนุมในวันนี้ว่า วันนี้ภารกิจของเราถือว่าประสบความสำเร็จ คือการเดินทางไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ที่มีคนไปร่วมประมาณ 1,500 คน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ด้วยลาออกหรือไม่ก็ปลดออกเราไม่สนใจวิธีการ เพราะเป็นรัฐมนตรีที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไม่ได้ และระหว่างที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทั้ง 9 ชาติอาเซียน ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลนั้น มวลชนคนเสื้อแดงได้แถลงประกาศบนเวทีเป็นภาษาอังกฤษ มีจุดประสงค์เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบโดยตรง และในพรุ่งวันนี้เราจะขึงผ้าขาว ซึ่งมีหน้ากว้างประมาณขนาด 90 เซนติเมตร ขึงรอบประตู 1 ทำเนียบรัฐบาลยาวตลอดรั้วจนสุดรั้วกำแพงของทำเนียบรัฐบาล บริเวณตรงข้ามสำนักงานข้าราชการพลเรือน ก.พ. และเราจะแจกสี ให้ประชาชนที่ต้องการฝากความรู้สึกนึกคิดไว้บนผ้าใบนั้น โดยไม่ใช้คำหยาบ คำที่ผิดกฎหมาย คนเสื้อแดงไม่เน้นจำนวนแต่จะเน้นคงเส้นคงวา

 

เมื่อถามว่าในวันพรุ่งนี้ (26ก.พ.) การชุมนุมจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรุ่งนี้ในช่วงเวลา 14.00น. เราหารือกันว่าไหนๆ ก็มาบริเวณนี้กันแล้ว องค์กรอิสระ เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ปปช. ว่าเป็นหน่วยงานที่มีที่มาโดยมิชอบ ไม่ได้รับพระราชองค์การโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้ามาโดยคำสั่งแต่งตั้ง ซึ่งเราจะแสดงสัญญาลักษณ์บริเวณอาคาร ปปช.

 

ถามว่ามีการประเมินสถานการณ์อย่างไรนายจตุพร กล่าวว่าเรามีการประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน มาว่าจะเป็น 3 วันหรือ 7 วันก็สามารถจัดการชุมนุมได้ชุมนุมยาวเท่าไหร่ก็ได้

 

 

ที่มา: เรียบเรียงจาก ASTV ผู้จัดการออนไลน์ แนวหน้า และสำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี